หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 361

อวี๋หวั่นเข้าพักในสำนักเฟยอวี๋ ต่อหน้าผู้คนยังคงบอกว่าตนเป็นภรรยาของหวั่นเฟิง อย่างไรเสียสำนักเฟยอวี๋ก็อยู่

ในทำเลที่มีการไปมาหาสู่ของผู้คนทั่วทุกสารทิศ หากข่าวว่าฮูหยินแห่งเผ่าปีศาจอยู่ที่นี่นั้นแพร่งพรายออกไป เกรงว่าคงจะนำหายนะมาสู่สำนักได้

แม้ว่าเจ้าสำนักจี้ไม่ต้องการผิดใจกับเผ่าปีศาจ ทว่าพวกเขาได้ทำความผิดลงไปแล้ว จะนึกเสียใจย่อมไร้ประโยชน์ พวกเขาจึงเริ่มคิดหาวิธีรับมือ

เมื่อมองจากจุดนี้ อวี๋หวั่นจึงเกิดความนับถือเขามาก

สุดท้ายแล้วอวี๋หวั่นก็ไม่อาจปกปิดตัวตนที่แท้จริงกับเขาได้ เมื่อได้ยินว่าเธอเป็นองค์หญิงแห่งหนานจ้าว สามีเป็นเชื้อพระวงค์แห่งต้าโจว มารดาเป็นฮูหยินคนนั้นซึ่งหลบหนีออกมาจากเผ่าปีศาจ เจ้าสำนักจี้ก็แข้งขาไร้เรี่ยวแรงอีกครั้งหนึ่ง

เขาถลึงตาใส่หวั่นเฟิง

เจ้าเด็กบ้า เจ้ากำลังนำพาความเดือดร้อนมาให้ข้า!!!

หวั่นเฟิงยกมือขึ้นถูกจมูกด้วยความขุ่นเคือง “แต่ถ้าไม่ใช่เพราะท่านพี่หวั่น ข้าก็คงตายไปตั้งแต่พิธีสมรสขององค์ชายห้าแล้ว…”

นั่นเป็นเรื่องเก่าครั้นเขาติดตามราชครูไปยังต้าโจว ในจวนขององค์ชายห้ามีสุราหมักดอกกุ้ยฮวา รสชาติหวาน ไม่เหมือนกับสุรารสชาติแรง หากแต่เหมือนกับน้ำผลไม้เสียมากกว่า เขาดื่มเข้าไปรวดเดียวครึ่งกา ในตอนแรกก็ไม่เป็นไร ไหนเลยจะรู้ว่าระหว่างทางที่เดินไปหาราชครู สุราก็เริ่มออกฤทธิ์มากขึ้นจนเขาล้มถลาลงกับพื้น

เขาได้รับบาดเจ็บและเสียเลือดมาก อวี๋หวั่นเป็นคนห้ามเลือดและเย็บแผลให้เขา เป็นเพราะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เขาจึงมีชีวิตรอดมาได้

แม้ว่าหลายปีมานี้ ราชครูจะทำเรื่องเลวร้ายลงไป แต่เขาก็มิได้สั่งสอนให้หวั่นเฟิงเป็นเด็กที่ไม่รู้คุณคน

บนเรือ เจ้าสำนักจี้กล่าวอย่างยอมรับในโชคชะตา “ในเมื่อฮูหยินเป็นผู้มีพระคุณของหวั่นเฟิ่ง ย่อมนับว่าเป็นผู้มีพระคุณของสำนักเฟยอวี๋เช่นกัน”

อวี๋หวั่นส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม “เจ้าสำนักจี้กล่าวเกินไปแล้ว ข้าเป็นหมอ การรักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นหน้าที่ของข้า นอกจากนั้นแล้วหวั่นเฟิงยังช่วยข้าไว้หลายเรื่อง ต่อให้เขาติดค้างข้าไว้เรื่องหนึ่ง ก็นับว่าได้ตอบแทนไปนานแล้ว แต่ในครั้งนี้ เป็นข้าที่ติดค้างหวั่นเฟิงกับ…”

อวี๋หวั่นหันไปมองเจียงไห่ เธอชะงักไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “เจ้าสำนักน้อย”

เจียงไห่ซึ่งยืนอยู่ด้านข้างบอกว่า “เรียกข้าว่าเจียงไห่ก็ได้”

เขาไม่ชอบที่อวี๋หวั่นทำตัวห่างเหิน

“จะว่าไป ข้ายังไม่ได้ถามเลยว่าทำไมถึงใช้นามแฝงเข้าไปในต้าโจว” ทั้งยังไปเป็นบ่าวในตลาดค้าทาส อวี๋หวั่นไม่แน่ใจว่าเจ้าสำนักจี้รู้เรื่องนี้หรือไม่ จึงไม่ได้พูดออกไป

“ข้ารู้ๆ!” หวั่นเฟิงโพล่งขึ้น “เขาไปตามหาท่านแม่ข้า!”

