หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 532

สรุปบท บทที่ 532 ท่าไม้ตายของเสี่ยวเป่า!: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]

บทที่ 532 ท่าไม้ตายของเสี่ยวเป่า! – ตอนที่ต้องอ่านของ หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]

ตอนนี้ของ หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายความรักทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 532 ท่าไม้ตายของเสี่ยวเป่า! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“เช่นนั้นยามนี้จะทำเช่นไรดีละ? ปีศาจตนนี้ไม่เพียงมีพลังของหลัวช่าวิญญาณ ยังมีพลังของราชาศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย คุณชายเผชิญหน้ากับมัน…อันตรายนัก!” อิ่งลิ่วกังวลจนเหงื่อออกมือ

อิ่งสือซันก็รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่เป็นผลดีนัก ยามที่คุณชายยังเด็กเคยได้รับบาดเจ็บ แม้จะไม่ถึงกับถูกคนทำลายเอ็นข้อมือข้อเท้าอย่างที่อวี้จื่อกุยเล่า ทว่าก็ไม่ไกลกันนัก กล่าวโดยสรุป ก่อนที่จะสืบทอดพลังของอ๋องเผ่าปีศาจคุณชายไม่เคยฝึกศิลปะการต่อสู้เลย

ต้องยอมรับว่าคุณชายมีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ที่น่าทึ่ง ไม่เช่นนั้น คงไม่อาจพัฒนาวิชาอายุวัฒนะจนถึงระดับเก้าในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นนี้ได้ ทว่าสิ่งที่คุณชายกำลังเผชิญหน้าในยามนี้ คือปีศาจร้ายที่แม้แต่ราชาศักดิ์สิทธิ์กับราชาพ่อมดก็ไม่อาจฆ่าได้ง่ายๆ พลังของคุณชายในยามนี้ยังห่างไกลยิ่งนัก

อิ่งลิ่วกล่าวอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “หากฮูหยินอยู่ก็คงดี…”

ยามที่ฮูหยินไม่ถูกบุรุษหล่อเหลาทำให้ลุ่มหลง นับว่าพึ่งพาได้มากทีเดียว

ทว่าพูดยามนี้จะมีประโยชน์ใด? ฮูหยินกับนายท่านตกลงไปในหลุมลึก เป็นหรือตายก็ยังไม่แน่นอน…

หากรู้แต่แรกว่าหลัวช่าวิญญาณจะตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ในวันนี้ พวกเขาคงไม่เข้าวังมาชักช้าเช่นนี้แน่ ทว่ามีทองพันชั่งก็ยากจะซื้อหากรู้แต่แรก ยามนี้ไม่ใช่พวกเขาจะฆ่าหลัวช่าวิญญาณหรือไม่ แต่เป็นหลัวช่าวิญญาณจะปล่อยพวกเขาไปหรือไม่

ราชาศักดิ์สิทธิ์เหาะลงบนยอดชายคาอย่างแผ่วเบา เสื้อคลุมสีม่วงพลิ้วไหวกับสายลมราวดอกเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่เบ่งบาน

ริมฝีปากแดงสดคลี่ยิ้มยากคาดเดาน้อยๆ แม้ไม่เอ่ยสิ่งใด ทว่าอิ่งลิ่วและอิ่งสือซันกลับรู้สึกว่านางกำลังพูดบางอย่าง เพียงแต่พวกเขาไม่ได้ยิน

“ส่งเสียงเข้าหู!” อิ่งสือซันกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

อิ่งลิ่วหายใจเฮือก “ส่งเสียงเข้าหูมิใช่ทักษะยุทธจักรจงหยวนที่สาบสูญไปนานแล้วหรอกหรือ? หลัวช่าวิญญาณกับราชาศักดิ์สิทธิ์ล้วนไม่ใช่คนจงหยวน เหตุใดยังสามารถทำได้?”

อิ่งสือซันกล่าวว่า “เจ้าลืมความสามารถของหลัวช่าวิญญาณไปแล้วหรือ? มันเชี่ยวชาญการดูดกลืนวิญญาณ ทุกครั้งที่กลืนกินยอดฝีมือคนหนึ่ง ก็จะสามารถใช้พลังพิเศษของอีกฝ่ายได้”

อิ่งลิ่วรู้ซึ้งทันใด “เช่นนั้น ก่อนหน้านี้มันกลืนกินยอดฝีมือจงหยวนไปเช่นนั้นหรือ?”

