หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 475

มารดาของอวิ๋นเฟยด่วนจากไป บิดาก็มิได้รักใคร่เอ็นดูนางมากนัก มิใช่นางไม่เคยสงสัย ว่าตนอาจไม่ใช่บุตรแท้ๆ นายท่านเฉินมีหน้าตาอัปลักษณ์เช่นนั้น มองอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ที่สามารถให้กำเนิดบุตรสาวผู้งดงามดั่งดอกไม้เช่นตนได้

แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดไร้สาระ ไม่นึกว่าจะเป็นจริง

ยามที่บุรุษผู้อ้างว่ามาจากหมิงตูปรากฏตัวต่อหน้านาง นางตกตะลึงนิ่งค้าง

นางก็คิดอยู่ว่า นางงดงามเช่นนี้ต้องมีเหตุผล

รูปร่างหน้าตาของนางไม่นับว่าเหมือนมารดานัก ทว่ากลับเหมือนบิดายิ่งนัก!

แม้ซือคงเย่มีอายุปูนนี้ ก็ยังดูราวกับเทพเซียน ยามหนุ่มยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง เขาเป็นบุรุษงดงามอันดับหนึ่งแห่งหมิงตู สตรีที่อยากแต่งงานกับเขาเกือบทำให้ธรณีประตูจวนซือคงแทบพัง

ทว่าในใจของเขาก็มีเพียงสตรีศักดิ์สิทธิ์หลานอี สตรีอื่นไม่เคยอยู่ในสายตาเขาแม้แต่น้อย

แต่แม้ว่าเขากับสตรีศักดิ์สิทธิ์หลานอีต่างรู้อยู่แก่ใจ พวกเขาทั้งสองถูกกำหนดให้รักแต่ไม่อาจอยู่ด้วยกันได้ นางมีสกุลหลานที่ต้องปกป้อง เขาก็มีสกุลซือคงที่ต้องปกป้อง คำสอนบรรพชนของตระกูลราวกับช่องว่างที่ไม่มีทางข้ามไป กระทั่งนางถูกคนคิดร้าย เขายอมเสี่ยงที่จะทรยศต่อตระกูลเพื่อปล่อยนางไป

นางบอกว่าเจ็บสั้นดีกว่าเจ็บยาว นับจากนี้ไป ให้ลืมเลือนกันและกัน

ไหนเลยเขาจะรู้ว่า นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้พบหน้าหลานอี

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าในท้องของหลานอีมีเนื้อเลือดของตนแล้ว?

ในตำหนักอันแวววาวพราวระยับ ซือคงเย่จ้องมองบุตรสาวเนิ่นนาน จริงอยู่ที่รูปลักษณ์ของอาซูน้อยกับอวี๋หวั่นคล้ายกับหลานอีมากกว่า แต่ไม่รู้จะอธิบายเช่นไร เขามองเห็นเงาของหลานอีบนตัวของอวิ๋นเอ๋อร์

เรื่องเกี่ยวกับอวิ๋นเอ๋อร์และอาซูน้อย พวกอวี๋หวั่นและฉิวปิ่งเล่าให้เขาฟังไม่ขาด เขาไม่เคยรู้เลยว่าพวกนางสองมารดาบุตรสาวจะชีวิตที่ลำบากเช่นนี้ ชีวิตของอวิ๋นเอ๋อร์ในสกุลเฉินยังไม่นับว่าทุกข์ทรมานนัก เพราะนางเป็นบุตรีอนุภรรยา นอกจากหน้าตาที่งดงามแล้ว สถานะของนางก็มิได้เลวร้าย ทว่าตั้งแต่พบกับองค์ประมุขที่ยังเป็นรัชทายาท ก็เป็นจุดเริ่มต้นความโชคร้ายในชีวิตของนาง

ถูกคนปองร้ายตั้งแต่เล็ก ไร้ที่พึ่งพิงในวังหลวงกินคน ทนทุกข์ทรมานจากความเย็นชาขององค์ประมุข และแผนร้ายของฮองเฮา แต่นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่น่าเศร้าที่สุด การสูญเสียบุตรของตนคือความเจ็บปวดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจของผู้เป็นมารดา

เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับบุตรสาวของเขากับหลานอี หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอย่างยิ่ง

อวิ๋นเฟยปลงได้แล้ว แม้ในปีแรกๆ นางจะทุกข์ทรมาน ทว่าบัดนี้นางสบายดีทุกอย่าง บุตรสาวของนางก็ดี ได้พบบุรุษที่รักจริง อาหวั่นก็แต่งงานกับสามีที่รับผิดชอบดูแล กระทั่งมีบุตรชายที่ดี ยิ่งเป็นเรื่องที่น่าพึงพอใจที่สุด

หากกล่าวว่ายังมีเรื่องวุ่นวายใจใดอีก ก็คงเป็นองค์ประมุขที่สลัดอย่างไรก็ไม่ออกผู้นี้!

แต่ทว่า บิดาที่ลงมาจากฟ้า ดูเหมือนจะทรงพลังมากยิ่งนัก—

อวิ๋นเฟยเบิกตากว้างกะพริบมองดูบิดา

ไม่ว่าอวิ๋นเฟยจะอายุเท่าใดก็ยังเป็นเด็กในสายตาของซือคงเย่ บุตรสาวเพียงคนเดียวของเขากับหลานอี ซือคงเย่รู้สึกว่าอวิ๋นเฟยช่างน่ารักน่าชัง เขามองดูนางด้วยสายตาหลงใหลเอ็นดู

บิดาและบุตรสาวต่างสบสายตา องค์ประมุขที่อยู่ด้านข้างถูกละเลยสิ้นเชิง เขาหยุดอยู่ตรงนี้มาเนิ่นนานจนเอวชราเริ่มเจ็บปวด

องค์ประมุขรู้สึกว่าถึงเวลาที่ต้องแสดงถึงการมีอยู่ของเขาแล้ว จึงกระแอมและกล่าวว่า “เอ่อ…”

“หุบปาก!”

“หุบปาก!”

ทันทีที่เขาเอ่ยปาก สองบิดาบุตรสาวก็เอ่ยพร้อมกันโดยไม่แม้แต่หันกลับมามอง และมองหน้ากันอย่างผูกพันรักใคร่ต่อไป

องค์…องค์ประมุขหุบปากลงอย่างคับแค้น

เขาคิดจะบันดาลโทสะอาละวาดคน ทว่าน่าเสียดายที่องครักษ์วังหลวงทั้งหมดถูกบุรุษที่อ้างว่าเป็นบิดาของอวิ๋นเฟยกดควบคุมไว้

องค์ประมุขระทมขมขื่นแต่ไม่อาจพูดออกมา

จ๊อก~

ท้องของอวิ๋นเฟยร้อง

“อวิ๋นเอ๋อร์หิวแล้วสินะ อยากกินอะไรละ?” ซือคงเย่ถามอย่างเอ็นดู

“หมูตุ๋น” อวิ๋นเฟยกล่าว

“แม่ของเจ้ายามนั้นก็ชอบกินหมูตุ๋น ดูเหมือนว่าเจ้ากับอาซูจะชอบตามนางเสียแล้ว” ซือคงเย่กล่าวด้วยรอยยิ้ม หันมาสั่งนางข้าหลวงที่อยู่ด้านข้างอย่างเฉยเมย “ยังไม่รีบไปทำหมูตุ๋นอีก? แล้วก็เอาขาหมูหมัก เป็ดทอดกรอบ ไก่หลิงหลง ปลากระพงนึ่ง และเนื้อแพะตุ๋นแดงมาด้วย”

“เจ้าค่ะ!” นางข้าหลวงรีบร้อนผลุนผลันออกไป นางเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุใดต้องฟังคนแปลกหน้าผู้นี้ด้วย!

เป็นถึงลูกหลานของชนเผ่าพ่อมด บุตรีแห่งหมิงตู มีหรือต้องเสียดายตำแหน่งฮองเฮาของหนานจ้าว?!

อวิ๋นเอ๋อร์ของเขาต้องการโลกทั้งใบ เขาก็จะเอามาให้นาง! ต้องให้บุรุษไม่จริงใจผู้หนึ่งมาให้ทานวังหลังเล็กๆ นี่น่ะรึ?!

