ลมหายใจของสตรีศักดิ์สิทธิ์หยุดนิ่ง ใบหน้าของนางยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “ข้าแค่กังวลว่าเขาจะไม่มาช่วยเจ้า ไม่พาตนมาติดกับ แล้วข้าจะจับตัวเจ้ามาเสียเปล่า”
อวี๋หวั่นยิ้มจางๆ จับผ้าห่มเอนลงนอน “เขามาก็ไม่มีทางทักทายเจ้า พวกเจ้าจับเขาไม่ได้หรอก! หากไม่มีเรื่องใดแล้ว ข้านอนก่อนละ ที่นี่เป็นบ้านของว่าที่สามีของเจ้า เจ้าก็ทำตัวตามสบายเถอะ!”
หลังจากนั้นอวี๋หวั่นก็ไม่เอ่ยสิ่งใดกับสตรีศักดิ์สิทธิ์อีก ไม่นานก็รู้สึกถึงลมหายใจสม่ำเสมอ
เมื่อเห็นอวี๋หวั่นยังหลับลงในถิ่นศัตรู ความรู้สึกไม่พอใจของสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็กลับมาอีกครั้ง
ไม่ใช่ถูกจับมาหรือ? ไยยังนอนหลับได้อย่างสงบ? แน่ใจหรือว่าบุรุษผู้นั้นจะมาช่วย และจะช่วยได้จริง? ไปนำความมั่นใจและวางใจเช่นนี้มาจากที่ใดกัน? สตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยสัมผัสความรู้สึกที่จะมอบความไว้วางใจให้กับใครมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นมารดาบิดา นางก็ไม่อาจพึ่งพาได้อย่างสบายใจ นับประสาอะไรกับบุรุษคนเดียว
แน่นอน ซือคงฉางเฟิงเกิดจากตมทว่าไม่แปดเปื้อน ทว่าไม้เด่นเกินไพร ลมพัดหักโค่น[1] เป็นคนซื่อตรง ไม่เหมาะกับ ‘โลคในยุคไร้ความสงบสุข’ เช่นนี้
ดังนั้นซือคงฉางเฟิงจึงไม่อาจให้ความรู้สึกปลอดภัยกับนางได้เลย นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นางยอมแพ้กับซือคงฉางเฟิง
“สตรีศักดิ์สิทธิ์” ทูตศักดิ์สิทธิ์ถือเสื้อคลุมเดินทาง “อาการบาดเจ็บท่านเพิ่งดีขึ้น ต้องรักษาร่างกาย ระวังอย่าให้เป็นหวัด”
สตรีศักดิ์สิทธิ์กระชับเสื้อผ้าของนาง พลางจ้องมองอวี๋หวั่นที่กำลังหลับใหลอย่างว่างเปล่า
ทูตศักดิ์สิทธิ์เฝ้าสังเกตนางเป็นเวลาสองวันแล้ว เดาออกว่านางถูกคู่สามีภรรยาวัยหนุ่มสาวทำให้ไม่อาจสงบใจ ทูตศักดิ์สิทธิ์กล่าวปลอบใจ “สตรีผู้นี้โง่เขลา ดีเลวไม่อาจแยกแยะ เขาหลอกนางก็ไม่รู้ ในโลกนี้มีบุรุษที่รักเดียวใจเดียวที่ใดกัน? เป็นเพียงความคิดรักข้างเดียวของนางเท่านั้น ข้าว่า แม้คุณชายรองจะมัวเมาไปบ้างในบางครั้ง แต่กลับมีใจหลงใหลท่านผู้เดียว”
“หลงใหล” สตรีศักดิ์สิทธิ์หัวเราะเย้ยหยัน
พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาพอดี ซือคงอวิ๋นไม่พบสตรีศักดิ์สิทธิ์มาสองวันแล้ว เมื่อครู่ได้ยินว่านางมาที่เรือน ก็ไม่ได้รออยู่ที่ห้อง กลับออกมาตามหา
ทูตศักดิ์สิทธิ์ส่งสายตาให้สตรีศักดิ์สิทธิ์ ดูสิ คุณชายรองยังร้อนใจถึงท่าน
“พาคนเข้าไป” สตรีศักดิ์สิทธิ์สั่งอย่างแผ่วเบา
“เจ้าค่ะ” ทูตศักดิ์สิทธิ์พาอวี๋หวั่นที่นอนหลับกลับไปที่ห้อง
ยามที่ซือคงอวิ๋นข้ามประตูแสงจันทร์มาถึงเรือน บนเก้าอี้หวายก็ไม่มีใครอยู่แล้ว เขารู้ว่าสตรีผู้นั้นอาศัยอยู่ที่นี่ เขาเคยเห็นด้านหลังจากที่ไกลๆ ครั้งหนึ่ง รูปร่างอวบอ้วน คงไม่ได้งดงามสักเท่าใด
เขาสาวเท้าเดินไปหาสตรีศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับเอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง “ไยมาแล้วไม่มาหาข้า? เจ้าคงไม่ได้กังวลว่า ใกล้แต่งงานแล้ว ไม่ควรพบข้ากระมัง? เจ้าอย่าไปเชื่อคำพวกนั้น!”
