อวี๋หวั่นมั่นใจเหลือเกินว่าสิ่งนี้ไม่ได้เกิดจากความทรงจำของอ๋องแห่งเผ่าปีศาจ เพราะจากคำบอกเล่าของฟางเฟยและฟางหรง เธอจึงรู้ว่าท่านอ๋องนั้นโปรดปรานหญิงสาวรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ฮูหยินลี่และฮูหยินอวี้เข้าตาอ๋องแห่งเผ่าปีศาจ พวกนางทั้งสองคนนอกจากจะเป็นญาติห่างๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญไปกว่าก็คือพวกนางเป็นสตรีที่เอวบางร่างน้อยที่สุดในวังหลวง
เพราะฉะนั้น นี่ก็คงจะเป็นความรสนิยมส่วนตัวของเยี่ยนจิ่วเฉาเอง
เขาชอบคนอวบหรือ!!!
ก่อนหน้านี้เธอตัวผอม เขาจะไม่รังเกียจเธอหรือ…
นอกจากนั้นอ๋องนั้นไร้เยื่อใยต่อเหล่าสาวงามในวังหลวงมาโดยตลอด เขาเองก็ไม่นับว่าปฏิบัติต่อพวกนางดีเท่าไรนัก นับประสาอะไรกับการโปรดปรานสตรีคนหนึ่งเป็นพิเศษ เยี่ยนจิ่วเฉาทั้งรักและเอ็นดูเธอเช่นนี้เป็นเพราะตัวเขาเอง
เขาเก็บงำความรู้สึกไว้ในก้นบึ้งของจิตใจ ไม่กล้าเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา
อาจเป็นเพราะรู้ความจริงเรื่องนี้อย่างกะทันหัน เมื่อหวนกลับไปนึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันอย่างเรียบง่าย ก็พลันรู้สึกอบอุ่นในหัวใจขึ้นมา
เมื่อใคร่ครวญดูแล้ว บางทีสมองของเขาอาจไม่ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างที่คิด อย่างไรเสียนี่ก็ไม่ใช่อาการของความจำเสื่อมเสียทีเดียว หมอนี่ยังคงมีนิสัยของคุณชายเยี่ยน เห็นได้ชัดว่าชอบใกล้ชิดเธอในที่รโหฐาน แต่กลับชอบแสร้งทำหน้านิ่ง
เมื่อเทียบกับเยี่ยนจิ่วเฉาจอมเก๊กก่อนหน้านี้ เยี่ยนจิ่วเฉาในตอนนี้แลดูจริงใจและเปิดเผยกว่ามาก
ทุกวันนี้อวี๋หวั่นถูกตามใจ แม้แต่จะเดินเธอยังไม่จำเป็นต้องเดินด้วยซ้ำไป
เธอยกมือขึ้นโอบลำคอของเยี่ยนจิ่วเฉา แล้วบอกด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “อย่าโทษพ่อครัวเลย เขาทำไข่ตุ๋นอร่อยมาก ตอนกลางวันข้ายังอยากกินอีกเลย”
เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่นเสียง ‘หึ’ ขึ้นจมูก กระนั้นทุกคนก็ต่างรู้ดีว่าพ่อครัวได้รับการไว้ชีวิตแล้ว
สาวงามต่างจ้องมองท่านอ๋องอุ้มฮูหยินคนใหม่ออกจากตำหนักไป ตั้งแต่ต้นจนจบเหตุการณ์ ท่านอ๋องมิได้ชายตามองพวกนางแม้แต่น้อย น่าน้อยใจเหลือเกิน
เมื่อเทียบกับนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์แล้ว ฮูหยินคนใหม่ที่ได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋องมากกว่าใครนี่สิ จึงจะเป็นศัตรูหัวใจที่แท้จริง
“นางจิ้งจอกนั่นให้กำเนิดลูกของท่านอ๋อง แต่กลับไม่เคยถูกเอ่ยนามเลยสักครั้ง ไม่แน่ว่าท่านอ๋องอาจกำจัดนางไปแล้วก็เป็นได้ ในตอนนี้หัวใจของท่านอ๋องมีเพียงฮูหยินคนใหม่”
“ใครบอกเล่า? ท่านอ๋องเคยโปรดปรานสตรีที่ไหนมากขนาดนี้?”
“ท่านอ๋องถูกนางมอมเมาจึงเปลี่ยนไป…”
สาวงามทั้งหลายต่างกระซิบกระซาบกัน เมื่อก่อน พวกนางคิดว่าฮูหยินลี่และฮูหยินอวี้เป็นที่โปรดปรานมากที่สุด เพราะพวกนางได้พบกับท่านอ๋องทุกเดือน ส่วนพวกนางเข้าไปหาท่านอ๋องและทำอะไรนั้นไม่อาจรู้ได้ ทว่าอย่างน้อยพวกนางก็มีโอกาสได้เข้าพบ ทว่าบัดนี้ได้เห็นท่านอ๋องและฮูหยินคนใหม่แล้ว จึงรู้ว่าคนโปรดที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร
ผ้าเช็ดหน้าของฮูหยินลี่และฮูหยินอวี้แทบขาดเป็นชิ้นเล็กๆ เมื่อไม่มีข้อเปรียบเทียบ สถานะของพวกนางยังนับว่าดีทีเดียว แต่เมื่อมีข้อเปรียบเทียบ ‘ความโปรดปราน’ ที่พวกนางได้รับนั้นก็พลันดูเล็กน้อยเหลือเกิน นอกจากนั้นพวกนางก็ยังสงสัยว่าหลังจากวันนี้ ‘ความโปรดปราน’ อันผิวเผินที่มีต่อพวกนาง จะหายไปพร้อมกับฮูหยินคนใหม่หรือไม่
“ท่านพี่ พวกเราจะทำอย่างไรดี!” ฮูหยินอวี้กระทืบเท้าด้วยความร้อนรน เดิมทีคิดว่าหากนางเป็นที่โปรดปรานเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จะทำให้พวกนางได้ขึ้นเป็นฮูหยินที่แท้จริงในสักวันหนึ่ง และอาจให้กำเนิดบุตรของท่านอ๋อง ทว่าบัดนี้พวกนางกลับคว้าน้ำเหลว จะหวังสิ่งใดก็คงไม่ได้แล้ว!
