แล้วชีวิตของท่านละ?
ให้เขาด้วยหรือไม่?
หนานกงหลีไม่ได้พูดออกไป
เขารู้สึกว่ามารดาของเขาเสียสติไปแล้ว ชายที่ไม่รักนางเพียงคนเดียว แม้แต่ศักดิ์ศรีนางก็ยอมทิ้ง
“ท่านแม่ ท่านจะเสียใจ”
หลังจากหนานกงหลีกล่าวอย่างเฉยชา ก็ก้าวออกจากห้องด้วยใบหน้าร้อนผ่าว
ประมุขหญิงมองมือที่ตบบุตรชาย มือข้างนั้นสั่นระริกจนไม่อาจควบคุม ทว่านางไม่มีทางให้ย้อนกลับแล้ว “ข้าจะไม่เสียใจ…ไม่มีทาง!”
เห็ดหลินจือแดงจากครอบครัวมารดาของฮองเฮาเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของท่านตา แขกสูงศักดิ์ท่านหนึ่งใช้พลังมหาศาลหามาด้วยความยากลำบาก ชายชรามองว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่า เขาไม่ได้กินมันจนกระทั่งสิ้นลม
ซึ่งเป็นเรื่องดีกับเยี่ยนจิ่วเฉา
ประมุขหญิงยอมเสี่ยงที่จะฝ่าฝืนคำสั่งองค์ประมุข เดินทางไปเยี่ยมบ้านของท่านตาด้วยตนเอง
ประมุขหญิงเอ่ยปากขอ บ้านท่านตาก็จำต้องให้
หลังจากที่เห็ดหลินจือแดงมาอยู่ในมือ ประมุขหญิงก็ขึ้นรถม้ามุ่งหน้าไปยังสำนักราชครู
ราชครูประหลาดใจมากเมื่อเห็นประมุขหญิงที่ถูกห้ามมิให้ออกมา เขาประหลาดใจมากจนไม่รู้จะกล่าวสิ่งใด เมื่อนางเอ่ยปากถามถึงศาสตร์แกะสลักหนังสือไร้อักษร
“ฝ่าบาท…เหตุใดท่านจึงต้องการศาสตร์การแกะสลัก? ฝ่าบาทต้องการเขียนจดหมายลับอันใดหรือ?” ราชครูถามด้วยความสงสัย
ประมุขหญิงตอบ “ข้ามีเรื่องต้องใช้ เจ้าไม่ต้องถาม เอาของมาให้ข้าก็พอ”
ศาสตร์การแกะสลักและเม็ดยาเรียกว่าเป็นสมบัติชาติของสำนักราชครู ไม่ต้องเอ่ยว่าประมุขหญิงมาขอ แม้แต่องค์ประมุขมาขอด้วยตนเอง ก็ไม่สามารถส่งมอบได้ง่ายๆ
ราชครูลังเล
ประมุขหญิงกวาดตามองเขา “เหตุใดรึ? ข้ามาหาเจ้าเพราะต้องการของสิ่งหนึ่งไม่ได้หรือ?”
ราชครูตอบ “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น…”
“เช่นนั้นก็ไปนำมา!” ประมุขหญิงกล่าวอย่างเย็นชา
ราชครูอ้าปากค้างมองประมุขหญิงด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นกลับไปที่ห้องและมอบหนังสือเล่มเล็กที่บันทึกศาสตร์การแกะสลักให้นาง
ประมุขหญิงหยิบหนังสือเล่มเล็กและจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
หนานกงหลีเดินออกมาจากด้านหลังฉากกั้น “เป็นอย่างไร? ข้าพูดไม่ผิดใช่หรือไม่? นางหลงไหลบุรุษคนเดียวจนหน้ามืดตามัว”
ราชครูหันหน้ามามองเขาพลางขมวดคิ้ว “นั่นก็คือบิดาของท่าน”
ใช่บิดาแท้ๆ หรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจ
แน่นอนว่าหนานกงหลีไม่ได้บอกราชครูเกี่ยวกับเรื่องนี้
ราชครูกล่าวว่า “เช่นนั้นยังต้องการให้ข้ามอบหนังสือศาสตร์การแกะสลักที่แท้จริงแก่นางหรือไม่? ไม่กังวลว่านางจะถอนพิษให้เยี่ยนจิ่วเฉา แล้วทิ้งท่านไว้หรือ?”
