ช่วยคนได้แล้วไม่หนี กลับอยู่รอให้ถูกจับ?
หรือว่า…พวกเขาถูกคนของสกุลซือคงพัวพันแน่นหนา ไม่อาจถอนตัวออกมาได้ จึงจำใจยอมเข้าพิธีแต่งงาน?
เมื่อถึงจุดนี้ สตรีศักดิ์สิทธิ์เข้าใจว่าทั้งสองถูกทำให้ติดอยู่ในจวน เช่นนี้ก็เป็นการพิสูจน์ความสงสัยของนาง อีกเดี๋ยวเมื่อนางรวมตัวกับยอดฝีมือของสกุลซือคง จะจัดการสตรีผู้นั้นและเยี่ยนจิ่วเฉาที่เคยใช้อุบายกับนางอย่างโหดเหี้ยมแน่!
แต่ในไม่ช้า สตรีศักดิ์สิทธิ์ก็พบปัญหา พวกเขาไม่อาจก้าวเท้าเข้าประตูจวนซือคงได้เลยแม้แต่น้อย!
ยอดฝีมือของจวนซือคงรักษาการณ์ด้วยตันเอง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าไปได้
สตรีศักดิ์สิทธิ์เหลือบมองซือคงอวิ๋นที่อยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นก็นึกเสียใจที่ตนเองทุบตีจนใบหน้าของซือคงอวิ๋นบวมช้ำ แต่อาการบวมไม่มากนัก น่าจะยังจำได้อยู่
นางจับคอองครักษ์ บังคับให้เขามองไปที่ซือคงอวิ๋น “เปิดตาสุนัขของเจ้าดูให้ชัดๆ ว่าคนผู้นี้เป็นใคร!”
องครักษ์ถูกบังคับให้มอง จากนั้นเขาก็ถึงกับตกตะลึง
นี่ นี่ นี่…นี่ไม่ใช่คุณชายรองหรือ? แม้ใบหน้าจะบวม แต่ก็ยังดูออก
“เป็นอย่างไรเล่า? จำได้แล้วรึ?” สตรีศักดิ์สิทธิ์กล่าวน้ำเสียงเยือกเย็น
ซือคงอวิ๋นไม่ต้องการสนทนา เป็นถึงบุรุษทั้งคน กลับถูกสตรีต่อยจนหน้าบวม จะหลบก็ไม่ทันเสียแล้ว ไหนเลยยังมีแก่ใจให้ข้ารับใช้จ้องมอง?
ส่วนเขาจะเข้าไปในจวนซือคงได้หรือไม่ เขาไม่รีบร้อน เขาเป็นคุณชายรองของสกุลซือคง เรื่องนี้ปลอมได้หรือ? วันนี้เข้าไม่ได้ วันหน้าค่อยเข้าไปก็ได้! จำเป็นต้องทำให้ตนเองอับอายหน้าประตูใหญ่จวนเช่นนี้หรือ?
ซือคงอวิ๋นหันหลังกลับ หมายจะเดินจากไป แต่ถูกสตรีศักดิ์สิทธิ์หยุดไว้ “หยุดอยู่ตรงนั้น!”
รังแกเขาบนเรือนั่นถือว่าแล้วไป มาถึงประตูจวนซือคง ยังตะคอกเขาต่อหน้าองครักษ์ หากไม่สั่งสอนให้เป็นบทเรียนสักหน่อย นางคงคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่มากใช่หรือไม่?
ซือคงอวิ๋นกำลังจะตะโกนขู่สตรีศักดิ์สิทธิ์ ก็เห็นชายวัยกลางคนในเสื้อผ้าหรูหราเดินมาจากทางเดินจวน
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น? ไม่รู้หรือว่าวันนี้เป็นวันแห่งความสุขของคุณชายรองกับสตรีศักดิ์สิทธิ์? ปล่อยให้คนมาส่งเสียงดังหน้าจวนได้อย่างไร?”
น้ำเสียงองอาจสง่าผ่าเผย กลิ่นอายไม่ธรรมดา เขาคือผู้ดูแลสกุลซือคงระดับสูงท่านหนึ่ง แซ่เฉียน
สตรีศักดิ์สิทธิ์ปล่อยองครักษ์ลง
องครักษ์รีบไปอยู่ข้างกายของผู้ดูแลเฉียนด้วยความหวาดกลัว ชี้ไปทางคนทั้งสองที่ก่อปัญหาและกล่าวว่า “เรียน…เรียนผู้ดูแลเฉียน ไม่ใช่ข้าที่สร้างปัญหานะ จริงๆ แล้วเป็น…เป็น…”
ผู้ดูแลเฉียนกล่าวอย่างเย็นชา “เลิกอ้ำๆ อึ้งๆ เสียที มีเรื่องใดก็พูดมา! เดี๋ยวจะทำให้แขกในจวนเห็น แล้วจะคิดว่าสกุลซือคง แม้กระทั่งงานแต่งงานก็ยังจัดการได้ไม่ดี!”
