แม้ว่าเยี่ยนเสี่ยวซื่อคิดอยากโอ้อวดความเก่งกาจของท่านพ่อ ทว่าคนเราต้องรู้จักถ่อมตัว นางเป็นสาวน้อยที่ถ่อมตัว!
เยี่ยนเสี่ยวซื่อรับรู้สถานการณ์มาจากศิษย์พี่จิ้งแล้ว แม้ว่าผู้ที่หายตัวไปจะเป็นผู้บำเพ็ญเพียรวัยเยาว์ แต่พวกเขาเหล่านั้นเป็นล้วนแต่เป็นผู้ที่บำเพ็ญเพียรไร้สังกัด จึงมิได้ดึงดูดความสนใจจากนิกายอื่นเท่าไรนัก
เมื่อมองจากมุมนี้ คนร้ายต้องเจ้าเล่ห์เพทุบายมากเป็นแน่ เขาจงใจไม่เลือกลงมือกับลูกศิษย์สังกัดในนิกายใดๆ ด้วยเกรงว่าจะถูกตามล้างแค้น เพียงแต่ว่านิกายศักดิ์สิทธิ์ยื่นมือเข้ามาสืบเรื่องนี้ และในยามที่ลูกศิษย์นิกายศักดิ์สิทธิ์ต่อสู้เพื่อปกป้องตนเอง พวกเขาก็หายตัวไปพร้อมกัน
“ไม่รู้ว่าพวกศิษย์น้องจะรอดกลับมาไหม” ศิษย์พี่จิ้งพูดด้วยความรู้สึกผิด หากรู้แต่แรกว่าจะเผชิญหน้ากับคนร้าย เมื่อวานไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่นิ่งนอนใจรอข่าวคราวอยู่ในนิกายหรอก
เยี่ยนเสี่ยวซื่อตบบ่าของเขา “เจ้าไม่ได้บอกเองหรือว่าเมื่อเช้าเพิ่งมียอดฝีมือระดับไท่ซวีหายตัวไป? หากแม้แต่ยอดฝีมือระดับไท่ซวียังถูกจับตัวไป ลำพังระดับพลังต่ำเตี้ยเรี่ยดินของเจ้า ต่อให้อยู่ที่นั่นในตอนนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้”
ศิษย์พี่จิ้งซึ่งถูกพูดแทงใจดำจนอึ้งไปชั่วขณะ “…”
เยี่ยนเสี่ยวซื่อตัดสินใจเดินทางไปตรวจดูบนเขาเซียนเฉ่าสักหน่อย
ศิษย์พี่จิ้งร้องขอติดตามไป แต่ก็ถูกเยี่ยนเสี่ยวซื่อปฏิเสธ ล้อเล่นหรืออย่างไร นางใช้พลังของประมุขศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้เสียด้วยซ้ำ หากเข้าไปแล้วถูกศิษย์พี่จิ้งจับได้ว่านางไม่ใช่ประมุขศักดิ์สิทธิ์ตัวจริงจะทำอย่างไร หากกลัวว่าจะเกิดอันตรายละก็ มีเสี่ยวเจาอยู่ด้วยไม่ใช่หรือ? เสี่ยวเจาเอาชนะได้แม้แต่ประมุขศักดิ์สิทธิ์ จะต้องกลัวอะไรกับแค่คนร้ายกระจอกๆ
แต่ว่า ยามที่เยี่ยนเสี่ยวซื่อหันหน้าไปหาเสี่ยวเจา กลับพบว่าเสี่ยวเจานั้นหายไป ไม่เห็นแม้แต่เงา
“คนเล่า? หายไปไหนแล้ว” นางพึมพำ
หัวถนนแห่งหนึ่ง ประมุขมารยืนอยู่ในเรือนอันว่างเปล่า ผู้บำเพ็ญมารยืนพร้อมยกมือขึ้นคำนับต่อหน้าเขาอย่างพินอบพิเทา “ข้าน้อยไม่ได้ทำขอรับ ประมุขมารได้โปรดตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน!”
“นอกจากเจ้าแล้ว ยังมีใครออกไปจากเผ่ามารอีก” ประมุขมารเอ่ยถามด้วยเสียงราบเรียบ
ผู้บำเพ็ญมารครุ่นคิด แล้วจึงตอบว่า “ยังมีลูกน้องอีกสองสามคน แต่ว่าข้าน้อยควบคุมเส้นทางของพวกเขา ข้าน้อยมั่นใจพวกเขาไม่ได้ทำขอรับ!”
