หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 381

อวี๋หวั่นตื่นขึ้นท่ามกลางเสียงของคลื่น เธอหลับลึกจนไม่รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตำหนัก เมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตนเองถูกห่อด้วยผ้าคลุม และอยู่ในอ้อมอกของใครบางคน

ท้องฟ้าเป็นสีเทาหม่น ราวกับผ้าโปร่งสีดำทอปกคลุมอยู่เหนือลำน้ำและเทือกเขาเขียวชอุ่ม

สะเก็ดดาวตกร่วงหล่น ขอบฟ้ามีแสงประกายรำไร แผ่นเมฆเคลื่อนคล้อยกระจายออกจากกัน ลมตะวันออกโชยมา ดวงอาทิตย์กลมโผล่พ้นหมู่เมฆ ทอแสงสีแสดบนเส้นขอบฟ้า

“พระอาทิตย์ขึ้นหรือ?” อวี๋หวั่นรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า เธอสะลึมสะลืออยู่พักใหญ่ จึงจะรู้ว่าเธอกับเยี่ยนจิ่วเฉากำลังนั่งอยู่บนหินก้อนใหญ่บนยอดเขา รายล้อมไปด้วยปุยเมฆขาว ประหนึ่งอยู่ท่ามกลางดินแดนแห่งเซียน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น แต่เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าพระอาทิตย์ขึ้นจะงดงามเช่นนี้ อาจเป็นเพราะทิวทัศน์เปลี่ยนไป หรืออาจเป็นเพราะคนที่อยู่กับเธอกันแน่

เธอพิงกายกับอกของเขาอย่างงัวเงีย เปลือกตาปรือคล้ายกับยังตื่นไม่เต็มตา

อวี๋หวั่นไม่ได้ถามว่าที่นี่คือที่ไหน และไม่ได้ถามว่าเขาพาเธอมาที่นี่ทำไม หลังจากที่สมองของเขาถูกกระทบ

กระเทือน เขาก็มักจะทำให้เธอประหลาดใจเสมอ แค่ดูพระอาทิตย์นับว่าเรื่องเล็ก ไม่รู้ว่าหลังจากนี้เขาจะทำอะไรอีก

อวี๋หวั่นมองพระอาทิตย์ขึ้นเงียบๆ

ท่อนแขนของเยี่ยนจิ่วเฉาโอบกอดเธอไว้ ราวกับเธอเป็นแมวขี้เกียจตัวหนึ่ง

“โง่งม แค่นี้ต้องถามด้วยหรือ?” เขาเบ้ปากด้วยความรังเกียจ ทว่าท่าทางที่เขาโอบกอดเธออยู่นั้นกลับตรงกันข้าม มือของเขาวางอยู่บนหน้าท้องนูนของอวี๋หวั่นเบาๆ แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนาในทันใด “เจ้าควรมีลูกให้ข้า?”

หืม?

ทำไมอยู่ๆ ถึงพูดเรื่องลูกขึ้นมา?

เปลี่ยนเรื่องเร็วไปหน่อยไหม?

เยี่ยนจิ่วเฉาพูดต่อว่า “เจ้าอาจจะตั้งท้องแล้ว”

“เปล่าสักหน่อย!” อวี๋หวั่นเบือนหน้าหนี

เยี่ยนจิ่วเฉาพูดอย่างเอาแต่ใจว่า “ข้าบอกว่าเจ้าตั้งท้อง ก็หมายความว่าเจ้าตั้งท้อง!”

