ขันทีหวังหวาดกลัวสิ่งที่ตนคาดเดา โดยคิดว่าตี้จีองค์โตถูกส่งออกจากหนานจ้าวเพราะมีชะตากรรมของดาวหายนะ หากไม่กล่าวถึงความวุ่นวายในหนานจ้าวที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามปีนี้ ก็นับได้ว่าบ้านเมืองสงบชาวประชาเป็นสุข เรื่องที่ทำให้องค์ประมุขปวดหัวจริงๆ ก็มีเพียงการแต่งงานของตี้จีองค์เล็ก
ตี้จีองค์เล็กขัดพระทัยองค์ประมุขเพราะบุรุษคนหนึ่ง หายไปหลายปี เมื่อกลับมาข้าวสารก็หุงเป็นข้าวสุกเสียแล้ว นางไม่เพียงมีบุรุษ แต่ยังมีบุตรมาด้วย
ยามนั้นองค์ประมุขทรงกริ้วหนัก
ตามแผนเดิมขององค์ประมุข หลังจากตี้จีองค์เล็กยอมรับพระราชสมรสขององค์ประมุขอย่างแน่นอนแล้ว เขาจะแต่งตั้งนางเป็นประมุขหญิง ดังนั้นแต่ด้วยเหตุนี้องค์ประมุขจึงโกรธนางอยู่หลายปี กระทั่งนางได้รับของศักดิ์สิทธิ์ องค์ประมุขจึงยอมอ่อนข้อ มอบตำแหน่งว่าที่กษัตริย์ให้กับนาง
ส่วนเส้นทางขรุขระนอกจากนี้ ล้วนเป็นลมพายุที่ประมุขทั่วไปจะต้องเผชิญ ไม่เพียงพอให้กล่าวถึง
ครั้งนี้แตกต่างออกไป
ไม่จำเป็นที่องค์ประมุขต้องตรัสซ้ำ ภายในใจของขันทีหวังเองก็กังวลไม่เป็นสุข
ของศักดิ์สิทธิ์ถูกขโมยไป ประมุขหญิงถูกใช้กู่ ประมุขหญิงถูกถอดตำแหน่ง ประมุขหญิงแยกทางกับราชบุตรเขย แต่ละครั้งแต่ละเรื่อง ราวกับมีมือใหญ่ที่มองไม่เห็นผลักดันจวนประมุขหญิงไปสู่ทางตัน
ขันทีหวังก็ไม่เข้าใจ
เหตุใดความโชคร้ายถึงตกอยู่ที่จวนประมุขหญิง?
จวนประมุขหญิงทำสิ่งใด?
หรือว่า ตี้จีองค์โตมาสาปตี้จีองค์เล็ก?
เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย!
คิดบ้าบออันใดกัน?
ยังไม่ยืนยันว่าฮูหยินรองแห่งจวนเห้อเหลียนคือตี้จีองค์โตเสียหน่อย!
องค์ประมุขที่ทอดกายอยู่บนเก้าอี้ของไท่ซือตกอยู่ในภวังค์ ราวกับว่ากำลังครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ อย่างไรเสียเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาณาจักร ประมุขจึงไม่อาจมองข้ามได้
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เอ่ยเสียงทุ้ม “หวังเต๋อฉวน”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” ขันทีหวังโค้งกายก้าวไปด้านหน้า
“ดวงวันเกิดสกุลเห้อเหลียน สำนักหลวงมีอยู่หรือไม่?” องค์ประมุขถาม
ขันทีหวังอยากบอกว่าไม่มีก็เป็นไปไม่ได้ ผู้ใดบ้างที่ไม่เคยจดทะเบียนบ้าน? แม้แต่สองสามคนที่เพิ่งถูกยอมรับกลับมาที่จวนเห้อเหลียนก็เป็นเช่นนั้น หลังจากที่อวี๋เซ่าชิงกับเห้อเหลียนเป่ยหมิงได้สารภาพความจริงแล้ว พวกเขาก็ขึ้นทะเบียนบ้าน แม้แต่ใบผ่านทางก็ทำเสร็จได้ภายในสองวัน
“กระหม่อม…จะไปนำมา?”
ขันทีหวังถามอย่างสังเกตจากสีหน้าและคำพูด
องค์ประมุขพยักหน้า
ถึงแม้ขันทีหวังไม่เต็มใจ แต่ก็จำใจต้องไป
เขารู้ช่วงเวลาตกฟากและวันเกิดของตี้จีองค์เล็ก ตี้จีองค์โตเกิดก่อนตี้จีองค์เล็กเพียงสองเค่อเท่านั้น เขาแอบภาวนาให้ของฮูหยินรองจวนเห้อเหลียนไม่ใช่ยามเซิน
แต่โชคชะตาก็กลั่นแกล้ง ทันทีที่เขาเปิดทะเบียนบ้านออกดูก็ต้องตกตะลึง
กระดาษขาวหมึกดำ เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ยามเซิน!
ขันทีหวังเกือบสรุปได้ว่าฮูหยินรองแห่งจวนเห้อเหลียนก็คือตี้จีองค์โตที่ถูกเนรเทศออกไป
จะทำอย่างไรดีละ?