แม้ว่าผู้บำเพ็ญมารจะอยากทำเช่นนั้นเหลือเกิน แต่ก่อนออกเดินทาง ประมุขมารได้กำชับกับพวกเขาแล้วว่า ภารกิจในครั้งนี้คือการพาคนกลับมายังเผ่ามาร อย่าให้เกิดปัญหาขึ้นซ้ำซ้อนเป็นอันขาด
ประมุขมารมิได้แยแสต่อความเป็นความตายของผู้บำเพ็ญเพียรฝ่ายธรรมะซึ่งได้ชื่อว่าปฏิบัติตนถูกต้องตามทำนองคลองธรรมและชาวบ้านเหล่านั้น แต่ถ้าหากเรื่องนี้เกี่ยวโยงไปถึงนิกายเซียน ประมุขมารก็ไม่อาจนิ่งดูดายได้
“จับตาดูคนของเจ้าให้ดี อย่าให้พวกเขาไปก่อเรื่อง”
“ขอรับ”
หลังจากที่ประมุขมารโยนยาบำรุงขวดหนึ่งให้ผู้บำเพ็ญมารแล้ว ก็หันหลังเดินจากไป
ยาเหล่านี้ใช้สำหรับซ่อนพลังมารในร่างกายของพวกเขา และใช้สำหรับป้องกันพลังจิตวิญญาณถูกกัดกิน ประมุขมารไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะเขาเป็นร่างรวมของเผ่าศักดิ์สิทธิ์และมาร สามารถดูดซับได้ทั้งพลังมารและปราณวิญญาณ
ประมุขมารกลับไปยังโรงเตี๊ยมซึ่งลูกศิษย์นิกายศักดิ์สิทธิ์พำนักอยู่
เยี่ยนเสี่ยวซื่อถลึงตาเดินเข้ามา “เมื่อกี้เจ้าไปไหนมา ข้ากำลังหาเจ้าอยู่พอดี”
“ออกเดินทางเถิด” ประมุขมารเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อื้ม!” เยี่ยนเสี่ยวซื่อสะพายตะกร้าขึ้นหลัง และออกจากโรงเตี๊ยมไปพร้อมกับประมุขมาร
บุรุษรูปงามดุจหยกสองคน คนหนึ่งสวมอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์ราวเกล็ดหิมะ อีกคนหนึ่งสวมอาภรณ์สีนิล เปี่ยมไปด้วยจิตสังหารอันน่าเกรงขาม เป็นคุณชายผู้โดดเด่นหาผู้ใดเปรียบ
“อยู่ๆ ข้าก็รู้สึกว่าพวกเขาเหมาะสมกันเหลือเกิน นี่มันเรื่องอะไรกัน” ลูกศิษย์คนหนึ่งของนิกายศักดิ์สิทธิ์พึมพำพลางมองไปยังแผนหลังของทั้งสอง
ศิษย์พี่จิ้งพยักหน้า ทันใดนั้นเขาก็ก็รู้สึกแปลกๆ จากความเขินอายแปรเปลี่ยนเป็นความขุ่นเคือง จึงหันหน้าไปถลึงตาใส่ศิษย์น้อง “พูดอะไรของเจ้า พวกเขาทั้งคู่เป็นบุรุษ!”
“อ่อ” ลูกศิษย์นิกายศักดิ์สิทธิ์ซึ่งถูกตำหนิลูบศีรษะเบาๆ “ว่าแต่ศิษย์พี่จิ้ง บุรุษคนนั้นเป็นใครกัน เหตุใดถึงมาอยู่ข้างกายประมุขศักดิ์สิทธิ์ได้ ประมุขศักดิ์สิทธิ์มีเพื่อนด้วยหรือ?”
ศิษย์พี่จิ้งส่ายหน้า “เป็นเรื่องของประมุขศักดิ์สิทธิ์ พวกเราไม่ต้องไปถามมาก”
ทั้งสามเดินทางมาถึงจุดที่ลูกศิษย์นิกายศักดิ์สิทธิ์หายตัวไปตามคำบอกเล่าของศิษย์พี่จิ้ง บนพื้นหญ้ามีร่องรอยของการต่อสู้อยู่ไม่น้อย กระนั้นประมุขมารก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของวิชาเผ่ามารในบริเวณนั้น
นั่นหมายความว่าคนร้ายคือผู้บำเพ็ญมารหรือ?
ประมุขมารหรี่ตา
เบื้องหน้าเป็นอาณาเขตที่ประมุขเซียนสร้างไว้ เป็นเพราะมี ‘เยี่ยนเสี่ยวซื่อ’ อยู่ พวกเขาจึงเดินเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]