หลานเจียวกล่าวช้าๆ “สาวน้อย เจ้าคงเพิ่งมาหมิงตูกระมัง เกรงว่าคงไม่เคยได้ยินเรื่องสกุลหลานหมิงตู สกุลหลานของพวกข้ามีมรดกยาวนาน สืบทอดกันมาหลายร้อยปี ในช่วงหลายร้อยปีนี้ อำนาจของสกุลหลานยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หากมองดูทั้งหมิงตู ก็มีเพียงสกุลซือคงเท่านั้นที่เหนือกว่าสกุลหลาน แค่ยอดฝีมือคนเดียว ก็คิดว่าจะคุกคามสกุลหลานได้ สาวน้อย เจ้าช่างไร้เดียงสา หรือโง่เขลาเกินไปกันแน่? เจ้าไม่ฉวยโอกาสตอนที่ข้าไม่จับพวกเจ้าหนีไป กลับยังกล้าอยู่ต่อรองกับข้าที่นี่! ไม่รู้อะไรเป็นอะไร!”
อวี๋หวั่นเกือบถูกนางทำให้กลัว
โชคดีที่อวี๋หวั่นไม่ใช่คนที่จะหลอกได้ง่ายๆ
อวี๋หวั่นคลี่ยิ้มจางๆ “หากเจ้ามียอดฝีมือที่ดีกว่านี้ มีหรือจะเสียเวลาเล่นลิ้นกับข้าอยู่ที่นี่?”
คิดว่าราชาซิวหลัวเป็นกะหล่ำปลีที่มีทั่วไปริมถนน? ที่หลับตาก็ยังสามารถจับมาได้กำใหญ่หรือ?
ดวงตาหลานเจียวสั่นไหว
อวี๋หวั่นไม่พลาดมองเห็นสีหน้าทุกอย่างของนาง และกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ข้าคงเดาถูกกระมัง? ในมือของเจ้าไม่มียอดฝีมือที่ทรงพลังมากกว่านี้ อย่างมากก็มีราชาซิวหลัวอีกสองคน ทว่าแค่สามีข้าใช้เพียงนิ้วเดียวก็ฆ่าเขาตายได้แล้ว เจ้าส่งมาอีกแปดคนสิบคนก็ล้วนไม่ต้องกล่าวถึง!”
วาจาเหล่านี้เยี่ยนจิ่วเฉารักที่จะฟังนัก
หลานเจียวกำมือแน่น
หากบอกว่าจวนสกุลหลานไม่มียอดฝีมืออีกแล้ว อวี๋หวั่นไม่เชื่อ ยอดฝีมือไปที่ใดถึงจะเป็นจุดสำคัญ พวกเขาก่อความวุ่นวายใหญ่โตเช่นนี้ ยังไม่เห็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่เล่าลือกัน ยอดฝีมือคนอื่นๆ ของสกุลหลานน่าจะไปคุ้มกันสตรีศักดิ์สิทธิ์เดินทางกระมัง?
“หยุดพูดเพ้อเจ้อได้แล้ว! ส่งราชันสัตว์พิษมาให้ข้า!” อวี๋หวั่นยื่นมือออกมา
ดวงตาหลานเจียวมีประกายเย็นชาวาบผ่าน นางมองบุรุษที่เฝ้าปกป้องอยู่ข้างกายสตรีตัวเหม็นผู้นี้ตลอดเวลา เขาปกป้องหญิงสาวราวกับให้ท้ายบุตรตนเอง นางไม่อาจลอบโจมตีได้แม้แต่น้อย
ทว่า สตรีศักดิ์สิทธิ์กำลังจะกลับมาในไม่ช้า ขอเพียงตนยืดเวลาอีกหน่อย——
หลานเจียวยิ้มอย่างจงใจ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าสกุลหลานให้กำเนิดสตรีศักดิ์สิทธิ์? ระรานสกุลหลาน ระรานสตรีศักดิ์สิทธิ์ จุดจบเป็นอย่างไรกันแน่? ในที่สุดกระทั่งเมืองหมิงตูพวกเจ้าก็อาจไม่สามารถออกไปได้ หากเจ้ารู้อะไรเป็นอะไรก็รีบหนีไปซะ ข้าจะให้เงินจำนวนหนึ่งแก่เจ้าเป็นค่าตอบแทน”
อวี๋หวั่นแตะคาง “ข้าทำลายกำแพงจวนเจ้าแล้ว เจ้ายังจ่ายเงินชดเชยให้ข้า ไม่ใช่เจ้าไม่กลัวข้ารึ? รู้สึกผิดเช่นนี้ไปไยเล่า? คงไม่ใช่ว่า…ต้องการประวิงเวลารอบุตรของเจ้ากลับมากวาดล้างพวกเราในคราวเดียวกระมัง?”
หลานเจียวสำลัก
ยามเจอสตรีผู้นี้ในร้านค้า ยังรู้สึกว่านางเซ่อซ่าไร้สมอง เหตุใดผ่านไปไม่นานสติปัญญาของนางก็สดใสถึงเพียงนี้แล้ว?
