“ชุยเฒ่า รีบมาดูนี่สิ!” อวี๋หวั่นกระซิบกับชุยเฒ่าขณะจ้องมองใบหน้าของหานจิ้งซู
“ทำไมหรือ?” ชุยเฒ่าโน้มตัวลงมา
ทันทีที่เห็นใบหน้าของหานจิ้งซู ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ “นางโดนกู่ใดกัน? เหตุใดคล้ายกับคนถูกพิษ? โดนกู่จริงๆ หรือ?”
ทั้งคู่รู้ว่าจวินฉางอันเป็นยอดฝีมือกำลังภายใน มีหูที่ดีมาก ยามเอ่ยพวกเขาจึงรักษาระดับเสียงให้เบาที่สุด
อวี๋หวั่นกล่าว “โดนกู่ ข้าแน่ใจ ทว่ากู่ชนิดนี้แตกต่างจากที่เราเคยพบมา”
อย่างที่ชุยเฒ่ากล่าว ดูคล้ายกับถูกวางยามากกว่า
กู่ทั่วไปจะมีฤทธิ์เฉพาะตัว เช่น ฉิงกู่จะทำให้จิตใจสับสน หยากู่จะทำให้เป็นใบ้ไปชั่วขณะ แต่มีประโยคหนึ่งที่ชาวหนานจ้าวพูดต่อๆ กันมาเกี่ยวกับการโดนกู่ว่า อย่าข้องแวะกับชาวหนานเจียง พวกเขาใช้กู่ได้แม้กระทั่งกับเด็ก เจ้าโดนกู่เมื่อใดก็ยังไม่รู้ตัว!
คำพูดนี้เกินจริงไปสักหน่อย แต่มันก็บอกให้รู้ถึงอาการบางอย่าง นั่นคือยามที่คนโดนกู่ ภายนอกมักไม่แสดงอาการผิดปกติมากนัก ไม่เช่นนั้นหากจุดอิ่นถังเปลี่ยนเป็นสีดำ ริมฝีปากม่วง เล็บดำแล้ว ใครจะมองไม่ออกว่าคนผู้นี้ผิดปกติไปหรืออย่างไร?
“ฮึ่ม…ใช่แล้ว” ชุยเฒ่าสูดหายใจเบาๆ พับแขนเสื้อนางขึ้น พร้อมกับปลดกระดุมตรวจดูร่างกาย เขาบรรลุถึงระดับนี้แล้ว ในสายตามีเพียงผู้ป่วย ไม่มีความแตกต่างระหว่างชายหญิง หลังจากตรวจเสร็จ ราวกับเข้าใจว่าหมอหลวงวินิจฉัยอย่างไร “แค่ดูใบหน้าและเล็บของนาง หมอทั่วไปคงสงสัยว่านางถูกพิษร้ายแรง แม้แต่ชีพจรก็ยังคล้ายคลึงนัก แต่ระหว่างกู่กับพิษมีความแตกต่างหนึ่งที่ชัดเจน บนร่างกายจะไม่มีใยกู่”
นั่นคือตอนที่หนอนกู่เดินผ่านร่างกายของนาง ทำให้เลือดชะงักงัน ซึ่งสะท้อนบนผิวหนังของนาง
จะเห็นได้ว่าหมอที่ตามมารักษานั้นก็มีความสามารถอยู่บ้าง
อวี๋หวั่นปล่อยสัตว์พิษตัวน้อยออกมาและพูดกับมันว่า “เจ้าสามารถจับกู่ของนางออกมาได้หรือไม่?”
สัตว์พิษตัวน้อยพยักหน้า
ในนานสัตว์พิษตัวน้อยก็ส่ายหัว
ทั้งสองมองดูอย่างงุนงง มันตกลงบนฝ่ามือของอวี๋หวั่น บีบคอด้วยกรงเล็บราวกับคนใกล้ตาย
“เอ่อ…มันหมายความเช่นไร?” ชุยเฒ่าสับสน
อวี๋หวั่นเอ่ย “มันต้องการบอกเราว่า หากจับกู่ตัวนั้นออกมา หานจิ้งซูจะตาย”
อวี๋หวั่นขมวดคิ้ว “หากอาเว่ยอยู่ที่นี่ก็คงดี เขาต้องรู้แน่ว่ามันคือกู่อะไร และจะแก้ได้อย่างไร…”
ในเวลานี้อวี๋หวั่นคิดถึงอาเว่ยจริงๆ แม้เธอจะสามารถควบคุมกู่ได้ แต่ก็ไม่ใช่เพราะมีศาสตร์กู่ที่ยอดเยี่ยม หากแต่เพราะเธอมีสัตว์พิษตัวน้อยอยู่ต่างหาก
ชุยเฒ่าขมวดคิ้ว “หากเป็นเช่นนี้…ก็มีทางเดียวเท่านั้น”
“ทางใด?” อวี๋หวั่นถาม
ชุยเฒ่าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “สังหารคนที่ใช้กู่! หากเขาตาย กู่ที่เขาใช้ก็จะถูกคลายไปเอง”
“มีวิธีเช่นนี้ด้วยหรือ?” ตลอดเวลาที่ผ่านมาอวี๋หวั่นพบเจอกู่มาไม่น้อย แต่เพราะไม่มีกู่ตัวใดแข็งแกร่งเท่ากับสัตว์พิษตัวน้อย จึงแก้ไขได้อย่างง่ายดาย ไม่วุ่นวายถึงขั้นที่ต้องตามฆ่าล้างผู้ที่ใช้กู่ชนิดไม่ตายไม่เลิกเช่นนี้
“ข้าก็บังเอิญได้ยินฉิวปิ่งพูดนั่นแหละ!” ชุยเฒ่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาม่า อาม่าชอบฟังเขาเล่าเรื่องตลก เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน อาม่าจึงบอกเขาเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปด้านเวทมนตร์คาถากู่ รวมถึงเกล็ดความรู้การสังหารปรมาจารย์พิษเช่นนี้ด้วย
ในเมื่ออาม่ากล่าวเช่นนี้ ย่อมต้องเป็นความจริง
เพียงแต่…พวกเขาจะไปหามือสังหารที่ใช้กู่ได้ที่ใด?