ความสามารถเช่นนี้น่ากลัวเกินไป ในช่วงชีวิตคนธรรมดาฝึกฝนวิชาจนเชี่ยวชาญได้เพียงอย่างหรือสองอย่าง หลัวช่าวิญญาณดูดวิญญาณครั้งหนึ่งกลับได้ครอบครอง แน่นอนว่าพลังดั้งเดิมของคนผู้นี้ต้องแข็งแกร่งพอตัว ถึงสามารถครอบครองพลังได้มากพอ และรวมเข้าด้วยกันได้ในเวลาอันสั้น

“แต่นางพูดสิ่งใดกับคุณชายกันแน่?” อิ่งลิ่วถามขณะมองดูทั้งสองเผชิญหน้ากันบนฟ้า

ราชาศักดิ์สิทธิ์เผยรอยยิ้มแปลกประหลาด สีหน้าของเยี่ยนจิ่วเฉาเย็นชาราวกับเหล็ก

อิ่งสือซันจ้องมองคุณชายเนิ่นนาน “แม้ไม่รู้ว่านางพูดสิ่งใด ทว่าที่แน่นอนคือนางกำลังยั่วยุคุณชาย”

อิ่งลิ่วมองเยี่ยนจิ่วเฉา แล้วก็มองราชาศักดิ์สิทธิ์ “นางจะยั่วยุคุณชายไปเพื่อสิ่งใด? หากนางอยากฆ่าคุณชาย ก็ฆ่าไปเสียตรงๆ บัดนี้คุณชายมีพลังเพียงห้าส่วน จะเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้อย่างไร?”

แม้อิ่งลิ่วจะสับสนอยู่บ้าง แต่ในเวลาสำคัญก็มักจะถามได้ตรงประเด็น จริงด้วย พลังของคุณชายในยุครุ่งเรืองยังไม่แน่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้ บัดนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะนาง ทำให้คุณชายโกรธไม่เป็นการเพิ่มความยุ่งยากหรอกหรือ?

เว้นเสียแต่ว่า——

จำเป็นต้องมีความโกรธ

“นางต้องการดูดวิญญาณ! นางต้องการกลืนกินคุณชาย!”

อิ่งสือซันไม่เคยฝึกวิชาดูดวิญญาณ ไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด แต่หากราชาศักดิ์สิทธิ์ต้องการฆ่าคุณชายก็คงทำไปนานแล้ว และหากต้องการใช้วิชาดูดวิญญาณ ก็คงลงมือไปแล้ว ที่ไม่ทำเช่นนั้นมิใช่ไม่อยากทำ ทว่ายากที่จะทำ

การฆ่าคุณชายไม่ใช่เรื่องยาก ดังนั้นสิ่งที่ยากก็มีเพียงดูดวิญญาณเท่านั้น

อิ่งสือซันกล่าวว่า “จิตใจคุณชายมั่นคงยากหวั่นไหว นางไม่อาจใช้วิชาดูดวิญญาณ จึงต้องทำให้คุณชายเกิดโทสะเสียก่อน บีบบังคับให้เผยช่องโหว่”

“ร้ายกาจนัก!” อิ่งลิ่วกัดฟัน

อิ่งสือซันดึงกริชออกจากเอว

เกือบในเวลาเดียวกัน อิ่งลิ่วก็หยิบลูกดอกออกมาสองสามหัว ทั้งสองมองหน้ากันราวกับรู้ใจ แม้พลังของพวกเขายามอยู่ต่อหน้าราชาศักดิ์สิทธิ์จะไม่เพียงพอ ทว่าก็ต้องลองกันสักตั้ง

ต่อให้ต้องใช้ชีวิตพวกเขาเข้าแลก ก็ต้องหยุดยั้งราชาศักดิ์สิทธิ์ให้ได้

กริชและอาวุธลับของทั้งสองพุ่งเป้าไปที่ราชาศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว

ราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่ขยับหรือแม้แต่กะพริบตา ทว่ากริชและลูกดอกเหล่านั้นกลับหยุดนิ่งก่อนจะสัมผัสถูกราชาศักดิ์สิทธิ์ มองแวบแรก คล้ายกับมีเกราะกำบังที่มองไม่เห็น วินาทีถัดมา กริชและลูกดอกก็แหลกสลายเป็นผุยผง

เมื่อทั้งสองเห็นเช่นนั้น ก็เลิกคิ้วโดยไม่รู้ตัว

เดิมทีราชาศักดิ์สิทธิ์ไม่เห็นหน่วยกล้าตายสองคนในสายตา ทว่าไม่รู้นึกสิ่งใดได้ จู่ๆ นางก็ดีดปลายเท้า ปล่อยพลังฝ่ามือโจมตีอิ่งสือซันและอิ่งลิ่ว