ความไม่สบอารมณ์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮูหยินลี่ “น้องสาวคนดีของข้า ถ้าหากผู้ที่ได้ท่านอ๋องโปรดปรานนั้นเป็นเจ้า ข้าจะไม่ว่าอะไรสักคำ อย่างไรเสียทั้งข้าและเจ้าก็คอยปกป้องท่านอ๋องมาตลอดหลายปี ย่อมมีความดีความชอบอยู่บ้าง แต่สตรีคนนั้นมาจากไหนกัน? เป็นเพียงนางแพศยา! ข้าได้ยินว่าตอนนั้นนางถูกคนในเผ่าไล่ตะเพิด ท่านอ๋องคนก่อนจำต้องเก็บนางมาเลี้ยง และเมื่อเห็นว่านางน่าสงสาร ก่อนล่วงลับไปจึงบังคับให้ท่านอ๋องสาบานว่าจะแต่งงานกับนาง แต่เจ้าดูสิ นางทำอะไรไว้กับท่านอ๋อง นางแพศยาคนนี้ไหนเลยจะคู่ควรกับท่านอ๋อง”
ฮูหยินอวี้พยักหน้า “ท่านพี่กล่าวได้ถูกต้อง! นางไม่คู่ควรสักนิด!”
ฮูหยินลี่ยกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “ท่านอ๋องก็แค่หลงนางเพียงชั่วคราว ขอเพียงท่านอ๋องเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนาง ดูซิว่าจะยังโปรดปรานนางอยู่หรือไม่”
ฮูหยินอวี้นัยน์ตากระตุกวูบหนึ่ง “ท่านพี่ ท่านมีความคิดดีๆ ใช่หรือไม่?”
ฮูหยินลี่กระดิกนิ้วเรียกฮูหยินอวี้ให้เข้ามาใกล้ ฮูหยินอวี้ขยับใบหูเข้าไปใกล้ และพยายามตั้งใจฟังฮูหยินลี่จนจบ นางยกมือขึ้นปิดปาก แล้วหัวเราะเย้นหยัน “เป็นแผนที่ดี เป็นแผนที่ดีจริงๆ! เมื่อท่านอ๋องเห็นฉากนั้น จะต้องเลิกโปรดปรานนางอย่างแน่นอน!
ฮูหยินลี่ยิ้มแล้วกล่าวว่า “พวกเราเป็นพยานเพียงสองคนยังไม่พอ เรียกท่านอาสี่กับท่านอาห้ามาด้วยดีกว่า!”
ท่านอาสี่และท่านอาห้าที่ฮูหยินลี่เอ่ยถึงคือผู้พิทักษ์สองเผ่าปีศาจ ฐานะสูงส่งมิได้น้อยไปกว่านักบวชของเผ่า ทั้งยังเป็นญาติฝั่งมารดาของท่านอ๋อง ทำให้ความสำคัญในเผ่าของเขามากขึ้นไปอีก
ฮูหยินลี่และฮูหยินอวี้เดิมทีเป็นบุตรสาวน้องชายของผู้พิพักษ์ เมื่อกล่าวถึงความสัมพันธ์ ไม่นับว่าใกล้ชิด แต่เมื่อกล่าวถึงการถูกเรียกตัว พวกนางนับว่าใกล้ชิดเสียยิ่งกว่าบุตรีเสียอีก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางริษยาสาวงามที่ได้รับความโปรดปราน นางเคยใส่ร้ายสาวงามคนอื่นมาก่อน บางเรื่องก็รู้ถึงหูท่านอ๋อง ทว่าท่านอ๋องไม่ว่าอะไร สำหรับเขาแล้ว นี่คือการแสดงออกถึงความเอ็นดูที่เขามีต่อพวกนาง และเป็นการแสดงความเคารพต่อท่านอาของเขา เพราะฉะนั้นพวกนางจึงค่อนข้างมั่นใจในแผนการกำจัดฮูหยินคนใหม่ครั้งนี้
อวี๋หวั่นยังไม่รู้ว่าตนเองถูกอนุภรรยาของอ๋องแห่งเผ่าปีศาจหมายหัวไว้แล้ว เธอปล่อยให้เยี่ยนจิ่วเฉาอุ้มตนเองกลับไปยังห้องนอน
“เด็กๆ ละ?” อวี๋หวั่นถาม
“ไปเรียนวรยุทธ์” เยี่ยนจิ่วเฉาตอบ แล้วส่งสายตาเห็นอกเห็นใจให้เธอ ราวกับกำลังบอกว่า ‘เป็นลูกข้านี่เหนื่อยจริงๆ’
อวี๋หวั่นร้อง ‘อ้อ’ ออกมา ในเมื่อไปหาอาเว่ยแล้วย่อมไม่มีอะไรต้องกังวล เมื่อครู่เธอกินจนอิ่ม ตอนนี้จึงเริ่มง่วงนอนและอยากงีบสักพัก แต่เยี่ยนจิ่วเฉากลับจับมือของเธอไว้ “แม่นาง เจ้าคงไม่ได้ลืมหรอกใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]