หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 427

ซือคงฉางเฟิงทนไม่ไหวจนต้องเบือนหน้าหนี

แม้ว่าจะเดาได้แต่แรกแล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่เมื่อต้องมาประสบกับสถานการณ์จริง เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดใจ

เขานึกถึงครั้งแรกเห็นราชันหมื่นสัตว์พิษที่เขาหมิงซาน ในตอนนั้นท่านแม่ของเขาเพิ่งจากไปไม่นาน ท่านพ่อก็แต่งงานมีภรรยาคนที่สอง ทำให้เขารู้สึกได้ว่าตนเองเป็นลูกที่ไม่ได้รับความสำคัญมากที่สุด

เขาเดินตามเส้นทางลับเข้าไปยังเขาหมิงซานโดยไม่ได้ตั้งใจ

ปรมาจารย์ซือคงไม่สนว่าผู้ที่บุกรุกเข้ามาในเขาหมิงซานจะเป็นลูกศิษย์ของสกุลซือคงหรือว่าเป็นหลานชายของ

ตนเอง ขณะที่ปรมาจารย์ซือคงกำลังจะเงื้อมือสังหารเขา ราชันหมื่นสัตว์พิษก็หล่นลงบนมือของเขา

ราชันหมื่นสัตว์พิษในตอนนั้นเหมือนกับตอนนี้ไม่มีผิดเพี้ยน มันนอนขดตัวเป็นก้อนกลม

อาจเป็นเพราะถูกราชันหมื่นสัตว์พิษเลือก เขาจึงกลายเป็นผู้เลี้ยงราชันหมื่นสัตว์พิษ มีสิทธิ์เข้าไปในเขาหมิงซานได้อย่างอิสระ

นั่นทำให้ลูกผู้ไม่ได้รับความรักความเอ็นดูและไม่มีท่านแม่คอยปกป้อง กลับมีตำแหน่งของตนเองขึ้นมา ไม่แน่ว่าท่านพ่ออาจคิดอยากไล่ให้เขาออกจากสกุลซือคงอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่กล้าเอะอะโวยวายเพราะเขาเป็นเพียงผู้เดียวที่เข้าออกวิหารเจาหยางได้อย่างอิสระ

หลายปีมานี้ อาจดูคล้ายกับว่าเขาเป็นคนดูแลราชันหมื่นสัตว์พิษ แต่แท้จริงแล้วคงจะเป็นราชันหมื่นสัตว์พิษที่คุ้มกะลาหัวเขาเสียมากกว่า

อย่าว่าแต่ซือคงฉางเฟิงไม่อยากให้มันตายเลย อวี๋หวั่นก็ไม่ต่างกัน

ว่ากันว่าหัวใจของคนเราล้วนมีความรู้สึก แต่บางครั้ง ความเห็นอกเห็นใจที่คนเรามีต่อผู้อื่น ยังสู้หนอนตัวหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำไป

“เจ้าซื่อบื้อ…ทำไมไม่หนีไปละ? พวกเราบาดเจ็บ ข้าก็ตั้งท้อง ใครจะไปเอาชนะเจ้าได้?” เมื่อเห็นท่าทางไม่เดือดเนื้อร้อนใจกับโชคชะตาที่ท่านตาทวดกำหนดไว้ให้ตนของราชันหมื่นสัตว์พิษ อวี๋หวั่นก็อดรู้สึกคล้ายกับอยากจะร้องไห้ออกมาไม่ได้

ราชันหมื่นสัตว์พิษยังคงนิ่งสงบราวกับสมณะเข้าฌาน

ไม่รู้ว่าอวี๋หวั่นกับซือคงฉางเฟิงคิดไปเองหรืออย่างไร พวกเขารู้สึกว่าวันนี้ราชันหมื่นสัตว์พิษนิ่งกว่าปกติ

หรือว่า มันรอคอยชะตากรรมของตนเองมาตั้งแต่แรกแล้ว

มันไม่เคยคิดหนี

แผละ!

สัตว์พิษตัวน้อยร่วงหน้าคะมำลงมายังขั้นบันได

เจ้าหนอนพิษเฒ่าไปไหนก็จะพามันไปด้วย แต่ครั้งนี้กลับทิ้งมันไว้

สัตว์พิษตัวน้อยไล่ตามมา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามไม่ทัน มันตกลงไปในบ่อโคลน ตกลงไปในรอยแยกของพื้น แถมเกือบจะถูกไก่ป่ากินเสียแล้ว!

แต่มันก็ยังยืนหยัดอดทน เอาชีวิตรอดมาได้!

เพื่อมาตามหาเจ้าหนอนพิษเฒ่า!!!

