ในที่สุดรถม้าก็มาถึงประตูเมือง
กลิ่นอายราชาศักดิ์สิทธิ์ในร่างของอวี๋หวั่นถูกซ่อนไว้ชั่วคราว ไม่ได้ทำให้องครักษ์ดูแลเมืองพบเบาะแสใด แต่ถึงเป็นเช่นนี้ เวรยามของเผ่าพ่อมดก็เข้มงวดกว่าเมื่อก่อนมาก
องครักษ์คนหนึ่งเข้ามาขวางทางรถม้า “ที่นั่งอยู่ด้านในคือผู้ใด?”
ฮูหยินรองเปิดม่านมององครักษ์ผู้นั้นอย่างไม่โกรธเคืองทว่าน่ายำเกรง “แม้แต่รถม้าจวนสกุลเวิน เจ้าก็ไม่รู้จักหรือ?”
องครักษ์ผงะ ทีแรกเขารีบร้อนหยุดรถจึงไม่ทันสังเกตเห็นสัญลักษณ์บนรถม้า เขาก้าวถอยหลังยอมรับ ยกมือคำนับอย่างร้อนรน “ที่แท้ก็เป็นฮูหยินเวิน ข้าน้อยตาไร้แวว ทำงานบกพร่อง ขอฮูหยินเวินโปรดอภัย”
“ข้าจะออกไปนอกเมืองสักหน่อย”
“เอ่อ…” องครักษ์เหลือบมองฮูหยินรองด้วยความแปลกใจ “ขอบังอาจถามฮูหยิน ต้องการออกนอกเมืองด้วยเหตุอันใดขอรับ?”
ฮูหยินรองกล่าวอย่างเฉยเมย “ข้าได้ยินว่านอกหมู่บ้านมีของใหม่ๆ มาไม่น้อย ข้าอยากออกไปจับจ่าย เหตุใดรึ? ไม่อนุญาต?”
องครักษ์รีบกล่าวอย่างสุภาพ “ไม่ใช่ขอรับ ไม่ใช่ ข้าน้อยจะกล้าขัดขวางการเดินทางฮูหยินเวินได้อย่างไร? เพียงแต่ระยะนี้ในเผ่าเกิดภัยพิบัติบ่อยครั้ง นอกหมู่บ้านล้วนเป็นคนต่างถิ่นแดนไกล นำของปลอมปะปนกับของจริง เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ฮูหยินเวินโปรดไตร่ตรองอีกครั้ง”
ต๋าหว่าเปิดม่านพูดอย่างโกรธเคือง “ใต้เท้าอยู่ด้วย มีอันใดไม่ปลอดภัย?”
องครักษ์ผงะไปอีกครั้ง “ใต้เท้าเวินก็อยู่หรือขอรับ?”
ต๋าหว่าประชดประชัน “หากไม่อยู่คงไม่รู้ว่าคนสกุลเวินจะออกนอกเมืองสักคราก็ยังถูกขัดขวาง หากเรื่องนี้ไปถึงหูของราชินีแม่มดกับผู้อาวุโสใหญ่ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีท่าทีเช่นไร”
ทันทีที่องครักษ์ได้ยินเช่นนี้ ก็ตื่นตระหนกรีบยกมือขออภัย “ใต้เท้าเวินโปรดอภัย! ข้าน้อยเพียงทำตามคำสั่ง องค์ราชินีมีรับสั่งให้ตรวจสอบผู้คนที่จะเดินทางออกนอกเมืองอย่างเข้มงวด คิดว่าใต้เท้าเวินคงทราบว่าในเผ่ามีสายสืบ สายสืบพวกนั้นไม่เพียงแต่บุกรุกวังหลวง ยังเคยลักพาตัวองค์ชายเยี่ยยางไปด้วย แม้ว่าองค์ชายจะเสด็จกลับมาแล้ว ทว่าตราบใดที่สายสืบยังไม่ถูกจับ เผ่าพ่อมดก็ไม่มีวันสงบสุข ขอใต้เท้าเวินโปรดเข้าใจในความลำบากของข้าน้อยด้วยขอรับ”
ความหมายก็คือ แม้จะเต็มใจปล่อยพวกเขาออกจากเมือง ทว่าก็ยังต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่ดี
เป็นถึงคนสกุลเวิน ฝ่ายมารดาของราชินีแม่มด หากไม่มีคำสั่งของราชินีแม่มดก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่หากกล่าวว่าราชินีแม่มดมุ่งเป้าไปที่ครอบครัวฝั่งมารดาก็มิใช่เสียทีเดียว ทว่ายามที่ราชินีแม่มดมีโทสะจริงจัง แม้เพียงจุดบกพร่องเล็กๆ ก็จะไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ
“เช่นนั้นเจ้าก็ค้นเถิด” ต๋าหว่าพูด
“ล่วงเกินแล้วขอรับ!” องครักษ์กล่าวจบก็เดินไปที่รถม้าของต๋าหว่า
สารถีของต๋าหว่าคือโจวอวี่เยี่ยนที่ปลอมเป็นบุรุษ ส่วนมู่ชิงปลอมเป็นสตรีนั่งในรถม้า หลุบตาลงไม่ให้คนสังเกตเห็นสีตาที่แตกต่าง
องครักษ์กวาดมองร่างของมู่ชิง
ฮูหยินรองไม่พอใจ “เจ้าเอาแต่จ้องมองสาวใช้ของข้าด้วยเหตุใด?”
