นายท่านฉินเคยชิมเต้าหู้ยี้ของอวี๋หวั่น ทว่ามาพร้อมกับเต้าหู้เหม็นที่เพิ่งทอดออกจากกระทะ รสเค็มและเย็น กับกลิ่นแหลมและรสชาติละมุน แต่ผัดอย่างไร? จะไม่เหม็นเกินไปหรือ?
เต้าหู้เหม็นก็เหม็นด้วยตัวมันเองแล้ว คู่กับเต้าหู้ยี้คงไม่เป็นไร ทว่าหาเป็นวัตถุดิบอื่น…
นายท่านฉินกระแอมในลำคอ “อะแฮ่ม! เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น? ข้าได้ยินมาว่าแม่นางตู้นำน้ำกุหลาบมา”
น้ำกุหลาบเป็นน้ำที่ทำจากการนำกลีบกุหลาบสดมาบดให้เละกับเครื่องปรุงที่ทำจากน้ำตาลทรายขาว ราดด้วยน้ำผึ้ง รสชาติหวานมัน กลิ่นหอมดอกไม้อบอวลไปทั่วทุกอณูริมฝีปากและซี่ฟัน เป็นวัตถุดิบระดับสูง
“ไม่เปลี่ยน” คนสกุลอวี๋ตอบอย่างพร้อมเพรียง
“…” ได้ เช่นนั้นก็เอาที่พวกเจ้าสบายใจเถิด
รอบสุดท้ายของการแข่งขันในวันนี้ ผู้ชนะจะได้รับเกียรติไปแข่งขันกับพ่อครัวเทพเป้า ส่วนจะได้ชัยชนะหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคต ขอเพียงได้ยืนอยู่บน ‘เวทีประลอง’ กับพ่อครัวเทพเป้าได้ ก็เพียงพอจะทำให้ชื่อเสียงของหอจุ้ยเซียนดังกระฉ่อนไปทั่วหล้า
ทั้งโรงเตี๊ยมเวยหย่วนและหอจุ้ยเซียนต่างก็เป็นม้ามืดที่เผยตัวออกมากะทันหัน ทุกคนต่างดูแคลนและเดาว่าพวกเขาคงเป็นได้แค่หินรองเท้าให้แม่นางตู้ย่ำผ่านไปเท่านั้น
“ผู้ใดว่าล่ะ!” ไป๋ถังเดินออกจากห้อง ตะโกนใส่แขกที่มารวมตัวแสดงความคิดเห็นอยู่ริมทางเดิน “เจ้ารู้หรือไม่ว่าพ่อครัวของหอจุ้นเซียนคือผู้ใด? ก็พ่อครัวอวี๋ที่ถูกหอเทียนเซียงขโมยผลงานอย่างไรเล่า! คนที่ทำอาหารจานเด่นทั้งห้าของหอเทียนเซียงก็คือเขา! เป็นหินรองเท้าอันใด? แม่นางตู้เป็นหินรองเท้าของพ่อครัวอวี๋ยังใกล้เคียงเสียกว่า!”
แขกอายุน้อยคนหนึ่งกระโดดออกมา “นางสมองทึบนี่มาจากที่ใดกัน! แม่นางตู้เป็นศิษย์สายตรงของพ่อครัวเทพเป้า! เอาคนเช่นนั้นมาเทียบกับแม่นางตู้ได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นข้าได้ยินมาว่า แนวคิดอาหารจานเด่นทั้งห้าเป็นของเขาจริง ทว่าพ่อครัวหยางเป็นคนทำให้มันสมบูรณ์แบบ หากไม่ใช่พ่อครัวหยาง ผู้ใดหรือจะรู้จักเขา?”
“เจ้า…เจ้า… เจ้าเหลวไหล! ไร้สาระ!” ไป๋ถังโกรธจนแทบระเบิด เป็นคนแบบใดกัน? ยังจะคิดว่าพ่อครัวอวี๋ได้รับประโยชน์จากโจรอีกกระนั้นรึ?
“คุณหนู พอเถิด” ผู้จัดการชุยเกลี้ยกล่อม
ไป๋ถังโกรธเกรี้ยว “ให้ข้าไม่ทำกระไรเลยได้อย่างไร? คิดว่าข้าแยกแยะถูกผิดไม่ได้รึ? คนพวกนี้ไร้สมองกันหมด!”
