หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 43

ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุย จู่ๆ ผู้บำเพ็ญมารก็มีสีหน้าเคร่งขรึม เขาส่งสายตาให้ประมุขมาร เป็นนัยบอกให้อีกฝ่ายมองไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล

มันคือต้นอู๋ถงที่มีอายุกว่าร้อยปี ภูเขาเซิ่งเฟิงเต็มไปด้วยไอวิญญาณ มันจึงเติบโตสูงใหญ่กว่าต้นอู๋ถงทั่วไป ทว่าประเด็นสำคัญมิใช่ต้นไม้ แต่เป็นผู้ที่ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้

ประมุขมารมองดูเงาที่ทอดลงบนพื้นหลังต้นไม้ ก็ยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน

ผู้บำเพ็ญมารกระซิบ “ประมุขมาร ให้ข้าน้อยไปจัดการนางดีหรือไม่?”

เงาบนพื้นดูคล้ายสตรี ได้ยินว่าเขาเซิ่งเฟิงมีหญิงรับใช้มาเพิ่มสองสามคน เดาว่าอีกฝ่ายคงเป็นหนึ่งในนั้น ด้วยขอบเขตพลังของเขา การปลิดชีวิตหญิงรับใช้คนหนึ่งไม่ใช่เรื่องยาก

ประมุขมารเหลือบมองเงานั้นอย่างไม่ทุกข์ร้อน ราวกับมองปราดหนึ่งก็ยังเสียเวลา “ไม่ต้อง พรุ่งนี้เช้าเจ้าไปให้ตรงเวลาก็พอ”

เอ่ยจบก็หันหลังเดินจากไป

ในเมื่อนายบอกว่าไม่ต้องจัดการ เช่นนั้นก็ไม่ต้องจัดการ อันที่จริงเขายังอยากถามประมุขมาร ว่าเหตุใดจู่ๆ ความสัมพันธ์ของท่านกับประมุขศักดิ์สิทธิ์ถึงกลมเกลียวกันเช่นนี้ ทว่าประมุขมารจากไปแล้ว ผู้บำเพ็ญมารทำได้เพียงจากไปอย่างไม่มีทางเลือก

หลังจากทั้งสองหายตัวไป เงาร่างนั้นจึงเดินออกจากหลังต้นไม้ นางขมวดคิ้วมองไปยังทิศที่คนทั้งสองจากไป ฝ่ามือค่อยๆ บีบเข้าหากันขึ้นเล็กน้อย

เยี่ยนเสี่ยวซื่อตื่นขึ้นเพราะเสียงหัวเราะคิกคักในเช้าวันถัดมา

“ช่างเป็นเด็กที่น่ารักน่าชังอะไรเช่นนี้? เด็กที่ใดกัน?”

“ไม่รู้สิ เพิ่งมานอนอยู่ตรงนี้”

“ใช่บุตรของประมุขศักดิ์สิทธิ์หรือไม่?”

“อย่าพูดจาเหลวไหล”

“ทว่านางช่างน่ารักจริงๆ นี่นา”

หญิงงามมากมายรายล้อมประมุขศักดิ์สิทธิ์น้อย ผู้ถูกประมุขมารโยนทิ้งออกมาอย่างไร้ความปรานี จิตใจสตรีเอ่อล้น เหตุใดถึงมีเด็กที่งดงามเช่นนี้? ผิวพรรณขาวนวลอวบอิ่ม แขนขาเรียวเล็กราวกับรากบัว ใบหน้ายิ่งดูละเอียดอ่อนงดงามเกินบรรยาย โดยเฉพาะเส้นผมดกดำเงางาม อ่อนนุ่มดุจสัมผัสละลายในมือ!

ประมุขศักดิ์สิทธิ์ผู้ไม่เคยถูกผู้ใดแตะต้องแม้เพียงปลายเล็บ ยามนี้ถูกสตรีหยาบกร้านบีบหน้าลูบตัว จนประมุขศักดิ์สิทธิ์ไม่สู้ดี

เขาถลึงตาเย็นชาใส่พวกนาง

ฉินหลิ่วจือกล่าวด้วยความประหลาดใจ “พวกเจ้าดูสิ นางกำลังดุพวกเรา!”

“น่ารักน่าชัง…” มู่เฉียงเวยรู้สึกคล้ายหัวใจจะละลาย

ประมุขศักดิ์สิทธิ์อยากกัดฟัน แต่น่าเศร้าที่พบว่าฟันของตนมีเพียงสองซี่หน้า

ประมุขศักดิ์สิทธิ์ “…”

ขณะที่หลายคนอุ้มทารกน้อยอย่างมีความสุข ฟู่หรูเสวี่ยก็เดินจากมาเงียบๆ หันตัวมุ่งหน้าไปยังวังของประมุขศักดิ์สิทธิ์

เยี่ยนเสี่ยวซื่อตื่นแล้ว นางสะลึมสะลือลุกขึ้นนั่งข้างเตียงอย่างว่างเปล่า

เป็นประมุขศักดิ์สิทธิ์น่าสังเวชเช่นนี้เชียวหรือ? ฟ้าเพิ่งสว่างก็ถูกปลุกเสียแล้ว?

