“สามีตัวน้อย ไม่พบกันมานาน สบายดีนะ”
ดวงตาของอวี๋หวั่นพลันเบิกกว้าง “แม่นางต่ง”
ต่งเซียนเอ๋อร์คลี่ยิ้มงดงาม แตะปลายเท้าเบาๆ โอบอวี๋หวั่นกลับลงพื้นอย่างมั่นคง นางหันกลับมา อีกฝั่งหนึ่งมีใครบางคนบินมาทางนี้ “ข้าดูนางเอง รีบไปช่วยพ่อเจ้า!”
อวี๋หวั่นเหลือบมองนาง อา นางผู้นั้นคือ…
เห้อเหลียนเป่ยหมิงนั่งอยู่บนรถเข็น รั้วที่หักโค่นกำลังล้มลงมาทับศีรษะและใบหน้าของเขา
“ท่านแม่ทัพใหญ่” อวี๋กังรีบเข้าไปช่วยเขา แต่ก็ถูกฝูงชนขวางไว้ เขาต้องมองดูแม่ทัพใหญ่ถูกทับอยู่ใต้หินก้อนใหญ่ต่อหน้าต่อตา เขาหันหน้าหนีไปอย่างเหลือทน
เห้อเหลียนเป่ยหมิงหลับตายอมรับตอนจบของตัวเองอย่างสงบนิ่ง
ทว่าก้อนหินนั้น เนิ่นนานก็ยังไม่ตกลงมา
ในเสียงนั้นเขาได้ยินเสียงหายใจหนักอึ้ง
จิตใจของเขาสั่นไหวอย่างแปลกประหลาด ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น ลืมตามองบุรุษที่ใช้สองมือแบกก้อนหิน
เช่นเดียวกับที่เขาเคยประคับประคองโลกทั้งใบให้กับเขา ยามนี้เขาก็ทำแบบนั้นเช่นกัน
เด็กที่หลบอยู่ใต้ปีกของเขาในตอนแรกได้เติบโตขึ้นแล้ว
“เซิงเอ๋อร์…” ดวงตาของเห้อเหลียนเป่ยหมิงเป็นสีแดงระเรื่อ
เห้อเหลียนเซิงพยายามสุดกำลังที่จะผลักก้อนหินออกไป เขาอุ้มเห้อเหลียนเป่ยหมิงขึ้นหลังและแบกออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
‘ท่านพ่อ ขี่หลัง!’
‘เซิงเอ๋อร์เดินเอง’
‘ไม่เดิน ไม่เดิน! ขี่หลังท่านพ่อ!’
เห้อเหลียนเป่ยหมิงนอนอยู่บนแผ่นหลังที่ใจดีของบุตรชาย นึกถึงหน้าตาของบุตรชายในวัยเด็ก น้ำตาอุ่นๆ ก็ไหลออกจากดวงตา
เห้อเหลียนเซิงอุ้มบิดาของเขาไว้บนหลัง หลบก้อนหินที่ตกลงมาและมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่รถม้าจอดอยู่
ในอีกด้านหนึ่งต่งเซียนเอ๋อร์ก็พาอวี๋หวั่นออกจากแท่นบูชา
“รีบขึ้นรถ!” เจียงไห่บังคับรถม้ามา
“พ่อแม่ของข้าเล่า?” อวี๋หวั่นถาม
เจียงไห่กล่าว “พวกเขาน่าจะยังอยู่ใกล้ๆ กับแท่นบูชา ข้าจะไปหาพวกเขา เจ้ากับแม่นางต่งออกไปก่อน!”
“ขึ้นรถเถอะ!” ต่งเซียนเอ๋อร์ลากอวี๋หวั่นขึ้นไป ให้อวี๋หวั่นนั่งในรถม้า ส่วนนางบังคับบังเหียนบนเบาะด้านนอก ขับไปตามทิศที่เห้อเหลียนเซิงและเห้อเหลียนเป่ยหมิงไป
สิ่งที่โชคดีคือ ชาวบ้านได้รับการอพยพไปยังพื้นที่รอบๆ ภายใต้การคุ้มกันของหน่วยกล้าตายจากจวนเห้อเหลียนและกองทหารรักษาพระองค์ ยามที่แท่นบูชาพังทลายจึงไม่ทำให้มีผู้บาดเจ็บมากนัก มีเพียงกลุ่มของอวี๋หวั่นและเหล่าขุนนางที่อยู่ตรงแท่นบูชาเป็นกลุ่มสุดท้ายที่หวาดกลัวไม่น้อย
“มีรถม้าอยู่ตรงนั้น! พวกเจ้าพาอาม่าและขุนนางไปก่อน!” เจียงไห่ตามมาถึงแท่นบูชา พูดกับชิงเหยียนที่กำลังต่อสู้กับหน่วยกล้าตายของหนานกงหลี
หน่วยกล้าตายถูกอาเว่ยสังหารไปไม่น้อย แต่ซิวหลัวเป็นนักฆ่าที่ทรงพลังที่สุดและไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะต้านทานได้อย่างแน่นอน
ชิงเหยียนพยักหน้าและจับเจียงไห่ “แล้วเจ้าละ?”