ท้องหนึ่งครรภ์โง่สามปีไม่เป็นเท็จ แต่เธอเคยทุกข์ทรมานมาครั้งหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ต้องเรียนรู้อะไรได้บ้าง
อวี๋หวั่นเคยได้ยินยายหลานกล่าวว่า สกุลหลานพยายามอย่างเต็มที่ในการฝึกฝนเลี้ยงดูเหล่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ในอดีต ดังนั้นศิลปะการต่อสู้ของสตรีศักดิ์สิทธิ์ย่อมไม่อ่อนหัด ยอดฝีมือที่ปกป้องสตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่เพียงแต่มีสกุลหลานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสกุลซือคง
อวี๋หวั่นไม่กล้าประมาทศัตรูอีก หากสามารถไม่ขัดแย้งสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้จะดีที่สุด แต่เป้าหมายของวันนี้ไม่ใช่เลือดของสตรีศักดิ์สิทธิ์
ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามา อวี๋หวั่นคร้านจะต่อความยาวสาวความยืดกับนาง “ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย จะส่งมาหรือไม่?”
หลานเจียวยิ้มเยาะ “หากไม่ส่งให้แล้วอย่างไร?”
อวี๋หวั่นกล่าวว่า “เช่นนั้นพวกข้าจะก็ชิงมันมา!”
อวี๋หวั่นคิดว่า ความสัมพันธ์กับสกุลหลานถูกตัดขาดไปตั้งแต่แรกแล้ว หลบซ่อนไปก็ไม่มีความหมายใด หากพวกเขาไม่มาที่สกุลหลาน สกุลหลานก็ไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป แต่เหตุผลที่ไม่บอกให้กระจ่างในยามนี้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้หลานเจียวใช้ราชันสัตว์พิษมาข่มขู่เธอและนางหลานให้มอบป้ายหยกสกุลหลานให้นาง
แน่นอนว่าพวกเขาสามารถรอได้ รอเวลาที่เหมาะสม รอให้สตรีศักดิ์สิทธิ์และสัตว์พิษตัวน้อยมาอยู่พร้อมกัน จากนั้นก็ใช้ป้ายหยกแลกเปลี่ยนทั้งสองสิ่งมา แต่สิ่งที่อวี๋หวั่นไม่อาจรับประกันได้คือ สัตว์พิษตัวน้อยที่ตกอยู่ในมือของสตรีเช่นหลานเจียวจะถูกข่มเหงหรือไม่?
ดังนั้น ช่วยสัตว์พิษตัวน้อยกลับมา เป็นเรื่องที่ไม่อาจรอช้า!
ชิงเหยียนและอิ่งสือซันก็เข้าใจความหมายของอวี๋หวั่นเช่นกัน อีกอย่างก็ฉีกหน้ากันไปแล้ว แสร้งเป็นหลานไปก็ไร้ประโยชน์ กลยุทธ์ทางอ้อมยิ่งไม่เหมาะสม จะดีกว่าหากชิงราชันสัตว์พิษกลับมาในยามที่สตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่อยู่
เมื่อนำราชันสัตว์พิษกลับมาอยู่ในมือแล้ว ต่อให้หลานเจียวจะค้นพบตัวตนของพวกเขาก็ไม่ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำนัก
หลายคนเตรียมพร้อมรุกฆาต กลับไม่คาดคิดเลยว่าเยี่ยนจิ่วเฉาจะทำจมูกฮึดฮัดและไม่มีแผนจะเคลื่อนไหวใดๆ
อวี๋หวั่นส่งสายตาให้เขา
เขาสองตามองท้องฟ้าแสร้งทำเป็นไม่เห็น
อวี๋หวั่นเหยียดสองนิ้วออกไปอย่างเงียบๆ และดึงที่แขนเสื้อของเขา
เยี่ยนจิ่วเฉากลอกตา เขาไม่ได้ต้องการช่วยเจ้าตัวเล็กนั่น! เอาแต่นอนบนตัวสตรีของเขาทั้งวัน! น่ารำคาญนัก!
“สามี~” อวี๋หวั่นนำทักษะที่เรียนรู้มาจากเหล่าซาลาเปาน้อยมาทำท่าทางน่ารัก แต่การแสดงที่ดูไม่จืดของเธอ ทำท่าทางน่ารักจนเกือบทำคนตกใจตาย หัวใจของชิงเหยียนและอิ่งสือซันเต้นกระตุก หันหน้าหนีไม่อาจทนมอง
แน่ใจว่านี่ทำท่าทางน่ารัก ไม่ใช่เพี้ยน?
แม้แต่เยว่โกวที่ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาที่สุดหลังจากมองเห็นก็ยังกุมหน้าอกตัวเอง : เด็กน้อยอย่างข้าตกใจแทบตาย…
เยี่ยนจิ่วเฉาก็เกือบกุมหัวใจเช่นกัน
แต่ไม่ใช่เพราะความตกใจ
เทพธิดาน้อยน่ารักผู้นี้ เกือบทำหัวใจของเขาละลายแล้วใช่หรือไม่?
เยี่ยนจิ่วเฉาถูกเทพธิดาตัวน้อยของตนทำให้หลงใหลได้สำเร็จ เขายอมแพ้อย่างราบคาบในทันที และเดินไปยังส่วนลึกของจวนสกุลหลานอย่างผึ่งผายองอาจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]