องครักษ์เอนตัวกล่าวรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างหูของผู้ดูแลเฉียน
ผู้ดูแลเฉียนขมวดคิ้ว “เหลวไหลไร้สาระ! เมื่อครู่ข้าเพิ่งเจอคุณชายรองในห้องจัดเลี้ยง ที่นี่จะมีคุณชายรองอีกคนได้อย่างไร?”
“พวก พวก พวกเขากล่าวเช่นนี้…ไม่เชื่อท่านดูสิ” องครักษ์ตัวสั่นงันงกชี้ซือคงอวิ๋นที่มีสีหน้าเหยียดหยาม
เมื่อผู้ดูแลเฉียนตั้งใจมองให้ชัด ก็ตกใจ เจ้าเด็กคนนี้ ใบหน้าบวมช้ำไม่ผิด แต่ก็ยังมีส่วนที่คล้ายกับคุณชายรองอยู่บ้าง
“บอกเขาไปสิ ว่าเจ้าคือซือคงอวิ๋น” สตรีศักดิ์สิทธิ์กล่าวพลางมองซือคงอวิ๋น
ซือคงอวิ๋นดัดเสียงของเขา “เจ้าให้ข้าพูด ข้าก็ต้องพูดรึ?”
“เจ้า…” สตรีศักดิ์สิทธิ์สำลักด้วยความโกรธ
“เจ้าละเป็นใคร?” สายตาฉงนสงสัยของผู้ดูแลเฉียนตกกระทบร่างสตรีศักดิ์สิทธิ์
องครักษ์กระซิบ “นางบอกว่า…นางคือสตรีศักดิ์สิทธิ์”
“เฮอะ” ผู้ดูแลเฉียนหัวเราะอย่างดูถูก คุณชายรองนี่ยังพอมีเค้าโครงอยู่บ้าง แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์น่ะ หาได้มีส่วนใดเหมือนเลยแม้แต่น้อย “ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นพวกต้มตุ๋นจากที่ใด หาคนที่หน้าตาคล้ายคลึงกับคุณชายรอง ก็คิดว่าจะเข้าจวนสกุลซือคงได้แล้วเรอะ พวกเจ้าเห็นจวนสกุลซือคงเป็นที่ใดกัน? แม้แต่เจ้านายตัวจริงหรือตัวปลอม ข้ายังแยกไม่ออก เช่นนั้นข้าก็ไม่ต้องเป็นผู้ดูแลแล้ว!”
สตรีศักดิ์สิทธิ์หายใจฟึดฟัด เจ้าก็แยกไม่ออกจริงๆ นี่!
ผู้ดูแลเฉียนกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันมงคลของคุณชายรองกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ ไม่เหมาะให้มีคาวเลือด ข้าจะไม่ไล่ตามไปเอาเรื่องพวกเจ้า มาทางใดก็ไสหัวกลับไปทางนั้น! ไม่เช่นนั้น ข้าจะให้คนจับตัวพวกเจ้ามา…อาหารในคุกสกุลซือคง ไม่ได้รสชาติดีเช่นนั้น!”
พูดจบ ผู้ดูแลเฉียนก็ไม่เสียเวลากับคนทั้งสอง หันหลังกลับ เดินเข้าจวนโดยไม่หันกลับมามอง
สตรีศักดิ์สิทธิ์กลับไม่อาจปล่อยให้เขาไปจากที่นี่ได้ง่ายๆ เขาเป็นผู้เดียวที่สามารถพาพวกนางเข้าไปในจวนได้ หากโอกาสนี้หลุดมือ รอครั้งต่อไปก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แม้ว่าทั้งสองคนนั้นจะเป็นตัวปลอม แต่ให้พวกเขาอยู่ในจวนเช่นนี้ สตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่อาจวางใจ
“ผู้ดูแลเฉียน บังอาจนัก!” ดวงตาของสตรีศักดิ์สิทธิ์เป็นประกายเย็นชา ผ้าไหมขาวพุ่งพันรอบเอวของผู้ดูแลเฉียน
ผู้ดูแลเฉียนเพียงรู้สึกว่ารอบเอวของตนถูกรัดแน่น วินาทีต่อมา เขาก็ตกอยู่ในกำมือของสตรีศักดิ์สิทธิ์ สตรีศักดิ์สิทธิ์บีบคอเขาและกล่าวกับองครักษ์ที่กำลังตกตะลึงว่า “ไปเรียกคุณชายรองและสตรีศักดิ์สิทธิ์ออกมา ไม่เช่นนั้น ข้าจะฆ่าเขา!”
