ไม่ต้องกล่าวถึงยามนี้ความสัมพันธ์ขององค์ประมุขกับตี้จีองค์โตไม่ลงรอยกันเช่นนี้ เขาไม่มีความคิดที่จะแต่งตั้งคนของนางเป็นรัชทายาทแม้แต่น้อย ต่อให้มีก็ไม่มีทางข้ามตี้จีองค์โตกับอวี๋หวั่นไปแต่งตั้งเด็กไม่หย่านมที่ยังพูดไม่ได้แน่!
องค์ประมุขกุมหน้าผาก
เขาปวดหัว
ปวดยิ่งนัก!
เจ็บปวดกว่าใบหน้าเสียอีก!
ที่เจ็บหน้าเพราะเขาให้คำมั่นว่าจะไม่ไปตำหนักจูเชวี่ยอีก แต่กลับไปที่นั่นอย่างเริงร่าและมิใช่เพียงครั้งเดียว ส่วนเรื่องน่าปวดหัว ก็คือถูกเด็กน้อยคนนี้นำโชคร้ายมาสู่ตัว
แย่งตราหยกไปไม่พอ ยังวิ่งมานั่งบนบัลลังก์มังกรของเขาอีก บัลลังก์มังกรเป็นที่ที่เจ้านั่งได้หรือ? หืม?
องค์ประมุขมองต้าเป่าที่อยู่ด้านข้างด้วยความขมขื่น
ต้าเป่ารู้สึกว่าเขากำลังมองมาที่ตนเอง จึงหันมองเขาอย่างน่ารักน่าชัง
องค์ประมุข “…”
โทสะที่เดือดดาลขององค์ประมุขพลันสลายหายไป เขาปิดตาด้วยความเจ็บปวดใจและอับจนหนทาง นึกเสียใจ เหตุใดเขาต้องพาเจ้าตัวน้อยนี้เข้าวังมาด้วยนะ…
เหล่าขุนนางทั้งบู๊บุ๋นไม่รู้เลยว่าในใจขององค์ประมุขรู้สึกเปล่าประโยชน์และทรมานเพียงใด ในหมู่พวกเขามีหลายคนที่จดจำไข่ดำน้อยผู้นั้นได้ ตั้งแต่พิธีบวงสรวงสวรรค์ก็เกิดปรมาจารย์พิษอาวุโสเจ็ดจั้งคือคุณชายน้อยแห่งจวนเห้อเหลียน ภาพของพวกเขาทั้งสามแพร่ออกไปในหมู่ชาวบ้านอย่างรวดเร็วราวกับไฟป่า
ทั้งสามคนเป็นที่จดจำได้ง่าย เพราะเด็กชายตัวเล็กที่ดำเมี่ยมเช่นนี้ไม่อาจหาคนที่สี่ได้อีกแล้วในโลก
เพียงแต่ไม่รู้ว่าองค์ประมุขพาคนใดในทั้งสามนั้นมาว่าราชการด้วย
แต่ไม่ว่าเป็นใคร ก็งดงามกว่าในภาพวาดยิ่งนัก ดูดวงตาสีดำกลมโต จมูกนิดปากหน่อย เรียวคิ้วน้อยที่เข้มดุจวีรบุรุษคู่นั้น แก้มสองข้างที่อวบอ้วน หน้าท้องที่กลมดิ๊ก
ในใจของทุกคนมีเสียงหนึ่งแวบเข้ามา แม่เจ้า น่าหยิก!
ในท้องพระโรงมีคนของหนานกงเยี่ยนอยู่ไม่น้อย ต่อให้เป็นพวกเขา หลังจากที่พบกับไข่ดำน้อยฟองนี้ต่างก็อยากจะเอื้อมมือไปแย่งชิงมา
อย่างที่โบราณว่าไว้ แว่นแคว้นไม่อาจขาดองค์ประมุขแม้แต่วันเดียว อายุขององค์ประมุขก็มากแล้ว และตำแหน่งรัชทายาทก็ยังว่างอยู่ นี่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับหนานจ้าว ซึ่งเดิมทีอยู่ในสถานการณ์ง่อนแง่นอยู่แล้ว ประชาชนต้องการรัชทายาท ดินแดนจำต้องมีผู้สืบทอด หากองค์ประมุขตัดสินใจล่าช้าอาจทำให้ผู้คนคาดเดาไปเอง จริงหรือไม่ที่ประเทศไร้ผู้สืบทอด?
สิ่งที่ตี้จีองค์เล็กกระทำทั้งหมดทำให้ผู้คนผิดหวัง
แม้ตี้จีองค์โตจะครอบครองของศักดิ์สิทธิ์และปรมาจารย์พิษอาวุโส แต่อย่างไรก็มีชะตากรรมแห่งดาวหายนะ ใช่หรือไม่ว่าองค์ประมุขไม่พอใจกับคนทั้งสอง?
