ช่วงเวลาเร่งรีบ หนานกงหลีไม่มีเวลาเลือกยาพิษ คว้ายาสารหนูขวดหนึ่งออกมาอย่างลวกๆ แต่มันก็เพียงพอที่จะใช้จัดการคนแล้ว สารหนูนั้นมีฤทธิ์ร้ายแรงมาก แม้แต่ยอดฝีมือกินเข้าไปก็ยากจะรอด นับประสาอะไรกับเด็กที่อายุไม่เกินสามขวบ
หนานกงหลียิ้มมุมปากอย่างมีชัย
ขณะคิดเรื่องนี้ ชายในชุดดำกระโดดลงมาจากคานบ้าน และยกมือขึ้นคำนับ “องค์ชาย!”
เมื่อครู่นี้เขาเองก็อยู่ในห้องด้วย เด็กรับใช้พรวดพราดเข้ามา เขาไม่อาจหาที่ซ่อนตัวได้ จึงกระโดดขึ้นไปบนคาน
หนานกงหลีสัมผัสถึงได้ทันทีที่เข้ามาในห้อง จึงไม่แปลกใจที่เห็นเขากระโดดลงมาในตอนนี้
ชายในชุดดำเป็นคนสนิทของหนานกงหลี ช่วยหนานกงหลีจัดการเรื่องที่ไม่อาจให้ผู้ใดรับรู้ แม้ประมุขหญิงก็ไม่ทราบว่ามีบุคคลตัวฉกาจเช่นเขาอยู่ที่นี่
ชายชุดดำมองไปยังทิศทางที่เด็กรับใช้เดินจากไปและคาดเดาว่า “องค์ชายต้องการวางยาเด็กพวกนั้นหรือ? ข้างกายพวกเขามีหมอเทวดาอยู่ บุตรสาวจวนเห้อเหลียนก็รู้วิชาแพทย์ หากถูกพบ…”
หนานกงหลียิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ถูกพบแล้วอย่างไร? คนก็เป็นประมุขหญิงที่ส่งไป และของก็เป็นประมุขหญิงที่บอกให้ซื้อมา พวกเขาจะมาสงสัยข้าได้อย่างไร? แม้จะรู้ว่าข้าเคยสัมผัสสิ่งเหล่านั้น แต่ข้าเป็นบุตรของประมุขหญิง ประมุขหญิงก็ยังคงต้องการทำให้ตนเองบริสุทธิ์อยู่อีกหรือ?”
ชายชุดดำกล่าวว่า “องค์ชายหมายความว่า…จะทำให้พวกเขาสงสัยในตัวประมุขหญิง?”
หนานกงหลีหัวเราะเยาะ “ท่านแม่ซื่อสัตย์ต่อคนกลุ่มนั้น แต่กลับถูกตอบแทนด้วยความสงสัย เจ้าคิดว่าท่านแม่ของข้าจะรู้สึกผิดหวังกับพวกเขาบ้างหรือไม่เล่า?”
ชายชุดดำกล่าวอีกครั้ง “แต่หากไม่พบ แล้วเด็กเหล่านั้นกินเข้าไปจริงๆ เล่า?”
หนานกงหลีเล่นกับขวดยาในมือ “หากเด็กตาย ท่านแม่ของข้าไม่ยิ่งแก้ตัวไม่ออกหรอกหรือ? ชีวิตคนสามคน แม้พวกเขาไม่อยากแตกคอกันก็คงเป็นไปไม่ได้!”
ชายในชุดดำที่เข้าใจว่าด้วยเหตุนี้เองพยักหน้า แต่เมื่อนึกบางอย่างได้จึงเอ่ยด้วยความสงสัย “แล้วหาก…คนอื่นกินเข้าไปละ?”
หนานกงหลียิ้ม “คนอื่น? ในจื่อเวยเก๋อมีคนใดที่ไม่ใช่คนของพวกมันรึ? หากเป็นสาวใช้ตัวหนานั่นที่ต้องตาย ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกมันทุกข์ใจไปนานแสนนานแล้ว มีหรือพวกมันจะไม่คิดว่าสิ่งนี้เดิมทีมีไว้ให้ลูกๆ ของมัน? แค่ถูกคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่กินเข้าไปเท่านั้น หากเป็นเช่นนี้ จะไม่สงสัยท่านแม่แล้วตัดสัมพันธ์กับนางหรือ?”
“ดังนั้น ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ประมุขหญิงก็จำต้องถูกกำหนดให้เป็นปฏิปักษ์กับพวกเขา ฝ่าบาททรงพระปรีชายิ่ง กระหม่อมขอคารวะ!” ชายในชุดดำกล่าวด้วยความจริงใจ
หนานกงหลี ไม่ใช่คนที่จะสับสนกับคำเยินยอ เขาโบกมืออย่างเฉยเมย “เอาละ ไม่จำเป็นต้องกล่าวเรื่องนี้ เจ้ามาหาข้าดึกดื่นเช่นนี้ ที่คุกใต้ดินเกิดเรื่องหรือ?”
“มีเรื่องเล็กน้อย ทว่า…” ชายในชุดดำกล่าวถึงตรงนี้ ก็เผยรอยยิ้มมีนัย “หาใช่เรื่องเลวร้าย”
“อ้อ?”
