ราวกับว่าในชั่วพริบตาประมุขซางก็กลายเป็นคนละคน…ไม่ หากกล่าวให้ถูกคือ กลายเป็นหลัวช่าโลหิตอีกตน
เขาแข็งแกร่งกว่าซิวหลัวโลหิตอ่อนหัดที่อาศัยเพียงการกินเลือดของราชาหลัวช่าเล็กน้อยเพื่อเพิ่มระดับของตนมาก เล็บของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ จุดอิ้นถังและริมฝีปากเริ่มกลายเป็นสีดำ เส้นเลือดดำโบนปูดออกมาจากหน้าผาก แม้แต่ร่างกายก็พองขึ้นอย่างรวดเร็วจากการได้รับกำลังภายในมหาศาล
ยอดฝีมือแห่งสกุลซือคงที่อยู่ที่นั่นต่างมีสีหน้าเปลี่ยน ราวกับไม่เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เหตุใดจู่ๆ ประมุขซางถึงกลายเป็นหลัวช่าโลหิตเมื่อถูกหลัวช่าน้อยทำร้าย?
หลัวช่าน้อยใช้สองนิ้วชนกัน คล้ายกับสงสัยว่าเป็นเพราะตนทุบตีเขาจนกลายเป็นเช่นนี้หรือไม่
“อ๊าก——” การกลายเป็นหลัวช่าโลหิตไม่ใช่เรื่องง่าย เสียงกรีดร้องดังออกมาจากลำคอของประมุขซาง
หลัวช่าน้อยนอนอยู่บนหลังของเยี่ยนจิ่วเฉา มือเล็กๆ ยกปิดตา
“เขาร้อง แล้วเจ้าปิดตาด้วยเหตุใด?” เยี่ยนจิ่วเฉาถามเบาๆ
หลัวช่าน้อยผงะ แล้วเอามือเล็กๆ มาปิดหูของตน
ร่างของประมุขซางแผ่ลมปราณทรงพลังไร้เทียมทานห่อหุ้มตัวทีละชั้นราวกับดักแด้ ประมุขซือคงหมายจะโจมตีเขาในขณะที่กระบวนการยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ทว่าศรที่ปล่อยออกไปยังไม่ทันถูกเส้นผมของประมุขซาง ก็ถูกลมปราณอันทรงพลังเหล่านั้นบิดเป็นชิ้นๆ
ประมุขซือคงขมวดคิ้ว “นี่มันเรื่องอะไรกัน? จู่ๆ คนก็กลายเป็นหลัวช่าโลหิต?”
ซือคงฉางเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า “ไม่น่าเป็นเรื่องกะทันหัน ทว่าเตรียมการไว้แล้ว เพียงแต่…ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ประมุขซือคงถามอย่างสงสัย
ซือคงฉางเฟิงกล่าวว่า “ยาโลหิตของหลัวช่าน้อยถูกซางฉงหวาเอาไป ข้าคิดว่าเขาใช้ยาโลหิตเพื่อสร้างซิวหลัวโลหิตเหล่านั้น ทว่าดูจากยามนี้ เกรงว่ายาโลหิตนั้น เขาจะนำไปใช้กับตนเอง”
ประมุขซือคงขมวดคิ้ว “แต่เมื่อครู่เขาไม่มีกลิ่นอายของหลัวช่าโลหิตเลยแม้แต่น้อย?”