เจียงไห่กล่าว “ข้าจะไปหาท่านโหวและฮูหยิน!”
หลังจากแน่ใจว่าบุตรสาวออกจากแท่นบูชาอย่างปลอดภัย อวี๋เซ่าชิงก็พาภรรยาหนีออกไป เขาพบรถม้าคันหนึ่งและกำลังพยุงภรรยาขึ้นไป ก็ถูกขัดขวางโดยหน่วยกล้าตายหน้ากากทองที่ถูกฆ่ากลางอากาศ
หนานกงหลีให้หน่วยกล้าตายทุกคนกินยาลับ ทำให้ฟื้นฟูตัวเองได้ในเวลาอันสั้น หน่วยกล้าตายผู้นี้แตะขอบเส้นที่เป็นครึ่งซิวหลัวแล้ว
“อาซู เจ้าอยู่ในรถม้า อย่าออกมา! ข้าจะจัดการกับเขา——”
ก่อนที่คำพูดของอวี๋เซ่าชิงจะจบ หน่วยกล้าตายหน้ากากทองก็ตบเขาจนสลบไป
หน่วยกล้าตายหน้ากากทองเดินไปที่รถม้า มองผ้าม่านที่ปิดสนิท ยื่นกรงเล็บของปีศาจร้ายออกมาอย่างเย็นชา แต่ก่อนที่เขาจะได้แตะเส้นขนสักเส้นของอีกฝ่าย แขนของเขาก็ถูกบิดด้วยพลังภายในที่รุนแรงจนหักไปต่อหน้าต่อตา
หน่วยกล้าตายหน้ากากทองรู้สึกถึงความกลัวและสัญชาตญาณต้องการหลบหนี แต่กลับถูกพลังภายในแทงทะลุหัวใจล้มลงตายตรงนั้น!
ซิวหลัวตัวใหม่จับซิวหลัวไม่ได้ ในที่สุดก็เริ่มโมโห และเรียกสหายออกมา ซิวหลัวทั้งสามปลดปล่อยพลังภายในแยกฟ้าทลายดินออกมาพร้อมกัน ชาวบ้านที่หนีไปถูกพลังภายในของเขากวาดกลับมา
“อ๊ะ–“
ร่างกายของอวี๋หวั่นก็ลอยออกไปเช่นกัน
ต่งเซียนเอ๋อร์ห่อตัวเธอด้วยผ้าไหมสีขาวและใช้มืออีกข้างจับผนังรถม้า แต่ทนได้ไม่นาน ก็ถูกดึงกลับเข้าน้ำวนของพลังภายในไปด้วย
เห้อเหลียนเซิงคว้าผ้าไหมของต่งเซียนเอ๋อร์ เคลื่อนย้ายลมปราณ ทรงตัวมั่นคง
แม้เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังเดินเข้าไปยังทิศของแท่นบูชาทีละก้าว
ความแข็งแกร่งของซิวหลัวหนึ่งคนก็น่ากลัวพออยู่แล้ว สามคน นั่นสามารถล้างโลกได้แล้ว!
ยิ่งไม่ต้องเอ่ยว่าหนานกงหลียังใช้ยาลับเพื่อเสริมพลังของพวกเขา พวกเขาเป็นผู้คงกระพันในโลกอย่างแท้จริง!
ทุกคนรู้สึกถึงความสิ้นหวังจากก้นบึ้งของหัวใจ
ทว่าในตอนนี้เอง มีเงาร่างสีดำเล็กๆ ร่างหนึ่งบินขึ้นไปในอากาศ นางโบกมือเปล่าครั้งหนึ่ง ชาวบ้านที่ถูกซิวหลัวทั้งสามดูดขึ้นไปในอากาศก็ถูกพลังภายในอันมีพลานุภาพสกัดกั้นไว้
ทุกคนเห็นไม่ชัดว่านางทำอย่างไร และเมื่อได้สติกลับมาก็ตกกลับลงไปอยู่บนพื้นที่เดิมอย่างมั่นคงแล้ว
นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน?
คนผู้นั้นคือใคร?
มีซิวหลัวอีกคนหนึ่งมาหรือ?
บรรดาปรมาจารย์พิษอาวุโสและราชครูเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน มองไปที่ร่างนั้นราวกับเทพธิดา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]