องครักษ์กล่าว “อา สาวใช้ของฮูหยินเวินท่านนี้ดูไม่ค่อยคุ้นนัก”
ในฐานะนายหญิงของจวนสกุลเวิน แม้ว่านางกับเวินซวี่จะไม่ได้มีชีวิตคู่ที่ดีนัก ทว่าสถานะของนางในตระกูลก็ยังเป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง นางได้เข้าร่วมงานสำคัญไม่น้อย และมักจะพาหงอวี้ไปอยู่ข้างกายเสมอ องครักษ์เคยพบหงอวี้ จึงรู้สึกว่าสาวใช้ผู้นี้ดูไม่เหมือนนัก
มู่ชิงบีบนิ้วด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ฮูหยินรองวางมือประกบกับมือของเขาอย่างนุ่มนวล
มือของฮูหยินรองอบอุ่นอ่อนนุ่ม ด้วยความอ่อนโยนของสตรี แม้ไม่มีพละพลังเช่นบุรุษ ทว่ากลับทำให้คนสงบลงอย่างอธิบายไม่ถูก
มู่ชิงรู้สึกว่าตนคลายกังวลลงได้แล้ว
กลับเป็นต๋าหว่าที่ไม่สู้ดี
นั่นไม่ใช่สาวใช้จริงๆ สักหน่อย!
แต่เป็นไอ้เด็กแสบ!
หวั่นโหรวไปจับมือไอ้เด็กแสบนั่นได้อย่างไร?!
ดวงตาของต๋าหว่าถลึงโตจนองครักษ์สงสัยว่าตนเห็นภาพหลอน
ใต้เท้าเวินซวี่เห็นสิ่งใด เหตุใดทำท่าเหมือนจะกินคนเช่นนี้?
ฮูหยินรองกล่าวอย่างใจเย็น “ข้ามีสาวใช้มากมาย อยากให้ผู้ใดไปด้วยก็เป็นผู้นั้น แม้แต่เรื่องนี้เจ้าก็ต้องยุ่งหรือ?”
“ไม่ใช่ขอรับ ไม่ใช่!” องครักษ์ละอายใจ
“พี่องครักษ์กำลังหาข้าอยู่หรือไม่?” บนรถม้าคันหลัง อวี๋หวั่นเปิดม่าน เธอแปลงกายเป็นหงอวี้ ข้างกายเธอคือเยี่ยนจิ่วเฉา โจวจิ่นและราชาพ่อมดที่หลับใหล สารถีคืออิ่งสือซัน
องครักษ์เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย พลันคลี่ยิ้มเดินไปหาอวี๋หวั่น
อวี๋หวั่นเปิดม่านให้เขาตรวจสอบอย่างเปิดเผย
องครักษ์มองเข้าไปข้างในและสบตากับโจวจิ่นเช่นเคย
องครักษ์ก็ตกอยู่ในภวังค์
“ล้วนเป็นสาวใช้กับผู้ดูแลของจวน”
จิตสำนึกเช่นนี้ผุดขึ้นในหัวขององครักษ์ เขาเดินไปยังรถม้าคันที่สามอย่างล่องลอย จากนั้นก็เปิดม่านดู “อื้ม เป็นผู้ดูแลจริงๆ”
ชุยเฒ่าและอาม่าแอบทอดถอนใจด้วยความโล่งอก
โชคดีที่มีโจวจิ่น ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไปได้อย่างไร?
บัดนี้หลัวช่าทหารทั้งสี่กำลังปกป้องสิ่งที่สำคัญกว่าอยู่ที่ตำหนักกวังหมิง จึงทำให้พวกเขาได้โอกาส พวกเขาเดินทางออกจากเมือง มุ่งหน้าออกนอกหมู่บ้านอย่างเกรียงไกร
นอกหมู่บ้านผู้คนพลุกพล่าน เป็นที่ที่เหมาะแก่การติดต่อกัน
“พวกท่านพ่อน่าจะถึงนอกหมู่บ้านแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด?” อวี๋หวั่นเรียกสัตว์พิษตัวน้อย
ไข่ดำทั้งสามมีหนอนกู่อยู่บนตัว สัตว์พิษตัวน้อยสามารถรับรู้กลิ่นอายจากพวกเดียวกันได้
“ดูเหมือนจะอยู่ตรงนั้น” อวี๋หวั่นชี้ไปที่ถนนสายยาวทางทิศตะวันออก
อิ่งสือซันกล่าว “เช่นนั้นเราไปตอนนี้เลยหรือไม่?”
“อื้ม” อวี๋หวันพยักหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]