คราวนี้นับว่าองค์ประมุขถูกสั่งสอนจริงๆ หลังจากรู้ว่าตนถูกฮองเฮากับอวี่เหวินจ้าวรวมหัวกันวางแผน เขาก็ตื่นรู้ ตระหนักว่าหลายปีที่ผ่านมาตนทำผิด ตั้งแต่ต้นจนจบอวิ๋นเฟยเป็นผู้บริสุทธิ์ เขามองเห็นความดีของอวิ๋นเฟย และยินดีที่จะใช้ทั้งชีวิตที่เหลือ ปฏิบัติต่ออวิ๋นเฟยเช่นสมบัติล้ำค่า

แต่มีประโยคหนึ่งที่ซือคงเย่กล่าวถูกต้อง เขาไม่เคยถามอวิ๋นเฟยจริงๆ มีความดีประเภทหนึ่ง ที่เรียกว่า ‘องค์ประมุขคิดว่าดีสำหรับเจ้า’ หรืออาจเพราะเหตุผลที่อวิ๋นเฟยไม่มีฝั่งมารดาหนุนหลัง เขาคิดว่าขอเพียงให้อวิ๋นเฟยอาละวาดจนพอใจ สุดท้ายก็คงยอมอ่อนให้ตนสักวัน

ไหนเลยจะรู้ว่าวันนั้นยังไม่มาถึง พ่อตาก็มาหาเสียก่อน

พ่อตาผู้นี้ไม่ธรรมดา ทันทีที่พบหน้าก็ทำให้เขาต้องคุกเข่าลง

ซือคงเย่ทำสัญญาณมือ จิงหงยกสิ่งของเข้ามากองใหญ่

ซือคงเย่กล่าวอย่างเฉยเมย “เห็นแก่ต้าเป่า เอ้อร์เป่าและเสี่ยวเป่า ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า ถึงละเว้นโทษตาย แต่ความผิดยากหลีกหนี กระดานซักผ้า ไม้นวดแป้ง ไม้เรียว เจ้าเลือกเองเถอะ คุกเข่าจนกว่าบุตรสาวของข้าจะหายโกรธเจ้า!”

องค์ประมุขคิ้วกระตุก เขาเป็นถึงองค์ประมุขของประเทศ! เขาไม่คุกเข่า!

หนึ่งชั่วยามต่อมา อวิ๋นเฟยและซือคงเย่กินอาหารเย็นที่ห้องโถง อวิ๋นเฟยกวาดหมูตุ๋นไปสามจาน ในขณะที่ซือคงเย่จดจ่อกับการแกะก้างปลาและกระดูกไก่ให้นาง

องค์ประมุขคุกเข่ากับกระดานซักผ้าอยู่นอกประตู ถูกลมหนาวพัดโชยจนร่างกายสั่นสะท้าน “ขอถามท่านพ่อตา ลูกเขยผู้นี้ลุกได้หรือยัง?”

ซือคงเย่มองอวิ๋นเฟย “หากเจ้าคิดว่าเขาน่าสงสาร ก็ให้เขาลุกขึ้น”

แม้ว่าเขาอยากจะฆ่ามากเพียงใด แต่ความต้องการของบุตรสาวสำคัญที่สุด เขาจะไม่ยัดเยียดความคิดของตนให้บุตรสาว

“ผู้ใดสงสารเขา?” อวิ๋นเฟยไม่สงสารเขาหรอก! ยามนั้นนางคุกเข่าท่ามกลางหิมะ ขอร้องให้เขาอย่าเนรเทศอาซูไปในวันที่หิมะตก เขาก็ไม่สงสารนางกับอาซู! นึกถึงตนที่ถูกฮองเฮาอันเป็นที่รักของเขารังแกมานานหลายปี และนึกถึงอาซูในวัยสี่ขวบที่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ที่เผ่าปีศาจ อวิ๋นเฟยก็ยิ่งอยากให้บุรุษผู้นี้คุกเข่าอีกสามวันสามคืน!

อวิ๋นเฟยดูดหมูตุ๋นคำหนึ่ง แล้วทำเสียงฮึดฮัด “ให้เขาคุกเข่าไป!!!”

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]