เขาเดินออกมาจากหลุมทีละก้าวๆ ร่างโงนเงนไปมา เสื้อผ้าวิ่นแหว่งพาดอยู่บนร่างผอมบาง ส่วนใบหน้าของเขานั้น เปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น จนยากที่จะมองเห็นใบหน้าที่แท้จริง
แต่ต่อให้เป็นเป็นเช่นนี้ อวี๋หวั่นก็ยังจดจำเขาได้ “เยี่ยนจิ่วเฉา!”
ทุกคนในที่นั้นตกตะลึง นี่คือเยี่ยนจิ่วเฉา?
เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่นจนดูไม่ได้ ทว่านี่คือเสื้อผ้าของเยี่ยนจิ่วเฉา แต่…พวกเขาไม่อาจสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของ
เยี่ยนจิ่วเฉาแล้ว…
ทุกคนยังคงรู้สึกเหลือเชื่อ แต่ก็คิดว่าอวี๋หวั่นไม่มีทางจำคนผิด อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองพวกเขา ดวงตาคู่นั้น เป็นเยี่ยนจิ่วเฉาไม่ผิดแน่
“อา…” ชิงเหยียนอ้าปากพะงาบ เขาอยากพูดบางอย่าง แต่คำพูดกลับติดอยู่ที่ริมฝีปาก
“เยี่ยนจิ่วเฉา!” อวี๋หวั่นส่งเสี่ยวเป่าให้อาเว่ย แล้วเดินตรงไปหาเยี่ยนจิ่วเฉา
‘อาหวั่น!’ จิตใต้สำนึกของชิงเหยียนบอกให้หยุดอวี๋หวั่นไว้ เขาสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพียงแต่ว่าเขาก็บอกไม่ได้เช่นกันว่าสิ่งใดที่ผิดปกติ
สุดท้ายแล้วชิงเหยียนก็ไม่ได้พูดออกไป
อวี๋หวั่นเดินข้ามซากปรักหักพังบนพื้น มายังเบื้องหน้าของเยี่ยนจิ่วเฉา
เยี่ยนจิ่วเฉาตกลงไปในหลุมขนาดมหึมา เขายืนอยู่บนขอบสระ มองไปรอบๆ อย่างงุนงง
“เยี่ยนจิ่วเฉา” อวี๋หวั่นยื่นมือออกไป
เยี่ยนจิ่วเฉามองไปยังมือที่ยื่นมาหาตน สีหน้าของเขาแลดูประหลาดใจ แต่ก็มิได้หยุดอวี๋หวั่นแต่อย่างใด
“ท่านเป็นอะไรไป” อวี๋หวั่นถาม
เยี่ยนจิ่วเฉามองมือของอวี๋หวั่น จากนั้นก็มองหน้าเธอ
อวี๋หวั่นยกมือขึ้นมาลูบหน้าผากของเยี่ยนจิ่วเฉา แต่เยี่ยนจิ่วเฉากลับหน้ามืดและล้มลงทันใด
อิ่งสือซันรุดเข้าไปรับคุณชายของตนไว้
ชิงเหยียนและคนอื่นๆ จึงปรี่เข้าไป
ดวงตาทั้งสองข้างของเยี่ยนจิ่วเฉาปิดสนิท เส้นเลือดข้างขมับเต้นเบาๆ ราวกับเขากำลังทนกับอะไรบางอย่าง
ในตอนนั้นเองทุกคนล้วนสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล มีกลิ่นอายซึ่งต่างจากปกติแผ่ซ่านออกมาจากร่างของเยี่ยนจิ่วเฉา
อวี๋หวั่นจับชีพจรให้เยี่ยนจิ่วเฉา “ชีพจรของเขาประหลาดจริงๆ…ชุยเฒ่าละ?”
ซิวหลัวพุ่งออกไปทันใด ไม่นานเขาก็พุ่งกลับมาพร้อมกับชุยเฒ่า
หลังจากที่สองเท้าแตะพื้น ชุยเฒ่าก็รู้สึกวิงเวียนคล้ายกับจะเป็นลม “ข้าจะไม่ได้แก่ตายก็เพราะพวกเจ้านี่แหละ!”
อิ่งลิ่วลากชุยเฒ่ามา “เดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้าตายสมใจ! คุณชายบาดเจ็บอยู่ รีบไปดูเร็ว!”
อิ่งสือซันเหลือบมองอิ่งลิ่ว ดวงตาของเขาเย็นเยียบ
อิ่งลิ่วสัมผัสได้ว่าอิ่งสือซันเริ่มไม่พอใจ เขายกมือขึ้นมาถูกจมูกด้วยความขุ่นเคือง ทำไมมองข้าด้วยสายตาอย่างนั้นเล่า? ข้าพูดอะไรผิด?
ชุยเฒ่าให้อิ่งสือซันจับเยี่ยนจิ่วเฉานอนราบกับพื้น
เสี่ยวเป่าดิ้นดุกดิกออกจากอ้อมอกของอาเว่ย แล้ววิ่งเตาะแตะไปข้างกายอวี๋หวั่น เขาจับมือท่านแม่ ดวงตากลมโตมองไปยังท่านปู่ชุยซึ่งกำลังรักษาให้ท่านพ่อ
ชุยเฒ่าจับชีพจรให้เยี่ยนจิ่วเฉา เขาขมวดคิ้ว แล้วจับชีพจรอีกครั้ง
“เป็นอย่างไรบ้าง” อวี๋หวั่นถาม
ชิงเหยียนรีบถามว่า “นั่นสิ จิ่วเฉาเป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บหนักใช่ไหม?”
ชุยเฒ่าไม่ได้ตอบคำถามของพวกเขาในทันที เขามองไปยังหลุมขนาดใหญ่ยี่สิบฉื่อเห็นจะได้ แล้วกล่าวว่า “เมื่อครู่เขาปีนขึ้นมาจากหลุมนี้หรือ?”
ทั้งสองพยักหน้า
ชุยเฒ่าลูบเครา แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ถูกซากปรักหักพังน้ำหนักมากเช่นนี้ทับ ตามหลักเขาก็ควรจะตายไปแล้ว”
หัวใจของทุกคนพลันหล่นมาอยู่ที่ตาตุ่ม
“แต่พลังชี่ดั้งเดิมของเขาก็ยังเต็มเปี่ยมอยู่เลยนี่!”
ทุกคนตื่นตะลึงยิ่งกว่าเดิม
“แถมหน้าตาก็ดูมีสีเลือดฝาด!” ชุยเฒ่าใช้ผ้าเช็ดใบหน้าของเยี่ยนจิ่วเฉา
ทุกคนมองเยี่ยนจิ่วเฉาอย่างพินิจพิจารณา เอ๊ะ…สีเลือดฝาดจริงด้วย
เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ดูเหมือนจะตายแต่ไม่ตาย กลับดูราวกับมีกำลังวังชาขึ้นมา
ชุยเฒ่าถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ถ้าหากข้าไม่ได้เดาผิด ที่เขาล้มลงไปก็เพราะว่า…”
ยังไม่ทันพูดจบ อาโต้วก็พุ่งเข้ามา เขาใช้ปลายนิ้วเคาะหน้าอกของเยี่ยนจิ่วเฉา ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ ในตอนนั้นเอง เยี่ยนจิ่วเฉาก็ฟื้นขึ้นมา เขามองไปยังใบหน้าตรงหน้า จากนั้นก็มองไปยังนิ้วที่จิ้มหน้าอกของตนเอง จากนั้นก็ยกมือขึ้นปัดป้องตามสัญชาตญาณ
อาโต้วถูกปัดจนลอยออกไปไกล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]