สารหนูนั้นถูกทำให้บริสุทธิ์ ออกฤทธิ์รวดเร็ว องค์ประมุขแทบจะรู้สึกได้ในทันที
องค์ประมุขเป็นผู้ที่เคยเผชิญคลื่นลมครั้งใหญ่ ยามที่ยังเป็นองค์ชาย เขาไม่โชคดีเช่นประมุขหญิง นางเป็นเลือดเนื้อเพียงคนเดียวที่เขาเลี้ยงดูอยู่ข้างกาย ส่วนเขาเป็นโอรสที่เกิดจากสนม สูงกว่ามีองค์ชายใหญ่ที่เกิดจากหวงกุ้ยเฟย ต่ำกว่ามีองค์ชายทั้งห้าที่ถือกำเนิดตามมาและยังมีพี่น้องอีกมากมาย ทุกคนต่างเฝ้ารอตำแหน่งว่าที่ประมุข เขาครอบครองสิทธิ์การปกครอง เขาเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุด หากปราศจากการคุ้มครองจากฮองเฮาและฝ่ายมารดา องค์ประมุขก็คงได้รับความทรมานจากการลอบทำร้ายไม่น้อยไปกว่าเยี่ยนจิ่วเฉา
แน่นอน เขาโชคดีกว่าเยี่ยนจิ่วเฉา เขามีบิดาที่สามารถปกป้องเขาได้
ผ่านสถานการณ์อันน่ากลัว แต่ไม่มีอันตรายใดๆ มาหลายครา ไม่เกิดเรื่องใหญ่จนเติบใหญ่มีความสามารถ
ทันทีที่องค์ประมุขสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาด ก็รีบร้อนตะโกนสั่งขันทีหวัง “จ้าวอี๋จื่อ[1]!”
ขันทีหวังสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ รีบไปนำน้ำจ้าวอี๋จื่อมาจากห้องครัวเล็ก
ประมุขใช้น้ำจ้าวอี๋จื่อทำให้ตนเองอาเจียนสำรอกพิษในร่างกายออกมา
อย่างไรก็ตาม พิษบางส่วนถูกดูดซึมไปแล้ว ใบหน้าขององค์ประมุขเป็นสีม่วง จุดอิ้งถังเป็นสีดำ ทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
ไข่ดำทั้งสามวิ่งไปตามอวี๋หวั่นด้วยสีหน้าตกใจ
อวี๋หวั่นจับชีพจรก็รับรู้ได้ทันทีว่าเขาถูกสารหนู
ในชนบทก็มีสารหนู ทว่านำมาใช้เป็นยาฆ่าหนู ผงเพียงหนึ่งช้อนสามารถฆ่าหนูได้ทั้งหมู่บ้าน
สารหนูที่องค์ประมุขได้รับ ไม่ใช่สารหนูธรรมดา มันถูกทำให้บริสุทธิ์ ความเป็นพิษใกล้เคียงกับเห้อติ่งหง (สารตั้งต้นของสารประกอบสารหนู)อย่างยิ่งยวด หากไม่ใช่เพราะองค์ประมุขสำรอกพิษออกมาในเวลานั้น เกรงว่าคงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว
ถึงจะเป็นเช่นนั้น พิษที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายก็มิใช่ว่าขจัดออกไปได้โดยง่าย
อวี๋หวั่นให้ฝูหลิงพาองค์ประมุขเข้าไปในห้องข้างๆ
ขันทีหวังหมายจะไปเรียกทหารองครักษ์มาหามองค์ประมุข ก็เห็นสาวใช้หลังเสือเอวหมีคนหนึ่งอุ้มองค์ประมุขเข้าไปได้อย่างสบายๆ
ขันทีหวังที่จู่ๆ ก็ไม่รู้จะกล่าวสิ่งใด “…”
ขั้นแรกอวี๋หวั่นฝังเข็มป้องกันหัวใจขององค์ประมุขก่อน จากนั้นจึงให้จื่อซูไปตามชุยเฒ่า
“เป็นเช่นนี้วันแล้ววันเล่า ให้หยุดพักสักวันได้หรือไม่!”
ทั้งต้องระงับพิษของเยี่ยนจิ่วเฉา ทั้งต้องรักษาอาการบาดเจ็บของเห้อเหลียนเป่ยหมิง มาจนถึงจวนประมุขหญิงก็ยังต้องร่วมมือกับราชบุตรเขยแสร้งป่วย เขารู้สึกเหมือนหัวจะระเบิด ในที่สุดก็มีช่วงเวลาเพียงน้อยนิดให้พักผ่อน แต่แล้วก็ถูกตามตัวไปล้างพิษแก่องค์ประมุขอีก
“หมอหลวงหนานจ้าวของพวกเจ้าตายกันไปหมดแล้วหรือ?!”
