หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 346

หนานกงเยี่ยนรู้ดีว่านี่เป็นผลจากความเจ็บป่วยที่รุนแรงของตนในระยะนี้ การทอดทิ้งของราชบุตรเขย กลอุบายของเยี่ยนจิ่วเฉา ความตกต่ำของจวนประมุขหญิงทำให้หัวใจของนางแตกสลาย ผู้คนต่างคิดว่าชีวิตของนางไม่ต่างจากตายทั้งเป็น เบื้องหน้านางไม่หลงเหลือความระแวดระวังเช่นเมื่อก่อน

นางได้ยินเรื่องราวต่างๆ โดยบังเอิญมาไม่น้อย หนึ่งในนั้นมีจากบทสนทนาของหลี่อวี้กับชายอีกคนหนึ่ง

หลี่อวี้กล่าว ตนได้รับความโปรดปรานจากฮองเฮา และฮองเฮาไม่สามารถละทิ้งเขาไปได้ หมากตัวนี้เห็นจะมีประโยชน์ทีเดียว อาจจะสามารถพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินโค่นราชวงศ์หนานจ้าวได้ ถึงเวลานั้นพวกเขาต้องการพลิกฟื้นประเทศกลับคืนมาก็ง่ายดายแล้ว

หลี่อวี้แม้จะตาย แต่สหายของเขายังอยู่ในตำหนักจงกง แต่นั่นไม่สำคัญอีกแล้ว พวกเขาหนีไปแล้ว

กลอุบายยิ่งใหญ่ที่สุดที่ฮองเฮาได้รับอยู่ที่อวี่เหวินจ้าว ได้รับการปกป้องจากอวี่เหวินจ้าวและตำหนักราชครูมานานหลายปี นางจึงไม่ระวังตัวและไม่เฝ้าระวังภัยเช่นตอนแรก เรื่องของขันทีหลี่ก็เป็นบทเรียนใหญ่บทหนึ่ง

เมื่อคิดว่าตนเองเกือบจะถูกใช้ให้เป็นเบี้ยในแผนการ ในใจลึกๆ พลันรู้สึกสะท้านด้านชา นางจับมือหนานกงเยี่ยน ทอดถอนใจเฮือกใหญ่ “แม่โทษเจ้าผิดไป โชคดีที่เจ้ามาทันเวลา ไม่เช่นนั้นแม่ก็ไม่รู้เลยว่าขันทีนั่นจะจับตัวไปไว้ที่ใด”

ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดไม่ใช่เกือบถูกลักพาตัว แต่เป็นการลักพาตัวต้าเป่าต่อหน้าเหล่าข้าราชบริพาร นี่เป็นความผิดพลาดที่ไม่อาจแก้ไข ต่อไปต่อให้หนานกงเยี่ยนเอาชนะความยากลำบากทั้งหมดเพื่อลบล้าง ‘การสมรู้ร่วมคิด’ ระหว่างฮองเฮากับสำนักราชครูได้ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความผิดบาปที่ก่อขึ้นในตำหนักจินหลวนวันนี้ได้แล้ว

แต่น่าเสียดายที่เรื่องเกิดขึ้นไปแล้ว เสียใจตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร

สามวันข้างหน้า นางจะต้องได้รับชัยชนะจากตี้จีองค์โต!

“เยี่ยนเอ๋อร์ ร่างกายของลูกเป็นอย่างไรบ้าง?” เมื่อครู่เอาแต่คิดเรื่องหลบหนี ลืมไถ่ถามสุขภาพร่างกายของบุตรสาว นางกลับตอบเพียง ”ข้าไม่เป็นไร”

ไม่ใช่ไม่เป็นไรจริงๆ แต่ต่อให้เป็นก็ไม่อาจให้เป็นได้ ช่วงเวลาความเป็นความตาย หากนางตาย ทุกอย่างก็จบสิ้น

ฮองเฮาไหนเลยจะไม่รู้ว่านางกำลังพยายามเข้มแข็ง? ฮองเฮายกแขนเสื้อขึ้นเช็ดหยาดเหงื่อบนหน้าผากของนางอย่างเจ็บปวดใจ แต่นางกลับเบี่ยงศีรษะหนี

ฮองเฮาตะลึงงัน “เยี่ยนเอ๋อร์ เจ้า……”

นางอยากพูดว่า เจ้าได้ยินสิ่งที่ข้าพูดกับฝ่าบาทใช่หรือไม่ รู้เรื่องของข้ากับอวี่เหวินจ้าวใช่หรือไม่?