หนานกงหลีมองด้านหลังของประมุขหญิง “ข้าเพียงอยากให้ท่านแม่เห็นว่า หากนางทำดีที่สุดเพื่อบุรุษผู้นี้แล้ว จะสามารถสร้างความประทับใจให้เขาได้จริงๆ หรือไม่”
“หากทำได้แล้วอย่างไร?” ราชครูถาม
หนานกงหลียิ้มจางๆ “นั่นไม่ใช่เรื่องดีหรือ? ท่านพ่อกลับไปอยู่ข้างกายท่านแม่ และให้คำแนะนำสนับสนุนนางต่อไป ท่านแม่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะได้ครองราชย์หรือไม่”
จากมุมมองการตกปลาใหญ่ ข้อตกลงนี้ของประมุขหญิงนับว่าคุ้มค่ายิ่งนัก เยี่ยนจิ่วเฉาเป็นบุตรชายคนโตของเยี่ยนอ๋อง ความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างทั้งสองที่ไม่สามารถลบล้างได้ จึงมิสู้ยอมรับเขาเข้ามาอย่างใจกว้างดีกว่าหรือ
ไม่ว่าเยี่ยนจิ่วเฉาจะแย่งความรักของนางไปหรือไม่ ตราบใดที่เยี่ยนอ๋องเป็นผู้นำ ประมุขหญิงก็ถือว่าชนะแล้ว
แต่ท่านพ่อจะหวั่นไหวง่ายดายถึงเพียงนั้นหรือ?
นี่เป็นเรื่องครอบครัวในจวนประมุขหญิง ราชครูไม่ควรยุ่ง ได้แต่บอกให้หนานกงหลีกระทำการอย่างระมัดระวังเท่านั้น อย่าได้ต้องกังวลกับครอบครัวอื่น
“ข้ามีขอบเขตของข้า” หนานกงหลีกล่าว
ในคืนนั้นจวนประมุขหญิงได้นำเห็ดหลินจือแดงและศาสตร์การแกะสลักไปที่จื่อเวยเก๋อ
เมื่อนางเข้าไปในจื่อเวยเก๋อ ไข่ดำทั้งสามเพิ่งเสร็จจากการทำลายสวนดอกไม้เล็กๆ ในจวน และติดดอกไม้สีแดงขนาดใหญ่ไว้บนศีรษะ กลับมาด้วยร่างกายหอมกรุ่น!
ประมุขหญิงเจ็บปวดใจ แต่ก็ต้องยิ้มอย่างอ่อนโยน “ต้าเป่า เอ้อร์เป่า เสี่ยวเป่า”
ไข่ดำทั้งสามมองนางด้วยความตะลึง
ประมุขหญิงอยากจะบอกว่าข้าเป็นยาย แต่เมื่อคำพูดมาจบที่ริมฝีปากนางก็เอ่ยไม่ออก นางยังเด็กและงดงามนัก จะมีหลานชายได้อย่างไร? !
นางยังหวังจะให้กำเนิดบุตรอีกคนกับราชบุตรเขยอยู่เลย!
ไข่ดำทั้งสามเหลือบมองกันและวิ่งหนีไป!
ประมุขหญิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เยี่ยนจิ่วเฉาก็มากพอแล้ว ยังมีเด็กตัวเล็กๆ เหล่านี้อีก นางไม่รู้จะรับมืออย่างไร
แต่ราชบุตรเขยดูเหมือนจะรักพวกเขามาก นางจึงต้องหาโอกาสเอาชนะใจพวกเขาให้ได้
ไข่ดำทั้งสามวิ่งเข้าห้องมารดา และมอบดอกไม้เล็กๆ ให้เธอ จากนั้นทั้งสามก็แนบกับแผงประตู แอบมองลอดผ่านรอยแตกออกไป
เยี่ยนอ๋องนั่งอยู่ในลาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]