ชุยเฒ่าโกรธจัด
ชุยเฒ่าทำให้องค์ประมุขอาเจียนออกมาไม่หยุด
จนองค์ประมุขแทบจะสำรอกน้ำดีออกมา
องค์ประมุขครองบัลลังก์มาเนิ่นนาน เขาลืมความรู้สึกของการถูกลอบทำร้ายไปนานแล้ว ทว่ายามนี้กลับผุดขึ้นในจิตใจจนหมดสิ้น ในหัวเต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่วนเวียนอยู่กับความเป็นความตาย
เขาไม่คาดคิดเลยว่าอายุมากถึงเพียงนี้จะต้องพบกับความโชคร้ายกะทันหันที่คาดไม่ถึง
ชุยเฒ่าลงมืออย่างรุนแรง หนึ่งเพราะ หากไม่แรงก็ไม่อาจช่วยชีวิตได้ สองเพราะ เขากำลังจะนอน ทว่าจู่ๆ ก็ถูกคนตะโกนปลุกจนตกใจตื่น ทำให้เขาหงุดหงิดยิ่งนัก
การช่วยเหลือผ่านไปครึ่งค่อนคืน ชีวิตขององค์ประมุขนับว่าถูกปกป้องไว้ได้ แต่ก็ถูกกระทำอย่างรุนแรงจนหมดสภาพ
เขานอนอยู่บนเตียงคนป่วย ผมเผ้ากระเซิงยุ่งเหยิง ใบหน้าซีดราวกับถูกคนรุมทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม
เหตุการณ์ใหญ่โตแบบนี้ แม้จวนประมุขหญิงไม่อยากเป็นเรื่องฮือฮาก็คงไม่ได้
ได้ยินมาว่าองค์ประมุขถูกวางยาพิษที่จื่อเวยเก๋อ
ปฏิกิริยาแรกของประมุขหญิงคือ เสด็จพ่อมาหานาง? ในใจของเสด็จพ่อยังมีนางอยู่จริงๆ!
ปฏิกิริยาที่สองคือ เหตุใดเสด็จพ่อถึงตรงไปยังจื่อเวยเก๋อ?
จากนั้นถึงลุกขึ้นอย่างฉับพลัน “เจ้าว่าอย่างไรนะ? เกิดอันใดขึ้นกับพ่อของข้า?”
ทหารรักษาพระองค์ที่เข้ามารายงานข่าวกล่าวว่า “ฝ่าบาท พระองค์…พระองค์…พระองค์ถูกวางยาพ่ะย่ะค่ะ!”
แน่นอนหนานกงหลีก็ได้รับข่าวเช่นกัน แต่ช้ากว่าประมุขหญิง เพราะเขาลงไปยังคุกใต้ดิน กว่าจะขึ้นมาก็เป็นเวลาหลังเที่ยงคืนแล้ว
องครักษ์ประจำเรือนนำเรื่ององค์ประมุขถูกวางยาในจื่อเวยเก๋อรายงานแก่หนานกงหลี
หนานกงหลีไม่ได้คิดว่าองค์ประมุขเดินทางมาเยี่ยมประมุขหญิง เก้าในสิบคงเพราะได้ยินว่าราชบุตรเขยฟื้นแล้ว จึงมาไต่สวน ดังนั้นหากเขาปรากฏตัวที่จื่อเวยเก๋อก็ไม่แปลกใจ
ท่านตาถูกวางยาที่จื่อเวยเก๋อ ไม่ว่าผู้ใดทำ ก็คงไม่อาจปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนในจื่อเวยเก๋อ เป็นเช่นนี้ก็ดี ไม่จำเป็นต้องให้เขาออกแรงสร้างความแตกแยกแก่ประมุขหญิงและราชบุตรเขย องค์ประมุขก็ทำให้คนพวกนั้นพบกับความโชคร้ายไปเสียก่อน
เขาครุ่นคิดร้อนใจกับเรื่องหน่วยกล้าตายกึ่งซิวหลัวทั้งสาม จึงไม่ได้คิดมาถึงตนเอง
จนกระทั่งเขาดื่มชาไปหลายจิบ ก็ค่อยๆ รู้สึกถึงความผิดปกติ “ช้าก่อน องค์ประมุขถูกวางยาได้เยี่ยงไร?”
ผู้คุมกล่าวว่า “ว่ากันว่า…ทรงเสวยถังหูลู่ไปเพียงคำเดียว”
หนานกงหลีสีหน้าพลันเปลี่ยนกะทันหัน!
องค์ประมุขร่างกายอ่อนแอตลอดทั้งคืนภายในจื่อเวยเก๋อ วันที่สองถึงมีแรงจัดการเรื่องที่ตนถูกวางยา
แน่นอน เขาไม่จำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ด้วยตนเอง ขันทีหวังก็ตรวจสอบมาอย่างชัดเจนแล้ว
องค์ประมุขถูกยาพิษหลังจากกินถังหูลู่นั้นเข้าไป พิษนั้นจะต้องอยู่บนถังหูลู่ ขันทีหวังเป็นชายชราที่อยู่ในวังหลวง แค่ขบคิดเพียงเล็กน้อยก็พอจะเดาออก
เพื่อตรวจสอบการคาดเดา เขาจึงนำถังหูลู่ทั้งหมดที่ไข่ดำทั้งสามมอบให้องค์ประมุข มาให้อวี๋หวั่นทดสอบยาพิษ
อวี๋หวั่นแช่ถังหูลู่ในน้ำสะอาดและลองใช้เข็มเงินจุ่ม เป็นดังคาด เข็มเงินเปลี่ยนเป็นสีดำ
เดิมทีถังหูลู่เหล่านี้มอบให้กับบุตรชายของเธอ หากไม่ใช่เพราะองค์ประมุขเข้ามาขวางก่อนและแลกเปลี่ยนถังหูลู่ของพวกเขากับฝูหยวนจื่อ ก็คงเป็นบุตรชายที่รักทั้งสามของเธอที่ถูกวางยาในตอนนี้
ของเหล่านี้ ประมุขหญิงสั่งให้คนไปซื้อ นางจึงเป็นที่น่าสงสัยที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]