คุนเผิงโบราณได้สูญพันธุ์ไปนานแล้ว มันคือร่างวิญญาณของคุนเผิงโบราณ แต่หากเลี้ยงไว้ระยะหนึ่ง อาจสามารถใช้คาถาสร้างร่างที่แท้จริง กลายเป็นคุนเผิงโบราณตัวน้อยๆ ได้
“เจ้าทำอะไรกับพวกมัน?” ประมุขมารถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
เยี่ยนเสี่ยวซื่อก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด เลียริมฝีปากตน “อืม…ข้ากินไปแล้ว”
ในที่สุดประมุขมารก็ทนไม่ไหว กระอักเลือดล้มลงกับพื้น
“แต่…” เยี่ยนเสี่ยวซื่อยังไม่ทันพูด พวกมันออกไข่ นางเก็บไข่พวกมันไว้ ทั้งหมดสามฟอง ไม่ขาดสักฟอง!
…
ในขณะนั้น ประมุขศักดิ์สิทธิ์กับประมุขมารก็ตระหนักถึงปัญหาบางอย่างได้พร้อมกัน หลังจากพลังของเยี่ยนเสี่ยวซื่อถูกปลุกให้ตื่น นางจำเป็นต้องกินสิ่งที่มีพลังมาก ไม่เช่นนั้นจะไม่พอต่อความต้องการของนาง นางไม่ได้ตั้งใจกินมังกรมาร หงส์มาร หรือคุนเผิงร่างวิญญาณ ทว่าถูกสัญชาตญาณของนางควบคุม
ประมุขมารมองเยี่ยนเสี่ยวซื่อด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ไก่ เป็ด ปลาของเขาเซิ่งเฟิงไม่อร่อยใช่หรือไม่?”
มังกรมาร หงส์มาร หรือคุนเผิงน่ารักเช่นนั้น กินลงได้อย่างไร?
เยี่ยนเสี่ยวซื่อกล่าว “อร่อย แต่ไม่มีงูน้อย ไก่น้อย และปลาบินได้ที่อร่อย!”
ประมุขมารยืดเอวขึ้นทันที “นั่นสินะ!”
สัตว์มารของเขาระดับสูงกว่าสัตว์วิญญาณเหล่านี้อยู่แล้วละ!
จะว่าไปแล้ว ผู้บำเพ็ญสายตรงไม่อาจกินสิ่งที่มีไอมารได้ เบาหน่อยก็ไม่ย่อย หนักหน่อยก็ถูกไอมารกัดเซาะจนเสียหาย แต่เยี่ยนเสี่ยวซื่อไม่มีปัญหาเช่นนั้นแม้แต่น้อย แม้แต่ร่างวิญญาณนางก็กินได้
ทว่าด้วยความเร็วที่เยี่ยนเสี่ยวซื่อกิน สัตว์มาร (วิญญาณ) และพืชมาร (วิญญาณ) ในเขามารเซียนกับเขาเซิ่งเฟิงอาจถูกกวาดจนเกลี้ยงในไม่ช้า และสัตว์ประหลาดพืชประหลาดภายนอก อาจไม่พอต่อความต้องการของเยี่ยนเสี่ยวซื่อ
เพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่มีอุปสรรคมากมายเช่นนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือการเลื่อนขั้นเป็นเซียน เปิดเส้นทางที่สูงขึ้นไป
อันที่จริงความแข็งแกร่งของทั้งสองในยามนี้ ห่างกับการเลื่อนขั้นเป็นเซียนเพียงช่วงเดียวเท่านั้น
ทว่าการเลื่อนขั้นเป็นเซียนก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เหล่าผู้บำเพ็ญระดับทั่วไปอาจพบอัสนีบาต ขั้นไท่ซวีอัสนีบาตสามครั้ง ขั้นเสี่ยวเฉิงอัสนีบาตหกครั้ง ขั้นต้าเฉิงอัสนีบาตเก้าครั้ง แต่ละครั้งจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะอยู่รอด และการเลื่อนขั้นเป็นเซียนต้องเผชิญอันตรายยิ่งกว่านั้น สิ่งที่ผู้เลื่อนขั้นเป็นเซียนต้องพบเจอไม่เรียกว่าอัสนีบาตหรือสายฟ้าสวรรค์ ทว่าเป็นมหันตภัยอัสนี ซึ่งเป็นสนามรบแห่งอัสนีมากมายนับไม่ถ้วน คนผู้นั้นจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