ตอนแรกเดาว่าชะตากรรมของตี้จีองค์โตอาจมีความผิดพลาด ภายในเงามืดที่องค์ประมุขล่าช้าไม่ยอมรับนางกลับมาทำให้เกิดการสั่นคลอนอย่างช้าๆ
แต่ไหนเลยประชาชนจะรู้ว่าไม่ใช่องค์ประมุขมิต้องการรับนางกลับมา แต่เขารับนางกลับมาไม่ได้
ทว่าเมื่อเห็นองค์ประมุขพาเหลนคนหนึ่งเดินเข้ามาในตำหนักจินหลวน เหล่าขุนนางทหารต่างก็ตื่นเต้น
“ข้า…”
“ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี”
องค์ประมุขกำลังจะอธิบายให้ทุกคนฟัง ไม่คาดคิดว่ายังไม่ทันเอ่ยปาก ขุนนางทั้งบู๊บุ๋นต่างก็คุกเข่าเปล่งเสียงสรรเสริญดังก้องไปทั่วทั้งตำหนักจินหลวนแทบทะลุหลังคาพุ่งขึ้นฟากฟ้า
องค์ประมุขกุมหน้าผาก “ไม่ใช่…”
“ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี!”
“ใต้เท้าทุกท่าน…”
“ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี”
หลังจากการสรรเสริญติดต่อกันสามครั้งเสร็จสิ้น องค์ประมุขก็ไม่อยากพูดสิ่งใดอีกแล้ว
“อื้ม” ต้าเป่านั่งยืดตัวตรงพยักหน้า
ทุกคนต่างตกตะลึง องค์ประมุขก็เช่นกัน
เด็กคนนี้ยังตอบว่าอื้ม?
คำสรรเสริญต่อข้า เจ้าอื้มอันใด? ! !
ความคิดของเหล่าขุนนางต่างไปจากองค์ประมุข
ท่าทีที่จริงจังของต้าเป่าราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย และ ‘อื้ม’ ที่ดูจริงจังเป็นพิเศษทำให้เหล่าขุนนางต่างรู้สึกขบขัน
ไยจึงมีเด็กน้อยที่น่ารักน่าชังเช่นนี้ได้? อยากอุ้มกลับจวนเสียจริง!
สีหน้าของต้าเป่าจริงจังหนักหนา
เหล่าขุนนางอยากหัวเราะก็ไม่กล้าหัวเราะ ต่างกลั้นขำจนหายใจไม่ออก
หัวหน้าฝ่ายตรวจการอาจหาญกล่าวหยั่งเชิง “เช่นนั้น…ก็ให้ใต้เท้าทั้งหลายลุกขึ้น?”
ต้าเป่าพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “อื้ม”
ฮ่าๆๆๆๆ! เทพบุตรตัวน้อยอะไรนี่! ! ! ยังรู้จักให้พวกเขาลุกขึ้น!
ทุกคนหัวเราะขบขันในใจ!
ต้าเป่าพูดไม่ได้ ทำได้เพียงอื้มอ้า บางครั้งก็หัวเราะคิดคักกับน้องชาย แต่เหล่าขุนนางไม่รู้เลยแม้แต่น้อย ต่างคิดว่าเด็กคนนี้วาจาอักษรมีค่าดั่งทอง เยือกเย็น สูงส่ง ดูดียิ่งนัก!
ต้าเป่านั่งอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าที่นี่ไม่สนุก จึงกระโดดลงไปที่พื้นพร้อมกับตราหยกในมือ
ผู้คนที่เดิมทีได้ยืนตรงแล้วเห็นต้าเป่าเดินมาหาพวกเขา ต่างก็รีบร้อนคุกเข่าลง
ต้าเป่ามองพวกเขาด้วยความแปลกใจ ก่อนจะเดินไปหาหัวหน้าฝ่ายตรวจการที่เพิ่งพูดกับเขา แล้วยกมือเล็กอันอวบอ้วนขึ้นตบไหล่อีกฝ่ายอย่างจริงจัง
หัวหน้าฝ่ายตรวจการตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น
นี่คือความคาดหวังอันสูงส่งที่มีต่อเขา!
ต้าเป่าเพียงคิดว่า มีขี้เถ้าอยู่บนไหล่ของเจ้าน่ะ!
หลังจากต้าเป่าจากไป หัวหน้าฝ่ายตรวจการก็หลั่งน้ำตา หันตัวคุกเข่าลงในทิศที่ต้าเป่าจากไป “น้อมส่งเสด็จ——”
ทุกคนหันตัวตามเขา ก้มลงคำนับพร้อมกัน “น้อมส่งเสด็จ——”
องค์ประมุขตื่นตระหนก!
ฝ่าบาทอันใด?
ข้าออกราชโองการแต่งตั้งแล้วหรือ?
ข้าตกลงแล้วหรือ?
พวกเจ้ารวบรัดจัดการเรียบร้อยเช่นนี้? ! !
องค์ประมุขได้ผ่านการว่าราชการที่น่ากลัดกลุ้มใจที่สุดในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่มีโอกาสได้พูด เมื่อในที่สุดก็ถึงคราวได้พูด กลับไม่มีผู้ใดเชื่อสิ่งที่เขาพูดสักคำ
“ข้าไม่ได้คิดจะสละบัลลังก์”
แต่ท่านให้ตราหยกแก่เขา
“แล้วข้าก็ไม่ได้บอกว่าจะแต่งตั้งเขาเป็นองค์ชายคนใด”
แต่ท่านแบ่งบัลลังก์มังกรแก่เขา
“แค่เด็กเล่นเท่านั้น ใต้เท้าทั้งหลายอย่าได้เก็บไปใส่ใจ”
มาเล่นถึงตำหนักจินหลวน ท่านคิดว่าพวกเราตาบอดหรือ???
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]