“ประมุขศักดิ์สิทธิ์” นอกประตู ฟู่หรูเสวี่ยก้มหน้าเอ่ยด้วยสายตามองตรง “ข้า ฟู่หรูเสวี่ย ข้ามีเรื่องจะรายงานเจ้าค่ะ”

“มีเรื่องอะไร?” เยี่ยนเสี่ยวซื่ออ้าปากหาว ไม่ได้คิดจะให้นางเข้ามา

ฟู่หรูเสวี่ยหันซ้ายหันขวากระซิบเบาๆ “เป็นเรื่องสำคัญเจ้าค่ะ โปรดอนุญาตให้ข้าเข้าไปรายงาน”

เยี่ยนเสี่ยวซื่อเหลือบมองประมุขมารที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ข้างๆ แล้วเอ่ยว่า “เช่นนั้นเจ้าก็เข้ามาเถอะ”

ฟู่หรูเสวี่ยเข้ามาในห้องอย่างแผ่วเบา

เมื่อคิดว่าที่นี่คือตำหนักของประมุขศักดิ์สิทธิ์ หัวใจของฟู่หรูเสวี่ยก็เต้นโครมคราม นางพยายามระงับมันลงอย่างระมัดระวัง เดินมาด้านหน้าฉากกั้นอย่างสง่างาม

“เอาละ เจ้าพูดตรงนั้นแหละ” เยี่ยนเสี่ยวซื่อเอ่ย

ไม่รู้ว่าเสี่ยวเจามาตั้งแต่เช้า หรือนอนเฝ้าข้างเตียงตลอดทั้งคืน แต่ถึงอย่างไร ไม่ให้ฟู่หรูเสวี่ยเห็นว่าเขาอยู่ในห้องเดียวกับตนจะดีกว่า

เรื่องที่ฟู่หรูเสวี่ยจะรายงาน เยี่ยนเสี่ยวซื่อไม่นึกว่าจะเกี่ยวข้องกับเสี่ยวเจา

ฟู่หรูเสวี่ยกล่าว “ประมุขศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่หรูเสวี่ยจะเอ่ยต่อไปนี้อาจยากจะเชื่อ ทว่าหรูเสวี่ยสาบานว่าทุกคำพูดของหรูเสวี่ยเป็นความจริง หรูเสวี่ยไม่มีวันคิดร้ายต่อประมุขศักดิ์สิทธิ์!”

“อื้ม เจ้าพูดมา” เยี่ยนเสี่ยวซื่อกล่าว

ฟู่หรูเสวี่ยระวังการเคลื่อนไหวรอบตัว ตัดสินใจเอ่ยปาก “ประมุขศักดิ์สิทธิ์ ท่านถูกคนหลอก สหายผู้นั้นของท่านไม่ใช่ผู้บำเพ็ญสายตรงอะไร เขาเป็น…เขาเป็น…”

ฟู่หรูเสวี่ยพยายามจะพูดว่าประมุขมาร แต่กลับพบว่าลำคอของตนคล้ายกับถูกอุดกั้น ทำอย่างไรก็ไม่อาจเปล่งคำนั้นออกมาได้ นางพยายามเปลี่ยนเป็นคำว่าคนจากเผ่ามาร ทว่าก็เป็นเช่นเดิม

นางจับคอตนเอง เหตุใดเป็นเช่นนี้?

ประมุขมารยังนั่งบำเพ็ญสมาธิอย่างจดจ่อไม่ขยับเขยื้อน

เยี่ยนเสี่ยวซื่อถาม “เหตุใดเจ้าไม่พูดต่อ?”

ข้า……

ฟู่หรูเสวี่ยพยายามตะโกนสุดกำลัง แต่ก็ไม่เป็นผล

เยี่ยนเสี่ยวซื่อรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง จึงมองฟู่หรูเสวี่ยที่กำลังดิ้นรนส่งเสียง ผ่านช่องว่างของฉากกั้น ดวงตาพลันหรี่ลง

นางเดินไปหาประมุขมาร ใช้นิ้วจิ้มไหล่ของเขา แล้วหรี่ตาเอ่ยเบาๆ “เจ้าทำอะไรนาง? มีสิ่งใดปิดบังข้าใช่หรือไม่? เจ้าไม่ใช่ผู้บำเพ็ญสายตรง เช่นนั้นเจ้าเป็นใคร?”

ประมุขมารค่อยๆ ลืมตาขึ้น ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นกดเยี่ยนเสี่ยวซื่อลงบนเตียงนุ่ม

เยี่ยนเสี่ยวซื่อตกตะลึงกับการกระทำที่ไม่คาดคิด ร่างเล็กแข็งทื่อ ตาโตกะพริบปริบๆ คงไม่ได้หื่นกระหายกับนางตั้งแต่เช้าตรู่กระมัง? แม้ร่างกายนี้จะเป็นของคนที่เขารัก ทว่าวิญญาณก็ไม่ใช่อยู่ดี

เช่นนี้ก็ยังทำลงหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]