เหตุผลเพราะผู้เลื่อนขั้นเป็นเซียนแข็งแกร่งเกินไป เกินขอบเขตที่ที่แห่งนี้จะสามารถรับได้ กฎแห่งสวรรค์จึงส่งทัณฑ์อัสนี สังหารผู้เลื่อนขั้นเป็นเซียน รักษาความมั่นคงของโลกฝั่งนี้
และเมื่อทัณฑ์อัสนีไม่สามารถทำลายผู้เลื่อนขั้นเป็นเซียนได้ กฎแห่งสวรรค์ก็จะเปิดทางผ่านแก่ผู้เลื่อนขั้นเป็นเซียน ให้พวกเขาบินไปยังที่ที่สามารถรองรับพลังของพวกเขาได้
“ประมุขมาร ท่านจะเลื่อนขั้นเป็นเซียนจริงๆ หรือ? ท่านไม่ต้องการเราแล้วหรือ?” ภายในสวน ผู้บำเพ็ญมารสะอึกสะอื้นถามประมุขมาร
ประมุขมารสีหน้ารังเกียจ “พวกเจ้ามีสิ่งใดให้ต้องการ? หน้าตาดี หรือว่ารูปร่างดีละ?”
ผู้บำเพ็ญมารที่สำลักตาย “…”
ประมุขมารก็ไม่ได้ละทิ้งเผ่ามารไปเสียทีเดียว ไม่มีใครกำหนดว่าผู้เลื่อนขั้นเป็นเซียนไม่สามารถกลับมาได้ เพียงแค่กดขอบเขตพลังเท่านั้น
สิ่งที่เขาไม่แน่ใจคือโจวจิ่นจะสามารถเลื่อนขั้นเป็นเซียนไปกับเขาได้หรือไม่?
ในมุมมองของเขา แน่นอนว่าไม่อยากพบเจอบุรุษผู้นั้นอีก
แต่หากบุรุษผู้นั้นยุ่มย่ามกับเสี่ยวซื่ออย่างไร้ยางอาย ตนคงไม่สามารถฆ่าเขาได้จริงๆ
“ประมุขมารท่านคิดสิ่งใดอยู่?” ผู้บำเพ็ญมารถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นท่าทางอับจนหนทางของเจ้านาย
“ข้าสงสัยว่าบุรุษผู้นั้นจะเลื่อนขั้นเป็นเซียนด้วยหรือไม่?” ประมุขมารกล่าว
“ประมุขศักดิ์สิทธิ์หรือ?” ผู้บำเพ็ญมารขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ความแข็งแกร่งของเขา น่าจะสามารถเลื่อนขั้นเป็นเซียนนานแล้ว เหตุผลที่ไม่เกิดทัณฑ์อัสนี คงเป็นเพราะเขาเป็นเจ้าแห่งโลกนี้ เขาอยู่กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาช้านาน เขาหลอมรวมกับกฎแห่งสวรรค์เป็นอันหนึ่งอันเดียว เขาแข็งแกร่ง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็แข็งแกร่ง จึงไม่ง่ายที่กฎแห่งสวรรค์จะขจัดเขาออกไป”
ประมุขมารฮึดฮัด “เช่นนั้นข้าละ? กฎแห่งสวรรค์ก็ไม่ขจัดข้าด้วยรึ? หรือเพราะข้าไม่แข็งแกร่งพอที่จะปลุกทัณฑ์อัสนีจากกฎแห่งสวรรค์?”
ผู้บำเพ็ญมารรีบเอ่ย “ท่านเป็นเจ้าแห่งแดนมาร ความแข็งแกร่งของท่าน…ส่วนมากก็ทำเพื่อแดนมาร จึงไม่ง่ายที่จะนำพาการลงทัณ์จากกฎแห่งสวรรค์ ไม่เช่นนั้นท่านทั้งสองลองทำเรื่องที่มนุษย์สวรรค์พิโรธดีหรือไม่?”
ประมุขมารกลอกตาใส่เขา
ผู้บำเพ็ญมารคลี่ยิ้ม “ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้น ล้อเล่น ล้อเล่น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]