สัตว์พิษตัวน้อยไต่ขึ้นไปบนกระโปรงของอวี๋หวั่นอย่างกระหืดกระหอบ แล้ววิ่งเข้าหาราชันหมื่นสัตว์พิษ

ราชันหมื่นสัตว์พิษกลับใช้พลังทำให้สัตว์พิษตัวน้อยกระเด้งออกไปทันใด

สัตว์พิษตัวน้อยตกลงบนพื้นดัง ‘แผละ’ มันมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ปีนขึ้นไปหาอวี๋หวั่น

ราชันหมื่นสัตว์พิษก็ ‘ปล่อยพลัง’ ทำให้มันกระเด็นออกไปอีก

สัตว์พิษตัวน้อยก็ปีนขึ้นไปอีกครั้ง

แต่ไม่ว่าจะปีนขึ้นไปกี่ครั้ง ก็กระเด้งออกมาทุกครั้งจนหมดสติไป

มันเงยหน้าขึ้นมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ น้ำตานองหน้า พลางมองไปยังราชันหมื่นสัตว์พิษซึ่งกำลังเข้าฌาณ

อวี๋หวั่นจึงตัดสินใจจะลงมือกับราชันหมื่นสัตว์พิษ

ราชันหมื่นสัตว์พิษกระโดดลงไป และปีนขึ้นไปบนหม้อต้มยา

สัตว์พิษตัวน้อยไม่เข้าใจว่าราชันหมื่นสัตว์พิษกำลังทำอะไร แต่สัญชาตญาณบอกกับมันว่านี่ไม่ใช่เรื่องดี มันกระโดด แล้วคว้าเท้าของราชันหมื่นสัตว์พิษไว้ ไม่ยอมปล่อยเป็นอันขาด!

ห้ามไปนะ!

ห้ามไปๆๆๆ!

ราชันหมื่นสัตว์พิษปีนลงไปในหม้อต้มยา มันสะบัดเท้าเล็กน้อย เพื่อให้สัตว์พิษตัวน้อยหลุดออกไป

สัตว์พิษตัวน้อยกลิ้งหลุนๆ ไปยังมุมห้อง ศีรษะเล็กของมันกระแทกเข้ากับกำแพงจนเจ็บไปหมด มันปีนขึ้นไปดึงราชันหมื่นสัตว์พิษลงมาจากหม้อต้มยาไม่รู้กี่ครั้ง แต่มันก็ไม่ขยับ ส่วนสัตว์พิษตัวน้อยนั้นตกลงมาทุกครั้ง

พลังมหาศาลเหนือจินตนาการระเบิดออกมาจากร่างเล็กๆ ของสัตว์พิษตัวน้อย และพุ่งไปชนจนราชันหมื่นสัตว์พิษที่อยู่ในเตาต้มยาซึ่งตั้งไว้อย่างมั่นคงหล่นลงมา

….และราคาที่มันต้องจ่ายก็คือเท้าของมัน ซึ่งหักไปข้างหนึ่ง

ราชันหมื่นสัตว์พิษกลับไม่ได้มองมันแม้แต่น้อย มันเพียงพลิกตัวกลับ แล้วปีนขึ้นไปบนเตา

สัตว์พิษตัวน้อยดึงขาที่หักออก หมายพุ่งชนเฉกเช่นที่ทำก่อนหน้านี้ แต่กลับถูกพลังของราชันหมื่นสัตว์พิษกดไว้

เมื่อเห็นว่าราชันหมื่นสัตว์พิษกำลังจะกระโดดลงไปในเตาอย่างไม่รู้สึกรู้สา สัตว์พิษตัวน้อยก็ร้องไห้ออกมาทันใด!

ปัง!

พูดมาถึงตรงนี้ เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาซับซ้อน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดออกมาว่า “ราชันหมื่นสัตว์พิษของสกุลซาง”

“สกุลซาง?” ซือคงฉางเฟิงตื่นตะลึง สกุลซางคือสกุลเดิมของฮูหยินซือคง มีฐานะเป็นรองเพียงสกุลซือคงเท่านั้น ทว่าเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าสกุลซางก็มีราชันหมื่นสัตว์พิษ

ประมุขสกุลซือคงกระแอม แล้วพูดด้วยสีหน้าลำบากใจว่า “แม่เจ้าดื่มจนเมามาย และหลุดปากพูดออกมา”

ท่านแม่ที่เขาพูดถึงผู้นี้ ไม่ใช่แม่แท้ๆ ของซือคงฉางเฟิง หากแต่เป็นแม่เลี้ยงของเขา

ประมุขซือคงกล่าวว่า “ราชันหมื่นสัตว์พิษของสกุลซางไม่เหมือนกับราชันหมื่นสัตว์พิษของท่านปรมาจารย์ ราชันหมื่นสัตว์พิษของท่านปรมาจารย์กินหนอนพิษเป็นอาหาร ส่วนราชันหมื่นสัตว์พิษของสกุลซางกินเลือดมนุษย์ มันดุร้ายและอันตราย ถ้าหากพวกเจ้าต้องการใช้มัน ก็จำต้องระวังให้มาก”

เมื่อซือคงฉางเฟิงได้ฟังประโยคสุดท้ายดังนั้น ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ท่านพ่อกล่าวเช่นนี้…เพราะท่านจะไม่ออกหน้าตามหาราชันหมื่นสัตว์พิษของสกุลซางใช่ไหมขอรับ?”