เรื่องนี้ต้องเริ่มเล่าตั้งแต่การแต่งงานของคุณหนูใหญ่กับสกุลเว่ย สำนักเฟยอวี๋อยู่ในพื้นที่ห่างไกล โดยรอบหนึ่งร้อยหลี่ปราศจากผู้คน เจ้าสำนักรุ่นแล้วรุ่นเล่าทุ่มเทเป็นอย่างมากเพื่อขยายสำนักจนกว้างใหญ่เช่นนี้ ทว่าเพื่อให้สำนักดำเนินกิจการต่อไปได้ นอกจากความสามารถของคนในสำนักแล้ว ทรัพย์สินก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจขาดแคลน หัวหน้าเผ่าเว่ยมีกิจการเหมืองแร่เกลือ ตระกูลมีทรัพย์ศฤงคารมหาศาล เพียงแต่เผ่าของพวกเขาอ่อนแอ ไม่มียอดฝีมือและกองทัพของตนเอง

ไหนเลยจะรู้ว่าคุณหนูใหญ่กลับแอบมีใจให้ศิษย์พี่ของนาง และศิษย์พี่คนนั้นมิใช่อื่นใด หากแต่เป็นน้องชายแท้ๆ ของราชครู

สำนักเฟยอวี๋รับลูกศิษย์จากทั่วทุกสารทิศ นี่ก็คือเหตุผลว่าเพราะเหตุใดอวี๋หวั่นจึงได้ยินสำเนียงหนานจ้าวที่นี่

ในตอนนั้นเจ้าสำนักจี้ยังหนุ่มแน่นเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ เขาบอกบุตรสาวของตนว่า จะแต่งงานกับศิษย์พี่ก็ได้ แต่อย่าหวังจะได้เป็นคุณหนูใหญ่ของสำนักเฟยอวี๋ต่ออีก คุณหนูใหญ่จึงตัดสินใจ ยอมละทิ้งตำแหน่งในสำนักเฟยอวี๋ และเดินทางไปยังหนานจ้าวพร้อมกับศิษย์พี่

ศิษย์พี่ผู้นั้นปฏิบัติต่อคุณหนูใหญ่เป็นอย่างดี เดิมทีต่อให้ออกจากสำนักเฟยอวี๋แล้ว ลำพังความสามารถของทั้งคู่ ก็สามารถลงหลักปักฐานใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น โชคร้ายที่คุณหนูใหญ่ต้องเผชิญกับภาวะคลอดลำบาก หลังจากคลอดหวั่นเฟิงออกมาไม่นานก็สิ้นใจ ท่านพ่อของหวั่นเฟิงตรอมใจและจากไปเช่นกัน

ในปีแรกๆ เจ้าสำนักจี้ยังใจแข็งไม่ติดต่อกับบุตรสาวได้ ทว่าหลังจากนั้นก็เริ่มกระวนกระวายใจ ลอบก่นด่าบุตรสาวในใจว่าเมื่อมีสามีก็ลืมบิดา ต่อให้ไม่ได้เป็นคุณหนูใหญ่ของสำนักเฟยอวี๋แล้ว แต่นางก็ยังเป็นบุตรสาวของเขาอยู่ไม่ใช่หรือ? ไม่คิดจะกลับมาหาเขาบ้างหรืออย่างไร!

เจ้าสำนักจี้จึงส่งคนไปตามหา แต่กลับหาไม่พบ

ในตอนที่คุณหนูใหญ่ออกจากสำนักเฟยอวี๋ไป เจียงไห่เพิ่งอายุไม่ถึงห้าขวบ แต่เพราะไม่มีมารดา เขาจึงเติบโตมาภายใต้การเลี้ยงดูของพี่สาว การจากไปของพี่สาวนั้นส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขาไม่น้อย สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากเข้าพิธีสวมกวานก็คือออกตามหาพี่สาว

เขาเดินทางออกจากสำนักเฟยอวี๋

เขาไปสืบข่าวในหนานจ้าวรอบหนึ่ง และพบว่ามีสถานที่สองแห่งซึ่งมีความเชื่อมโยงกับพี่สาวของเขาและสามี

หนึ่งคือสำนักราชครู สองคือจวนคุณชายเยี่ยนแห่งต้าโจว

เขาหาวิธีเข้าไปยังสำนักราชครูไม่ได้ ทว่าเขาได้พบกับคาราวานพ่อค้า และเดินทางติดตามพวกเขาไปยังต้าโจว

เดิมทีเขาคิดว่าจวนคุณชายนั้นเป็นสถานที่ซึ่งอยากเข้าก็สามารถเข้าไปได้ แต่กลับพบว่าตนเองคิดผิดมหันต์ การอารักขาของจวนคุณชายนั้นแน่นหนาราวกับกำแพงเหล็กกล้า ต่อให้โชคดีเข้าไปด้านในได้ ก็มิได้หมายความว่าจะสืบข้อมูลได้

เขาจึงตัดสินใจใช้วิธีขายตนเองเป็นทาส โดยที่มิได้คาดคิดเลยว่าจะราบรื่นถึงเพียงนี้

บังเอิญเหลือเกิน หลังจากที่อวี๋หวั่นแต่งงานเข้ามา เธอก็ต้องการบ่าวเพิ่ม และเลือกเขาเข้าไป

เขาไม่ต้องการเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม กอปรกับผู้ที่ถูกเลือกเข้าไปพร้อมเขาชื่อว่าเจียงเสี่ยวอู่ เขาจึงตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ว่าเจียงไห่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]