“ฝ่าบาทโปรดตามข้ามา”
หนานกงหลีกับชายในชุดดำไปที่คุกใต้ดินของจวนประมุขหญิง
คุกใต้ดินของจวนประมุขหญิงนั้นเดิมใช้เพื่อกักขังข้ารับใช้ที่ทำผิดกฎ แต่ด้วยการสร้างบารมีและอำนาจ ข้ารับใช้ที่ดื้อด้านจึงถูกขับออกไปทั้งหมด ผู้ที่ยังอยู่จึงเหลือเพียงพวกที่ซื่อสัตย์ภักดี คุกใต้ดินจึงถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งาน
หลังกลับจากเผ่าปีศาจ หนานกงหลีก็ยึดคุกใต้ดินนี้เป็นของตัวเอง
ผู้ถูกจองจำหาใช่นักโทษ แต่เป็นหน่วยกล้าตายที่ถูกนำกลับมาจากเขตต้องห้ามของเผ่าปีศาจ
หน่วยกล้าตายมีต้นกำเนิดมาจากเผ่าปีศาจ และมีเพียงหน่วยกล้าตายของเผ่าปีศาจเท่านั้นที่เป็นหน่วยกล้าตายที่แข็งแกร่งมากที่สุดในใต้หล้า ทว่าหนานกงหลีก็ยังไม่พอใจ
เขาขโมยความลับการสร้างซิวหลัวจากเผ่าปีศาจ เอาเลือดพิษของซิวหลัว และสร้างซิวหลัวคนใหม่ในคุกใต้ดินอันมืดมิดไม่เห็นแสงตะวันแห่งนี้
หน่วยกล้าตายที่คลุ้มคลั่งมีถึงหนึ่งร้อยแปดสิบคน แต่มีน้อยกว่าห้าคนที่รอดชีวิตจริงๆ ในบรรดาห้าคนนั้นมีสองคนที่พลังวรยุทธ์หมดสิ้น มีสามคนที่เหลือรอดก็น่ายินดีมากแล้ว
หนานกงหลีมองหน่วยกล้าตายที่ถูกมัดติดกับเสาเหล็กและยังคงคลุ้มคลั่ง เขาหรี่ตาลง “ใกล้แล้ว ใช่หรือไม่?”
ชายในชุดดำยกมือคารวะ “ขอรับ องค์ชาย พวกเขาเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนเป็นซิวหลัวครึ่งหนึ่งแล้ว ในอีกสิบวันครึ่งเดือนพวกเขาจะกลายเป็นซิวหลัวที่แท้จริง”
หนานกงหลียกมุมปากเล็กน้อย “เป็นอย่างที่คิด เมื่อมีเลือดของซิวหลัวก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว”
ซิวหลัวที่ทรงพลังทั้งสาม แค่คิดก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากแล้ว ซิวหลัวที่มีอยู่ตอนนี้ไม่ได้เลวร้าย แต่ยากที่จะควบคุมมากเกินไป แล้วยังต้องไปเอาใจด้วยตนเอง สามคนนี้ถูกปรมาจารย์พิษอาวุโสเมิ่งลงหนอนพิษตั้งแต่แรก
พวกมันจะเชื่อฟังเขาโดยไม่ต้องจองจำ
หากซิวหลัวคนแรกเชื่อฟัง เขาก็จะเก็บมันไว้
หากไม่เช่นนั้น เขาจะปล่อยให้ทั้งสามฆ่าเขาเสีย!
ชายในชุดดำพูดอย่างตื่นเต้น “พวกเขาไม่เพียงแต่ใช้เลือดของซิวหลัวเท่านั้น แต่ยังใช้ยาเม็ดชั้นเลิศของสำนักราชครูด้วย พวกเขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าซิวหลัวคนแรก!”
หนานกงหลีเผยรอยยิ้มพึงใจ “ทำได้ดีมาก”
ท่านแม่จะเลิกยุ่งกับพวกคนในจื่อเวยเก๋อในไม่ช้า และซิวหลัวคนใหม่ก็จะมาถึงในไม่ช้าเช่นกัน วันดีๆ ของพวกมันจะสิ้นสุดลง
ท่านแม่อย่าได้โทษข้า ข้าทำสิ่งนี้เพื่อความรุ่งเรืองของท่าน
หนานกงหลีพอใจกับแผนการ แต่ไม่รู้เลยว่าจะมีแขกที่ไม่คาดคิดมาที่จวน
องค์ประมุขตัดสินใจไปเยี่ยมพวกเด็กๆ หลังอาหารค่ำ
อย่างไรก็เป็นจวนประมุขหญิง หากเขาบอกว่ามาหาบุตรสาว ก็จะทำให้นางหน้าชื่นตาบานมากเกินไปหน่อย แต่หากบอกว่ามาหาเด็กๆ เขาก็ไม่ได้เป็นคนในครอบครัว หากไม่บอกว่ามีความสัมพันธ์ระดับใด ก็จะเป็นบุตรสาวที่แย่ง ‘ท่านปู่’ ของเด็กๆ ไป
ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็ไม่เหมาะจะมาเยี่ยม
ทว่าองค์ประมุขกำลังเดินไปเดินมาในห้องตำรา ความกังวลในใจก็ก่อตัวขึ้นอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]