อวี๋หวั่นพึมพำ “เมืองหลวงกว้างใหญ่เช่นนี้ มือสังหารจะอยู่ที่ใด?”
ชุยเฒ่าเตือน “นางมีเวลาไม่ถึงห้าชั่วยามแล้ว ทันทีที่ฟ้าสาง หากยังไม่สังหารคนลงกู่ แม้ทวยเทพก็หมดหนทางช่วย”
“จี๊ดๆๆ!”
สัตว์พิษตัวน้อยใช้กรงเล็บไต่กระโดดขึ้นมา!
อวี๋หวั่นมองมันแล้วเอ่ยว่า “เจ้ารู้ว่าจะหาคนลงกู่อย่างไรหรือไม่?”
สัตว์พิษตัวน้อยพยักหน้าๆๆ!
“แต่จะอธิบายเรื่องนี้กับจวินฉางอันอย่างไร?”
พูดไปตรงๆ ว่ากู่ที่พระชายารัชทายาทโดนนั้นจำเป็นต้องฆ่ามือสังหารจึงจะสามารถแก้ไขได้ อะไรนะ? เจ้าไม่รู้ว่ามือสังหารอยู่ที่ใด? ไม่เป็นไร ข้ารู้!
ข้าจะรู้ได้อย่างไร?
สัตว์พิษตัวน้อยของข้ามีความสามารถไง!
สัตว์พิษตัวน้อยอันใดกัน?
… นี่ยังไม่นับว่าเผยไพ่ตนเองหรอกหรือ?
ความจริงแล้ว ของศักดิ์สิทธิ์แห่งหนานจ้าวเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอจะโยงไปถึงยารักษาเยี่ยนจิ่วเฉา แต่อย่างไร ยารักษาเยี่ยนจิ่วเฉาก็คือราชินีสัตว์พิษ ไม่ใช่สัตว์พิษตัวน้อย แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด อวี๋หวั่นจึงมีลางสังหรณ์ไม่ดีนัก สรุปว่าการไม่เปิดเผยสัตว์พิษตัวน้อยดีที่สุด!
ยามนี้อวี๋หวั่นยังไม่รู้ว่าการตัดสินใจชั่ววูบของตนนั้นถูกต้องเพียงใด สัตว์พิษตัวน้อยเป็นราชาหมื่นสัตว์พิษ มาถึงหมิงตูถึงพบว่าจริงๆ แล้วเป็นร่างของจักรพรรดิสัตว์พิษ กระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดรู้ว่าสัตว์พิษตัวน้อยไม่ได้เป็นเพียงร่างจักรพรรดิสัตว์พิษธรรมดา…
ตึก! ตึก! ตึก!
สัตว์พิษตัวน้อยนั่งไม่ติด กระโดดโลดเต้นไปมา!
วันว่างที่แสนน่าเบื่อในช่วงนี้มีเพียงอวี๋หวั่นคนเดียวหรือ? มันก็ด้วย!
ไม่มีการต่อสู้ ช่างเปล่าเปลี่ยว!
อวี๋หวั่นกุมขมับ “ได้ๆๆ เดี๋ยวข้าพาเจ้าไป อย่าก่อเรื่องละ! หากใครพบเจ้าเข้า ข้าไม่สนใจเจ้านะ!”
สัตว์พิษตัวน้อยทำตัวเชื่อฟังในทันที
สิ่งที่น่ากลัวกว่าการถูกจับตัวไปคือ อวี๋หวั่นไม่ต้องการมันแล้ว มันจะไม่มีบ้านให้อยู่
พอจับได้ก็หนีได้เอง แต่หากอวี๋หวั่นไม่ต้องการ มันก็ไม่มีบ้าน
สัตว์พิษตัวน้อยก้มหน้าอย่างน้อยอกน้อยใจ
อวี๋หวั่นเอ่ยกับชุยเฒ่า “เรื่องนี้…จะให้จวินฉางอันรู้ไม่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]