“เกิดอะไรขึ้น” อวี๋หวั่นถามอย่างไม่เข้าใจ
“มันคือหลัวช่า” เยี่ยนจิ่วเฉาอธิบาย
“ไม่ใช่…” สิ่งที่เธอจะถามไม่ใช่เรื่องนี้ เธอจะถามว่าเจ้าตัวเล็กนี่ไม่ชอบนมแพะไม่ใช่หรือ เมื่อครู่ยังโยนขวดนมทิ้งไปอยู่เลยนี่นา ทำไมตอนนี้กลับกระโดดเข้ามาหาเธอ แล้วดื่มอย่างนี้ละ?
“เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้ท่านว่าอย่างไรนะ?” ในที่สุดอวี๋หวั่นก็ตระหนักได้ถึงสิ่งที่สามีพูด!
“มันคือหลัวช่า” เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
ร่างอวบของอวี๋หวั่นสั่นเทิ้ม “หลัว…หลัวช่า? หลัวช่าจากเขตหวงห้ามของสกุลซาง?”
“มิผิด” เยี่ยนจิ่วเฉาพูดอย่างใจเย็น
อวี๋หวั่นมองเยี่ยนจิ่วเฉาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ เพื่อให้มั่นใจว่าเขาไม่ได้กำลังแกล้งเธอ จากนั้นก็มองไปยังเจ้าตัวเล็กที่กำลังกินนม ก็รู้สึกแทบล้มทั้งยืน
เจ้าตัวเล็กที่ผ่ายผอมราวกับกิ่งไม้ที่เธอคิดว่า…เป็นเด็กที่น่าสงสารคนหนึ่ง…แท้จริงแล้วคือหลัวช่าของสกุลซางหรอกหรือ?
เธอไม่รู้ว่าควรพูดว่าอย่างไรดี
เธอมองไปยังหลัวช่าน้อยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้าคือหลัวช่าจริงหรือ? เมื่อครู่เจ้าจะกินข้าใช่ไหม?”
เยี่ยนจิ่วเฉาจับมันขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว
หลัวช่าน้อยตอบ “อือฮึ” ในมือถือขวดนม พยายามโผเข้าอวี๋หวั่น
อวี๋หวั่นฝืนใจเบือนหน้าหนี เธอถูกรูปร่างของหลัวช่าน้อยหลอกเข้าเสียแล้ว ในฐานะคนเป็นแม่ เธอรู้สึกทนดูไม่ได้
“ถ้าสร้างเรื่องอีก ข้าฆ่าเจ้าแน่!” เยี่ยนจิ่วเฉาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
ไม่รู้ว่ามันเข้าใจที่เยี่ยนจิ่วเฉาพูด หรือสัมผัสได้ถึงจิตสังหารทรงพลังของเยี่ยนจิ่วเฉา หลัวช่าน้อยก็ยอมอยู่นิ่งๆ แต่โดยดี
ชิงเหยียนและลูกศิษย์วิหารเจาหยางคนอื่นๆ รีบร้อนมาถึง เรื่องของหลัวช่าสกุลซางนั้นแพร่สะพัดไปทั้งวิหารเจาหยาง ลูกศิษย์ในวิหารล้วนรู้กันถ้วนหน้าว่าสกุลซางเลี้ยงอสูรกายไว้ตัวหนึ่ง กระนั้นเมื่อได้เห็นกับตาของตน ย่อมไม่มีผู้ใดคาดคิดว่ามันจะเป็นเจ้าตัวเปี๊ยกนี่
หลัวช่าน้อยร่างกายผ่ายผอม ใบหน้าตอบ ทว่าดวงตาสองดวงนั้นกลมโต ยามที่ไม่มีกลิ่นอายของหลัวช่าโลหิต
ย่อมไม่ต่างจากเด็กทั่วไป หรืออาจแลดูอ่อนแอกว่าเด็กทั่วไปเสียด้วยซ้ำ ทว่าภายใต้ร่างที่ดูอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง กลับซ่อนพลังอันแข็งแกร่งที่ทำลายล้างเขาหมิงซานทั้งลูกได้
เยี่ยนจิ่วเฉาโยนหลัวช่าน้อยให้ชิงเหยียน
ชิงเหยียนรับหลัวช่าน้อยไว้
หลัวช่าน้อยแยกเขี้ยวยิงฟันให้ชิงเหยียน ชิงเหยียนกลัวจนแทบเหวี่ยงมันทิ้งไป
เยี่ยนจิ่วเฉาขยับนิ้วเล็กน้อย ใช้วิชาอายุวัฒนะสร้างพลังภายในสายหนึ่ง ทันในนั้นซิวหลัวน้อยก็นิ่งไป
เยี่ยนจิ่วเฉาเก็บพลังภายในกลับมา แล้วเดินทอดน่องกลับไปยังวิหารเจาหยาง ลูกศิษย์วิหารเจาหยางหาตัวเด็กทั้งสามพบและพากลับไปแล้ว พวกเขากำลังนั่งอยู่บนธรณีประตู รอกินนมไปพลางรอท่านแม่
ทันทีอวี๋หวั่นเห็นลูกๆ หัวใจของเธอก็พลันพองโตขึ้นมา รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏบนใบหน้าของเธอ
หลัวช่าน้อยเห็นว่าดวงตาของเธอเปี่ยมไปด้วยความดีใจ ก็กะพริบตาปริบๆ ด้วยความประหลาดใจ
อวี๋หวั่นเดินเข้าไปลูบศีรษะเด็กน้อยทั้งสาม “เมื่อครู่พวกเจ้าไปเล่นกันอยู่ที่ไหน แม่หาอยู่ตั้งนาน!”
“เปล่าขอรับ พวกเราเล่นกันอยู่แถวนี้!” เสี่ยวเป่าพูดออกมาอย่างทันใด “ท่านแม่ไม่เชื่อไปถามเอ้อร์เป่าได้ขอรับ”
ทั้งยังไม่ลืมที่จะส่งสายตาให้เอ้อร์เป่า
ดวงตากลมโตของเอ้อร์เป่ามองท่านแม่ พยายามสำแดงวิชาบ้องแบ๊วอย่างสุดกำลังเพื่อขจัด ‘ความผิด’ ของ
พวกตน ทว่ากลับเหลือบไปเห็นหลัวช่าน้อยที่ชิงเหยียนอุ้มอยู่ นัยน์ตาของเอ้อร์เป่าเป็นประกายขึ้นทันใด “น้องชาย?”
เสี่ยวเป่าร้อง ‘โอ้’ ลุกขึ้นยืน เขย่งปลายเท้ามอง “น้องชายอยู่ไหน?”
ชิงเหยียนแค่นเสียงขึ้นจมูก แล้วรีบอุ้มหลัวช่าไปยังอักห้องหนึ่ง
อวี๋หวั่นตั้งสติได้ทันใด เธอเบนสายตาจากชิงเหยียน แล้วหันมาหาเด็กทั้งสาม “นั่นไม่ใช่น้องชาย เอาละ นี่ก็เย็นมากแล้ว พวกเจ้าไปอาบน้ำเถอะ”
“อื้ม!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]