สตรีศักดิ์สิทธิ์มองเขาเนือยนิ่ง ดวงตาอ่อนโยนลงกว่าเมื่อก่อน “คุณชายรอง”
“หือ?” ซือคงอวิ๋นตกตะลึงงงงวยกับท่าทางอ่อนโยนของนาง แม้ว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์จะไม่เคยใช้วาจารุนแรงกับเขา แต่ก็เย็นชาไม่อบอุ่นนัก “เจ้า เจ้าเป็นอันใดไป?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์อ้าปาก ลังเลที่จะเอ่ย
“เจ้ามีอะไรจะกล่าว ก็กล่าวมาเถอะ อาการบาดเจ็บกำเริบอีกแล้ว? บ่อน้ำเย็นใช้การได้ไม่ดีหรือ? ข้าจะไปหาท่านพ่อ ให้เขาหาท่านหมอแห่งหมิงตูให้เจ้า!” ท่าทีกังวลของซือคงอวิ๋นไม่ใช่สิ่งเสแสร้ง
สตรีศักดิ์สิทธิ์ใจสั่น อาจเพราะอิจฉา หรือเพราะไม่ชอบใจ เหตุใดนางถึงไม่มีบุรุษที่รักเดียวใจเดียวบ้าง?
เป็นครั้งแรกที่นางโหยหาความรักของชายหญิง
“คุณชายรอง” สตรีศักดิ์สิทธิ์เอ่ย “ต่อไป เจ้าจะไม่พบเซียงหลิงอีกได้หรือไม่?”
เซียงหลิงอนุภรรยาคนโปรดของซือคงอวิ๋น
ซือคงอวิ๋นคิดว่าเขาปกปิดเรื่องเซียงหลิงเป็นอย่างดี นึกไม่ถึงว่าจะถูกสตรีศักดิ์สิทธิ์จับได้ เขาใบหน้าแดงฉาน เอ่ยด้วยความรู้สึกผิด “เจ้า…ฟังข้าอธิบายก่อน เซียงหลิงเป็นคนที่ท่านแม่ของข้าส่งมา ผู้อาวุโสมอบให้ ยากปฏิเสธ เห็นแก่ท่านแม่ข้าจึงต้องดูแลนาง แต่ไม่ต้องห่วง เจ้าจะเป็นคนเดียวในใจข้าตลอดไป!”
“เช่นนั้น ไม่พบเซียงหลิงอีกได้หรือไม่?” สตรีศักดิ์สิทธิ์ใช้น้ำเสียงต่อรองที่ยากจะพบ
ซือคงอวิ๋นได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝัน วันนี้มันวันใดกัน จู่ๆ สตรีศักดิ์สิทธิ์ก็กลับกลายเป็นอ่อนโยน เขา เขา เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว…
“ได้สิ!” ซือคงอวิ๋นตัดสินใจรับปาก “หากเจ้าไม่ต้องการให้ข้าพบนาง ข้าก็จะไม่พบ! ข้าจะให้คนส่งนางออกไปจากจวน!”
ซือคงอวิ๋นทำตามที่กล่าว เขาเรียกข้ารับใช้ ตัดใจส่งตัวเซียงหลิงออกจากจวนไปทันที เซียงหลิงเป็นสาวใช้ที่ฮูหยินซือคงส่งมาให้เขา เพื่อไม่ให้ฮูหยินซือคงเอาผิดกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ เขาจึงไปที่เรือนฮูหยินซือคง และบอกว่าเซียงหลิงมีสัมพันธ์กับองครักษ์ลับหลังเขา เขาไม่โกรธและขับพวกเขาออกไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]