อวี๋หวั่น “…”

เอาเถอะ เดิมทีก็ตั้งท้องอยู่แล้ว เธอเพียงแต่กังวลว่าเขาจะจำไม่ได้ จึงยังไม่ได้บอก ตนเองตามน้ำยอมรับไปก็จบเรื่อง

เยี่ยนจิ่วเฉากล่าวว่า “ประเดี๋ยวข้าจะเรียกหมอหลวงมาจับชีพจรให้เจ้า”

อวี๋หวั่นกดปลายนิ้วลงบนข้อมือของตนเอง “ไม่จำเป็น ข้าเป็นหมอ หลายปีมานี้ข้าเรียนมาไม่น้อย ข้าจับชีพจรเองได้ ท่านอ๋องพูดถูกแล้ว ข้าตั้งท้องจริงๆ”

เยี่ยนจิ่วเฉามีสีหน้าพึงพอใจ “ข้าว่าแล้วเชียว!”

เมื่อคืน ‘ร่วมเรียงเคียงหมอน’ กัน วันนี้ตั้งท้องแล้ว ต้องสมองกลับตาลปัตรขนาดไหนถึงจะเชื่อเรื่องพวกนี้ได้?

อวี๋หวั่นยกมือขึ้นปิดตา ไม่มีหน้าจะมองเขา

เยี่ยนจิ่วเฉากระชับท่อนแขน โอบกอดเธอไว้ “ในเมื่อเจ้าตั้งท้อง ก็อย่าทำงานหนัก”

จะทำอะไรก็ไม่ต้องเดินไปเองด้วยซ้ำ ยังจะต้องทำงานหนักอะไรอีก? ท่านคิดเยอะเกินไปแล้ว…

“ที่นี่ลมแรง เจ้ากำลังท้องกำลังไส้อย่านั่งตากลมเลย” เยี่ยนจิ่วเฉาพูดพลางอุ้มอวี๋หวั่นขึ้นมา ในตอนนี้เขามีพลังของอ๋องแห่งเผ่าปีศาจ ขยับเพียงเล็กน้อยก็กลับมาถึงวังหลวงแล้ว

อวี๋หวั่นรู้สึกว่าเธอปล่อยให้คนอื่นดูฉากละครน้ำเน่าอีกแล้ว

เยี่ยนจิ่วเฉาพาอวี๋หวั่นมาส่งก็ตรงไปสะสางภารกิจ เป็นท่านอ๋องที่ขยันเหลือเกิน

อวี๋หวั่นเรียกบ่าวเข้ามาในห้อง ไม่รู้ทำไม อวี๋หวั่นจึงรู้สึกว่าบ่าวกลุ่มนี้มีท่าทางแปลกประหลาด คล้ายกับกำลังตื่นกลัว ฟางเฟยรินน้ำให้เธอด้วยมืออันสั่นเทิ้ม

เธอไม่ได้ทำอะไรนี่นา? ทำไมพวกนางถึงกลัวเธอขนาดนี้?

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น” อวี๋หวั่นถาม

ฟางเฟยคุกเข่าลงทันที

กลัวซะแล้ว…

อวี๋หวั่นนึกสงสัยมากกว่าเดิมเสียอีก เธอวางผ้าลง แล้วถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกข้ามา เกิดอะไรขึ้นตอนที่

ข้าไม่อยู่”

ฟางเฟยตอบอย่างกล้าๆ กลัวๆ ว่า “ระ…เรียนฮูหยิน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตอนที่ท่านไม่อยู่เจ้าค่ะ”

อวี๋หวั่นเลิกคิ้วด้วยความสับสน “แล้วพวกเจ้า…”

“แต่ตอนที่ท่านอยู่…” ฟางเฟยกัดฟันเล่าเรื่องที่เยี่ยนจิ่วเฉาจัดการฮูหยินลี่และฮูหยินอวี้ รวมไปถึงผู้พิทักษ์ทั้งสองให้เธอฟัง

“ท่านอ๋องจัดการพวกเขาทำไมหรือ” อวี๋หวั่นถามอย่างไม่เข้าใจ

ฟางเฟยตอบว่า “ได้ยินว่าฮูหยินทั้งสองร่วมมือกับผู้พิทักษ์ ตีบุรุษคนหนึ่งจนสลบ หมายจะนำมาจัดฉากว่าฮูหยิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]