อย่าว่าแต่องค์ประมุขเลย แม้แต่ขันทีหวังก็เริ่มสงสัยว่าจวนประมุขหญิงถูกตี้จีองค์โตเล่นงาน
แต่เล่นงานก็เล่นเถิด องค์ประมุขไม่พอใจตี้จีองค์เล็กมาหลายปีแล้ว
สาเหตุนั้นเล็กจนไม่อาจเล็กไปกว่านี้ ยามนั้นตี้จีองค์เล็กยังเป็นดรุณีที่ยังไม่แต่งงาน คราหนึ่งถูกองค์ประมุขสั่งสอนเพราะทำการบ้านไม่ดี จึงระบายโทสะกับผู้รับใช้ที่ต่ำต้อยเหล่านี้
ข้าทาสน่ะ เป็นที่ระบายอารมณ์ของเจ้านายก็นับว่าสมควร ทว่าวาจานั้นที่นางเอ่ยกลับดูถูกผู้คนยิ่งนัก
หลังจากนางเติบโตขึ้นก็สำรวมกิริยา รู้จักเอาตัวรอดในการเข้าหาคนมากขึ้น และไม่เปิดเผยอารมณ์รุนแรงง่ายๆ อีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ขันทีหวังก็ไม่อาจภักดีต่อนางได้เหมือนภักดีต่อองค์ประมุข
เห็นได้ชัดว่านางปฏิบัติตัวสุภาพอ่อนโยนกว่าองค์ประมุข…
ตรงกันข้าม ขันทีหวังกลับเห็นใจเด็กที่ถูกส่งออกไปในวันที่หิมะตกหนักมากกว่า
หลังจากสะท้อนใจ ขันทีหวังก็ฉวยโอกาสที่คนอื่นไม่ทันสังเกต ใช้พู่กันเพิ่มอีกสองคำที่ต่อจากยามเซิน คือหกเค่อ
ชั่วยามนี้ ช้ากว่าเวลาเกิดของตี้จีองค์เล็ก นี่คงไม่ทำให้องค์ประมุขสงสัยว่านางเป็นตี้จีองค์โตแล้วกระมัง?
ขันทีหวังระงับความวิตกกังวลในใจ นำช่วงเวลาตกฟากและวันเกิดไปที่ห้องทรงอักษรด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เขาหวังจะได้รออยู่ด้านใน ทว่าองค์ประมุขไม่มีประสงค์ที่จะให้เขาอยู่ เขาจึงต้องรออยู่นอกประตู
ดวงด้านซ้ายถูกเปลี่ยน ยามนี้คงหาดาวหายนะไม่พบแล้ว
ไหนเลยจะรู้ว่าทันทีที่ความคิดเกิดขึ้น เสียงเหรียญทองแดงหักก็ดังขึ้นในห้องทรงอักษรของประมุข
ตามมาด้วยเสียงตรัสถามขององค์ประมุข “เป็นไปได้อย่างไร?”
ขันทีหวังแอบชำเลืองมองเข้าไปด้านใน เห็นราชครูกำลังอาเจียนเป็นเลือด นำช่วงเวลาตกฟากและวันเกิดที่เพิ่งคำนวณยื่นให้กับประมุข
หลังจากที่องค์ประมุขได้ทอดพระเนตร สีพระพักตร์ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก “…สามสิบเดือนสิบ…ยามเซิน…นี่…นี่คือ…”
“ช่วงเวลาตกฟากและวันเกิดของตี้จีองค์โต” ราชครูกล่าวอย่างอ่อนแรง
ขันทีหวังตะลึงตัวแข็ง
เขาไม่ได้เปลี่ยนเป็นยามเซินหกเค่อแล้วหรือ? เหตุใดถึงเปลี่ยนกลับเป็นยามเซิน?
ชั่วพริบตาเดียว ขันทีหวังสงสัยว่าความจำของเขาผิดเพี้ยนไป
แต่เขามองคราบหมึกที่เผลอทำเปื้อนบนปลายนิ้ว เขาหยิบพู่กันขึ้นมาแก้แล้วไม่ผิดแน่
มีคนแก้ดวงกลับอีกครั้ง
คนผู้นั้นเป็นใคร ไม่จำเป็นต้องเดาก็รู้
ตลอดทางที่เขานำช่วงเวลาตกฟากและวันเกิดมาที่นี่ ไม่ได้ผ่านมือผู้ใด ราชครูเป็นคนแรกที่ได้พบมัน
ขันทีหวังแทบไม่น่าเชื่อ
นี่คือราชครูแห่งหนานจ้าว ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของประมุขมากที่สุด นอกจากปรมาจารย์พิษอาวุโสข่ง คนที่ประมุขพึ่งพามากที่สุดก็คือเขา!
คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะทำเรื่องเช่นนี้ได้!
ในมุมมองของเขา เพลิงไหม้ใหญ่เหลวไหลอันใด ภัยพิบัติที่ไม่คาดฝันอันใด ล้วนเกิดจากสุนัขราชครูตัวนี้สร้างขึ้นทั้งสิ้น!
ขันทีหวังโกรธจัดจนอยากจะเท้าเอวตะโกนด่าหน้าประตูสามวันสามคืน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]