นี่ก็เป็นเรื่องที่ซือคงฉางเฟิงไม่เข้าใจเช่นกัน ตามหลักแล้ว เมื่อประมุขซางใช้ยาโลหิต ร่างกายของเขาก็ควรจะมีลมหายใจของหลัวช่าโลหิต แต่พวกเขากลับไม่สังเกตเห็นร่องรอยความแปลกประหลาดของหลัวช่าโลหิตในตัวของเขาจนถึงเมื่อครู่
อันที่จริงไม่ใช่เพียงพวกเขา แม้แต่ประมุขซางเองก็ยังไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ หลังจากที่เขานำยาโลหิตของหลัวช่าโลหิตกลับไปที่สกุลซาง เขาก็กินยาอายุวัฒนะลงไป ยาอายุวัฒนะเหล่านั้นสามารถลดปฏิกิริยาต่อต้านยาโลหิตที่อยู่ในร่างกายของเขาได้ดีที่สุด แต่สิ่งที่เขาไม่เคยคิดคือ ยาโลหิตกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ในร่างกายของเขาเลย
สิ่งนี้ทำให้เขาสงสัยว่าตนนำยาโลหิตมาผิด ยอดฝีมือเหล่านั้นเพียงแค่กลืนเลือดของราชาหลัวช่าเล็กน้อย ก็เจ็บปวดเส้นเอ็นและหลอดเลือดอย่างมาก ส่วนเขาที่กลืนยาโลหิตไปทั้งหมด ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรไร้ปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้
จนกระทั่งเมื่อครู่ หลัวช่าน้อยทุบตีเขาอย่างรุนแรง ยาโลหิตในร่างกายคล้ายกับสัมผัสได้ถึงลมหายใจของนายเก่า ในที่สุดพลังยิ่งใหญ่ที่สุดก็ถูกปลุกขึ้นมา ทั้งยังถูกกระตุ้นด้วยวิชาอายุวัฒนะ ประมุขซางจึงถูกผลักดันขึ้นไปถึงขีดสุดของขอบเขตพลัง
“แย่แล้ว เขากำลังจะบรรลุไปอีกขั้น!” กลิ่นไอเลือดเข้มข้นในอากาศน่าขยะแขยง ทำให้ประมุขซือคงหน้านิ่วคิ้วขมวด ทว่าภายใต้กลิ่นไอเลือดคาวนั้น แฝงไปด้วยไอสังหารที่ล้นทะลักออกมานับไม่ถ้วน
“เจ้า…” ซือคงฉางเฟิงหันไปมองเยี่ยนจิ่วเฉา ด้วยความสามารถของเขาเพียงคนเดียวย่อมไม่อาจเอาชนะบุรุษผู้นั้นได้ ทว่าเยี่ยนจิ่วเฉาสามารถใช้วิชาอายุวัฒนะไม่ใช่หรือ? ฉวยโอกาสยามที่ลมปราณของประมุขซางยังไม่มั่นคง ฆ่าเขาซะ!
หรือจะเก็บไว้ รอให้เขากลายเป็นราชาหลัวช่าไปอีกคน?
“พวกเจ้าดูนั่นสิ!” องครักษ์ของตระกูลซือคงนายหนึ่งร้องอุทาน
ซือคงฉางเฟิงและคนอื่นๆ ต่างหันไปมองประมุขซาง ในเวลานี้เขาพองตัวจนไม่เหลือรูปลักษณ์ดังเดิม ทว่าราวกับยังไม่พอใจ เขาหยิบขวดยาเล็กๆ ในอ้อมแขนออกมา ดึงจุกเทยาอายุวัฒนะสีดำปริมาณมากเข้าไปในปาก
และเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ประมุขซาง…บรรลุระดับ!
“รา…ราชาหลัวช่า?!” ในเวลานี้ ประมุขซือคงซวนเซแทบล้มลงกับพื้น “เขากินอะไรเข้าไปกันแน่? เหตุใดถึงบรรลุระดับกลายเป็นราชาหลัวช่าไปได้?”
ซือคงฉางเฟิงกล่าวว่า “เขาไม่น่าจะบรรลุได้โดยสมบูรณ์ ทว่าใช้ยาลับเพื่อเพิ่มพลังชั่วคราวเท่านั้น หลังจากหมดฤทธิ์ยา เขาอาจคลุ้มคลั่งเสียสติ และตายจากพลังที่เข้าตัว”
ตอนแรกเพื่อปกป้องหมิงซาน เขาก็เคยทำเรื่องบ้าๆ แบบเดียวกัน หากไม่ใช่เพราะเยี่ยนจิ่วเฉาลงมือทันเวลา เขาคงทำลายหมิงซานและตัวเองไปแล้ว
ประมุขซือคงก็ระลึกถึงความทรงจำอันแสนเจ็บปวด และกล่าวด้วยความหวาดผวา “เขาคิดจะตายไปพร้อมพวกเราใช่หรือไม่?”
“เกรงว่าเป็นเช่นนั้น…” ซือคงฉางเฟิงกำดาบในมือแน่นโดยไม่มีใครให้สังเกตเห็น
ประมุขซือคงร้อนใจ “ต่อให้ปรมาจารย์มาก็ไม่อาจฆ่าราชาหลัวช่าได้ แล้วพวกเราจะทำได้อย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]