ประมุขสกุลซือคงถอนหายใจ “สกุลซางไม่มีทางยอมรับหรอกว่าพวกตนเลี้ยงสิ่งที่อันตรายเช่นนั้น ให้ข้าไปตามหา ไหนเลยจะหาพบ?”

ซือคงฉางเฟิงหัวเราะ “ที่จริงแล้ว ท่านพ่อก็แค่ไม่อยากให้ฮูหยินต้องลำบากใจ ท่านพ่อรักฮูหยินเหลือเกินนะขอรับ ในเมื่อท่านพ่อกับฮูหยินรักกันมากถึงเพียงนี้ แล้วตอนนั้นแต่งงานกับท่านแม่ทำไมหรือขอรับ?”

“เจ้า… เจ้าเด็กคนนี้…” ประมุขสกุลซือคงโมโหจนหน้าดำหน้าแดง จากนั้นจึงกล่าวว่า “ตอนนี้ใช่เวลาจะมาถกเถียงกันเรื่องนี้หรือ? พวกเจ้าไม่กลัวว่าถ้าหากล่าช้ากว่านี้อีก ชีวิตของท่านปรมาจารย์ก็ยิ่งเสี่ยงอันตรายหรือ”

พูดอย่างกับว่าท่านตาทวดมีเวลาเหลือมากมาย มีเพียงอวี๋หวั่นนั้นที่รู้ว่าเขาอาจอยู่ไม่ถึงพรุ่งนี้ด้วยซ้ำไป

อวี๋หวั่นมองไปยังประมุขสกุลซือคง แล้วถามหยั่งเชิงว่า “สรุปแล้วของที่สกุลซาง…”

ประมุขสกุลซือคงปัดมือ พร้อมกับบอกว่า “ไม่ต้องหยั่งเชิงข้าหรอก มันเป็นเพียงของที่อันตรายมากก็เท่านั้น สิ่งที่ข้ากังวลก็คือพวกเจ้าจะสามารถนำมันออกมาได้หรือไม่ ไม่ใช่ว่าไม่ได้หนอนพิษ มิหนำซ้ำยังทิ้งชีวิตไว้ที่นั่นอีก”

อวี๋หวั่นพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เรื่องจับหนอนพิษ ข้าจะคิดหาวิธีเอง ขอถามท่านประมุขสักหน่อย ว่าสกุลซางเก็บราชันสัตว์พิษไว้ที่ใด?”

ประมุขสกุลซือคงส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่กระจ่าง ข้าช่วยได้เพียงพาพวกเจ้าเข้าไปในสกุลซาง ส่วนหลังจากเข้าไปแล้ว พวกเจ้าต้องหาวิธีเอง แต่พวกเจ้าต้องสัญญากับข้าเรื่องหนึ่ง เมื่อใดที่ถูกจับ พวกเจ้าห้ามบอกว่าเกี่ยวข้องกับสกุลซือคง!”

ซือคงฉางเฟิงร้องว่า “ท่านพ่อ!”

ประมุขสกุลซือคงมองเขาเพื่อปรามไม่ให้พูด “ส่วนเจ้า ห้ามเข้าไป!”

……

อวี๋หวั่นกลับมายังห้อง และเล่าเรื่องของประมุขสกุลซือคงให้เยี่ยนจิ่วเฉาฟัง

เยี่ยนจิ่วเฉาจึงพูดโดยปราศการความลังเล “เช่นนั้นก็ไปสกุลซาง”

เขาพูดพลางมองออกไปยังดวงจันทร์กลมกระจ่างนอกหน้าต่าง “แต่พวกเรามีเวลาเพียงสิบสองชั่วยาม พระจันทร์เต็มดวงของวันพรุ่งนี้จะทำให้ผลข้างเคียงของวิชาอายุวัฒนะรุนแรงที่สุด เมื่อถึงตอนนั้น ถ้าหากยังหาราชันสัตว์พิษของสกุลซางไม่พบ…ก็คงต้องใช้ราชันหมื่นสัตว์พิษตัวนั้น”

……………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]