แม้ว่าผู้ดูแลเฉียนจะไม่ได้เป็นผู้ดูแลหลักของจวน แต่เขาก็เป็นสหายของฮูหยินซือคง และยังเป็นญาติห่างๆ กับฮูหยินซือคง องครักษ์ไม่กล้าปล่อยให้เขาเกิดเรื่องขึ้นต่อหน้าตน จึงรีบไปที่ห้องจัดเลี้ยงเพื่อเชิญฮูหยินซือคงและคุณชายรองมาแสดงตัว
ฮูหยินซือคงถูกฮูหยินสองสามคนจากหมิงตูเรียกไปดูการแสดงที่สวนบุปผา มีเพียงเยี่ยนจิ่วเฉาและอวี๋หวั่นเท่านั้นที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยงต้อนรับแขก เยี่ยนจิ่วเฉามีหน้าที่คอยต้อนรับ ส่วนอวี๋หวั่นมีหน้าที่เพียงกิน กินและกิน
เสี่ยวลิ่ว…ไม่สิ ตอนนี้ต้องเรียกว่าอิ่งลิ่วแล้ว เขาเดินตามมาข้างกายเยี่ยนจิ่วเฉาอย่างเงียบๆ และกระซิบเตือนว่า “คนที่กำลังเดินมาด้านหน้าคือ คุณชายสามแห่งสกุลจ้วง นามว่าจูเก๋ออวี๋ ปีนี้อายุสิบแปด อายุน้อยกว่าซือคงอวิ๋นหนึ่งปี…”
“นี่ข้าออกเดินทางไปนานเพียงใดแล้ว กลับมาเจ้าก็แต่งงานเสียแล้ว!” จูเก๋ออวี๋สาวเท้าเข้ามา วางแขนบนไหล่ของเยี่ยนจิ่วเฉา
เยี่ยนจิ่วเฉาเหลือบมองท่อนแขนของเขาอย่างเฉยชา “เจ้าหนู เกรงว่าเจ้าคงไม่ต้องการมือเสียแล้ว”
อิ่งลิ่วกลืนน้ำลายและกระซิบต่อว่า “…เทียบลำดับอาวุโสเป็นปู่ของซือคงอวิ๋น”
จูเก๋ออวี๋ที่ถูกหลานชายตนเองข่มขู่ “…”
เยี่ยนจิ่วเฉาที่ขู่ท่านปู่โดยไม่ได้ตั้งใจ “…”
สตรีศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้ที่พิเศษยิ่งในหมิงตู ในสายตาทุกคน นางบริสุทธิ์สูงส่งเย็นชา ไม่คลุกคลีกับคนธรรมดา บรรดาแขกหลายคนหวาดกลัวท่าทีที่วางตนสูงส่งเย็นชาของนางไม่กล้าเข้าใกล้ แต่…เหตุใดวันนี้พวกเขารู้สึกว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ลดตัวมาอยู่บนพื้นดินมากขึ้นเล็กน้อย?
สตรีศักดิ์สิทธิ์เป็นฮูหยินรองแห่งสกุลซือคง และเป็นเจ้าบ้านสกุลหลานในอนาคต อำนาจและชื่อเสียงกำหนดให้นางไม่อาจนั่งรอเจ้าบ่าวอยู่ในห้องเจ้าสาวเช่นสตรีทั่วไป แต่นางก็ไม่ได้เต็มใจเข้าสังคม จึงนั่งกอดจานใบเล็กงามวิจิตรอยู่ที่โต๊ะจัดเลี้ยง
ทุกคนจ้องมองนางตาไม่กะพริบ
สตรีศักดิ์สิทธิ์อ้วนแล้ว…
มือน้อยๆ อวบแน่น…
ท่าทางที่กินอาหารช่างน่ารักยิ่ง…
จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์น่ารักขึ้นมาเฉยๆ นี่มันเรื่องใดกัน…
อวี๋หวั่นกินไปได้ครึ่งหนึ่งก็สะอึก
“อึ๊ก~” ร่างท้วมของเธอกระตุก
ทุกคนมองแก้มอวบอ้วนทั้งสองข้าง บ้าจริง…อยากจะเดินไปหยิกยิ่งนัก…
ขณะที่อวี๋หวั่นกำลังสะอึก องครักษ์นายหนึ่งก็กระวีกระวาดเข้ามากระซิบบางอย่างกับเยี่ยนจิ่วเฉา เยี่ยนจิ่วเฉาปัดแขนเสื้อกว้างอย่างใจเย็น เดินไปข้างหน้าและยื่นมือไปหาอวี๋หวั่น “การแสดงดี จะดูหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]