คำพูดขึ้นมาถึงริมฝีปาก นางก็ข้ามสิ่งนี้ไป และเอ่ยถามตรงๆ “เจ้ากำลังตำหนิแม่ใช่หรือไม่”

“เปล่า” หนานกงเยี่ยนตอบอย่างขอไปที

ฮองเฮาสะอึกสะอื้น “แม่รู้ว่าเจ้าโทษแม่ แม่มีความผิดจริง แต่แม่ไม่ตั้งใจ ยามนั้นแม่…”

“มิต้องพูดแล้ว!” หนานกงเยี่ยนไม่อยากฟังเรื่องราวความรักของนางกับอวี่เหวินจ้าว!

หนานกงเยี่ยนหวังให้ตนเองไม่เคยรับรู้ความจริงมาก่อน มารดาของนางไม่ได้หักหลังบิดา นางไม่ได้พึ่งอวี่เหวินจ้าวเปลี่ยนโชคชะตาจนได้กลายเป็นดาวนำโชค นางไม่ได้แย่งชิงทุกอย่างของตี้จีองค์โต นางไม่ได้…

“เยี่ยนเอ๋อร์…” ฮองเฮากุมมือหนานกงเยี่ยนอีกครั้ง

แต่ฮองเฮาก็ล้มลงไปด้านข้างเพราะการหวดแส้อย่างรุนแรง

มือทั้งสองแยกจากกัน กระทั่งเปลือกตาของหนานกงเยี่ยนก็ไม่กระดิก

ฮองเฮามองใบหน้าของบุตรสาวและรู้สึกถึงความเฉยเมยอันไม่มีที่สิ้นสุด

ท้ายที่สุดนางก็โทษตนแล้ว…

“พวกเรากำลังไปที่ใดหรือ” นางกล่าวอย่างทุกข์ใจ

หนานกงเยี่ยนตอบ “ไปจวนตี้จี ไปรับหลีเอ๋อร์กับซีเอ๋อร์”

สิ้นเสียงหนานกงเยี่ยน รถม้าคันหนึ่งก็เคลื่อนมาจอดที่ปากทางเข้าตรอก ขวางทางของพวกเขา

ใบหน้าของหนานกงเยี่ยนจ้องมองอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นก็เห็นเงาคนหนึ่งกระโดดลงมา “ท่านแม่ ข้าเอง!”

“หลีเอ๋อร์” สีหน้าของหนานกงเยี่ยนผ่อนคลายลง ยกเปิดผ้าม่านขึ้น

หนานกงหลีรีบก้าวเท้าเข้ามาหา เมื่อเห็นฮองเฮากับต้าเป่าที่อยู่ในอ้อมแขนของหนานกงเยี่ยนก็ไม่ได้แสดงความประหลาดใจแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขารับรู้มาก่อนแล้ว

เขาคารวะ “ท่านยาย ท่านแม่”

ฮองเฮาพยักหน้าตอบรับอย่างปลื้มใจ

“ซีเอ๋อร์ละ?” หนานกงเยี่ยนไม่เห็นหนานกงซี

หนานกงหลีนั่งลงข้างกายหนานกงเยี่ยนแล้วกล่าวว่า “ข้าพานางไปอยู่ที่ที่ปลอดภัยแล้ว ท่านแม่วางใจได้”

ไม่พบกับช่วงหนึ่ง หนานกงหลีก็ซูบผอมลงไป ครอบครัวของพวกเขาไม่รู้ไปทำบาปกรรมอันใด ถึงได้ตกไปอยู่แต่ในมือของพวกตี้จีองค์โตทีละคนๆ สะบักสะบอมจนไม่เหลือคราบความเป็นคน

“ไป” หนานกงหลีพูดกับสารถี

สารถีหวดแส้ม้า เริ่มเดินทางต่อ

หนานกงหลีเหลือบมองเด็กที่หลับสนิทในอ้อมแขนของหนานกงเยี่ยน ดวงตาของเขาเย็นชา เขาถูกสองแม่ลูกอวิ๋นเฟยกับอวี๋เซ่าชิงทุบตีจนอเนจอนาถ ยามนี้แก้วตาดวงใจของคนพวกนั้นมาตกอยู่ในมือของข้าแล้ว……

หนานกงเยี่ยนรับรู้ถึงความคิดของบุตรชาย จึงกล่าวเตือนว่า “อย่าเพิ่งแตะต้องเขา ข้าเก็บไว้ใช้ประโยชน์”

หนานกงหลีเก็บสายตาที่เต็มไปด้วยไอสังหาร “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านแม่”

รถม้าหลีกเลี่ยงถนนที่ผู้คนพลุกพล่าน ขับผ่านตรอกซอยอันเงียบสงบ ไม่นานก็ออกจากเขตถนน มาถึงเส้นทางลึกไร้ผู้คน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]