“ผู้ใดไร้สมอง? เจ้ากล่าวได้อย่างไร?” แขกอีกคนเอ่ยขึ้น
ไป๋ถังทำให้บรรดาแขกเริ่มโกรธเคือง ผู้จัดการชุยเห็นว่าสถานการณ์เริ่มเลวร้าย จึงรีบโน้มน้าวให้คุณหนูกลับไปที่ห้อง
ผู้จัดการชุยตักเตือนอย่างจริงใจ “ไอ้หยา คุณหนู ใยท่านลดตัวไปตีฝีปากกับพวกเขาเล่า? คำกล่าวที่ว่า จะเป็นล่อหรือม้า ลากออกมาก็รู้เอง สุดท้ายแล้วก็ยังต้องรอดูผลการแข่งขันอยู่ดี”
“ข้ารู้! แต่ข้าโกรธ!” ไป๋ถังเอ่ยพลางเปิดหน้าต่างเงยหน้าขึ้นมอง อย่าคิดว่านางไม่รู้ เหยียนหรูอวี้อยู่ชั้นบนนั่น คอยจ้องมองความเคลื่อนไหวของคนสกุลอวี๋ ทว่าสิ่งที่ไม่รู้คือเหยียนหรูอวี้กำลังรอชมเรื่องน่าขันของสกุลอวี๋อยู่หรือไม่?
การแข่งขันยังไม่ทันเริ่ม หลายคนก็มาแสดงความยินดีกับเหยียนหรูอวี้กับแม่นางตู้เสียแล้ว
เหยียนหรูอวี้มีแผนของนาง ร้านค้าทั้งหมดภายใต้ชื่อสกุลเหยียนถูกยึดหลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิด ทว่าตอนนี้ค่อยๆ ถูกส่งคืนมาทีละแห่ง ในจำนวนนั้นมีโรงเตี๊ยมขนาดเล็กและร้านอาหารมากมาย หากแม่นางตู้คว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ในคราวเดียวคงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับนาง
“ข้าขอแสดงความยินดีกับแม่นางตู้ล่วงหน้า ข้าจะจัดโต๊ะเหล้าสองตัวเพื่อแสดงความยินดีแก่แม่นางตู้ในภายหลัง!”
“ดี ดี” เหยียนหรูอวี้กล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“แม่นางตู้มั่นใจหรือไม่?” หลังจากผู้มาแสดงความยินดีจากไป เหยียนหรูอวี้ก็ถามแม่นางตู้อย่างนุ่มนวล
แม่นางตู้พยักหน้า “ข้าฝึกฝนร่ำเรียนมาอย่างหนักก็เพื่อวันนี้ ข้าต้องชนะ”
เหยียนหรูอวี้คลี่ยิ้ม “ด้วยชื่อเสียงของแม่นางตู้ ท่านยังสนใจการแข่งขันที่ไม่สำคัญนี่อีกหรือ?”
แม่นางตู้ตอบ “ข้าหาได้ทำเพื่อเอาชนะผู้อื่น หากแต่เป็นตัวข้าเอง ข้าต้องการพิสูจน์ให้ท่านอาจารย์ได้เห็น ว่าข้ามีคุณสมบัติพอจะสืบทอดมรดกวิชาของเขา”
มรดกวิชาของพ่อครัวเทพเป้า!
ใช่แล้ว บุตรชายของพ่อครัวเทพเป้าหายตัวไป เขาเฝ้าตามหามาตลอดหลายปี ทว่าก็ไม่พบ เขาเริ่มอายุมากแล้ว ในชีวิตนี้คงไม่มีวันที่บิดากับบุตรได้พบหน้ากันอีก มรดกวิชาของเขาจำต้องมีผู้สืบทอด ในฐานะศิษย์ที่เขาเคยภาคภูมิใจที่สุด แม่นางตู้ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
เหยียนหรูอวี้ดีใจ นางเชิญแม่นางตู้กลับมา ก็ได้สืบทอดมรดกวิชาของพ่อครัวเทพเป้า นางโชคดีกระไรปานนี้?
แม่นางตู้ก้มมองมือ “อาจารย์ไม่เคยพอใจในฝีมือของข้า ทว่าวันนี้ ข้ามั่นใจว่าจะทำให้เขาต้องเปลี่ยนความคิด”
การแข่งขันใหญ่ใกล้เข้ามาแล้ว เหยียนหรูอวี้ไปส่งแม่นางตู้ที่ชั้นล่างด้วยตนเองเพื่อเป็นการให้เกียรติ ทว่าเมื่อออกจากประตูหลังของห้องโถงก็พบกับอวี๋หวั่นและอวี๋เฟิงที่กำลังไปยังสถานที่จัดการแข่งขัน
หลังจากแข่งมาสองวัน สองพี่น้องก็จำแม่นางตู้ได้ แต่เหยียนหรูอวี้ พวกเขารู้จักมานานแล้ว ถึงจะกลายเป็นขี้เถ้าก็ยังจำได้ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]