หากถูกฝ่ามือนี้ ทั้งสองคงกลายเป็นเถ้าถ่านในทันที

เยี่ยนจิ่วเฉาถือดาบพุ่งเข้าไป ใช้พลังปราณดาบรุนแรงสร้างแรงลมพัดทั้งสองออกไป

ราชาศักดิ์สิทธิ์ปล่อยพลังฝ่ามือออกไปอีกครั้ง ริมฝีปากยกยิ้มลึกล้ำกว่าเดิม หันกลับไปเหลือบมองเยี่ยนจิ่วเฉาปราดหนึ่ง ดวงตาลึกล้ำแฝงนัยคล้ายกับกำลังกล่าวว่า : ยังรู้ว่าไม่สามารถปะทะกับข้า ก็นับว่าไม่โง่เขลาเกินไป ทว่าเจ้าจะรับมือได้นานสักเพียงใด?

เยี่ยนจิ่วเฉารับมือได้ไม่นานจริงๆ เขามาฆ่าหลัวช่าวิญญาณที่ยังไม่ตื่นโดยสมบูรณ์ ทว่ามาถึงวิหารกวังหมิง ผู้ที่ต้อนรับเขากลับเป็นหลัวช่าวิญญาณที่ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้วไม่ต้องพูดถึง ยังมีพลังอันแข็งแกร่งของราชาศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นมา พลังที่มีเพียงห้าส่วนของเขา แค่รับฝ่ามือแรกก็หนักหนาแล้ว

กลับกัน สถานการณ์ของราชาศักดิ์สิทธิ์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง พลังของนางเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการควบรวมของหลัวช่าวิญญาณและร่างกายของราชาศักดิ์สิทธิ์!

“พวกเจ้าไปก่อน!” เยี่ยนจิ่วเฉากำดาบในมือแน่น

“คุณชาย!” อิ่งสือซันแอบเคลื่อนย้ายลมปราณ ชีวิตของเขาเป็นของคุณชาย หากถึงจุดนั้นจริงๆ เขา…

พลังกดดันของราชาศักดิ์สิทธิ์บนร่างกายเยี่ยนจิ่วเฉาลดลง แต่หลังจากราชาศักดิ์สิทธิ์คืนสติอีกครั้ง พลังก็เพิ่มเป็นสองเท่า

เยี่ยนจิ่วเฉาตัดสินใจว่าจะระเบิดตัวเองเป็นครั้งที่สอง

ราชาศักดิ์สิทธิ์ก็กระตุกอีกครั้ง

เยี่ยนจิ่วเฉา “…”

ราชาศักดิ์สิทธิ์เปลือกตากระตุก มุมปากกระตุก แก้มกระตุก ท้ายที่สุดก็กระตุกไปทุกที่

เยี่ยนจิ่วเฉากะพริบตา ยื่นนิ้วเรียวยาวดุจหยกจิ้มหน้าผากของราชาศักดิ์สิทธิ์

ราชาศักดิ์สิทธิ์ล้มลงกับพื้นดังตึง

เมื่อเห็นเช่นนี้ เยี่ยนจิ่วเฉาก็รีบวาดฝ่ามือร่ายท่า

ไหนเลยจะรู้ว่าราชาศักดิ์สิทธิ์กลับดีขึ้นอีกครั้ง ตบฝ่ามือยืมแรงจนร่างกายสั่นสะเทือน จากนั้นก็กางกรงเล็บคว้าเยี่ยนจิ่วเฉาอีกครั้ง

ทว่ายังไม่ทันถูกเยี่ยนจิ่วเฉา นางกระตุกอีกๆๆๆ ครั้ง…

นางทรุดลงกับพื้น กระตุกจนจมูกเอียงปากเบี้ยว!

บรรดาองครักษ์ที่อยู่ไม่ไกลต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน

เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?

เกิดอะไรขึ้นกับหลัวช่าวิญญาณ?

เหตุใดจู่ๆ ถึงชักกระตุก?

“กินสิ่งใดผิดสำแดงไปหรือไม่?”

“นางเพิ่งตื่น ยังไม่ได้กินสิ่งใดเลย!”

“เช่นนั้นก็กินยาผิด?”

“ยานั้นองค์ราชินีแม่มดเป็นคนเตรียม! จะผิดพลาดได้อย่างไร? ข้าลองใช้เข็มเงินทดสอบดูแล้ว! ไม่มีพิษ!”

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]