ตอน บทที่ 533 พี่จิ่วแอ๊บแบ๊ว ราชาพ่อมดออกโรง จาก หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 533 พี่จิ่วแอ๊บแบ๊ว ราชาพ่อมดออกโรง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายความรัก หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ราชินีแม่มดให้ความสำคัญกับหลัวช่าวิญญาณอย่างยิ่ง ยาที่มอบให้กับนางย่อมต้องได้รับการตรวจสอบก่อน ถึงกล้าส่งถึงมือนาง
หากมีพิษก็ต้องทดสอบเจอตั้งแต่การทดสอบด้วยเข็มเงินแล้ว
หากเป็นปฏิกิริยาต่อต้านกันของฤทธิ์ยา นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้ นี่คือใบสั่งยาของหลัวช่าวิญญาณ นางจะทำร้ายตัวเองได้อย่างไร?
ราชาศักดิ์สิทธิ์กระตุกราวกับกุ้งเต้นตัวเล็กๆ หลังจากกระตุกเสร็จ ก็ค่อยๆ เข้าไปหาเยี่ยนจิ่วเฉาอย่างขึงขังอีกครั้ง
นางโยนเยี่ยนจิ่วเฉาลงกับพื้น
เยี่ยนจิ่วเฉาวางมือลงข้างตัว ขาเรียวข้างหนึ่งเหยียดตรง อีกข้างงอขึ้นเล็กน้อย ท่าทางเกียจคร้าน ใบหน้าไร้เดียงสาไม่ทุกข์ร้อนใดๆ
ราชาศักดิ์สิทธิ์เหยียดแขน
แล้วก็กระตุก
ราชาศักดิ์สิทธิ์ฟื้นขึ้น
เหยียดแขนออกไปอีกครั้ง…แล้วก็กระตุกอีก…
‘เหยียดแขน——กระตุก——ฟื้น——เหยียดแขนอีกครั้ง——กระตุกอีกครั้ง’ วนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้แต่คุณชายเยี่ยนก็ทำอะไรไม่ถูก ตกลงจะฆ่าเขาหรือไม่ฆ่า? เขารอก็ลำบากไม่น้อย
เยี่ยนจิ่วเฉาตัดสินใจใช้กลยุทธ์สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน[1] ใช้กำลังภายในดึงดาบจากพื้น แทงหัวใจของราชาศักดิ์สิทธิ์
เมื่อคมดาบใกล้ถึงตัว ราชาศักดิ์สิทธิ์กลับฟื้นขึ้นอีกครั้ง
เยี่ยนจิ่วเฉาซ่อนดาบไว้ข้างหลัง มองนางด้วยใบหน้าไร้พิษสง
แม้พูดเช่นนี้จะแปลกอยู่มาก ทว่าเหล่าองครักษ์ต่างรู้สึกว่าสีหน้าท่าทางของบุรุษผู้นี้ช่างน่ารักน่าชัง!
เอ่อ……
เขากำลังแกล้งทำตัวน่ารักอยู่หรือ?
ทำตัวน่ารักไร้ยางอายนัก!!!
อาจเพราะราชาศักดิ์สิทธิ์กระตุกมากไป พลังฟื้นคืนมาแล้ว ทว่ากลับเวียนหัวเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทีไร้เดียงสาไม่มีพิษภัยของเยี่ยนจิ่วเฉา ก็ถึงกับผงะไป
นางเอียงคอ ยื่นมือสัมผัสใบหน้าของเยี่ยนจิ่วเฉาเบาๆ ทว่าขณะที่กำลังจะสัมผัส ก็ถูกรอยนิ้วมือบนคอของเยี่ยนจิ่วเฉาดึงดูด
ร่องรอยเหล่านี้ฉุดให้นางคิดถึงบางสิ่ง แววตาพลันแปรเปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้นในทันที
เยี่ยนจิ่วเฉาทิ้งดาบแต่โดยดี
นางจ้องไปที่ดาบบนพื้น
“เจ้าดูสิ!” เยี่ยนจิ่วเฉากล่าวพลางชี้ไปบนหัวของนาง
ราชาศักดิ์สิทธิ์เงยหน้า
เยี่ยนจิ่วเฉาหยิบท่อนไม้ที่ไม่รู้ว่าถือมาเมื่อใดทุบนางทีหนึ่งจนสลบ!
องครักษ์ “…”
มีใบหน้าหล่อเหลาจึงไม่ต้องกลัวว่าจะละอายใจหรือ? แล้วยังขี้โกงอีก…
ราชาศักดิ์สิทธิ์สลบไป เรื่องต่อไปก็ง่ายดายแล้ว
เยี่ยนจิ่วเฉายกมือดึงดูดดาบยาวกลับมาที่มือ แขนเสื้อกว้างพลิ้วไหวรับลม เงาร่างสูงใหญ่กำยำยืนตระหง่านบนฟ้ากว้าง ทุกคนต่างสัมผัสถึงไอสังหารมืดฟ้ามัวดิน
แม้ไม่รู้ว่าเหตุใดหลัวช่าวิญญาณถึงเป็นเช่นนี้ ทว่าสถานการณ์เช่นนี้ก็ดูไม่ธรรมดา หากทำทุกอย่างได้สำเร็จ ก็อาจกำจัดมันให้สิ้นซากได้จริงๆ!
นี่ไม่ใช่เพียงเพื่อข้อตกลงกับราชาพ่อมด แต่การดำรงอยู่ของหลัวช่าวิญญาณอันตรายต่อความปลอดภัยของคนที่เขาห่วงใยมากที่สุด เขาต้องกำจัดมันให้ได้!
ดาบในมือสับลง พลังปราณดาบแข็งแกร่งรุนแรงที่พุ่งออกไปแล้วไม่อาจหวนกลับ!
ไม่มีผู้ใดในตำหนักราชาพ่อมดสามารถหยุดเยี่ยนจิ่วเฉาได้ จึงทำได้เพียงมองดูพลังปราณดาบเฉียบคมเชือดเฉือนร่างของหลัวช่าวิญญาณต่อหน้าต่อตา แต่สิ่งที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดก็คือ พลังเวทอันทรงพลังสายหนึ่งคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ ดุจคลื่นน้ำ เปลี่ยนรูปเป็นสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็น ขวางอยู่ด้านหน้าราชาศักดิ์สิทธิ์แน่นิ่ง
พลังปราณดาบของเยี่ยนจิ่วเฉาถูกสกัด
ทุกคนหันกลับไปมอง ห่างไปไม่ไกลนัก มีบุรุษในเสื้อคลุมสีดำผู้หนึ่งขี่ม้าฝีเท้าดีอย่างมีชีวิตชีวา
เหล่าองครักษ์มองแวบแรกก็ไม่รู้จักชายผู้นั้น แต่สามารถจดจำม้าที่คนผู้นั้นขี่ได้
“นั่นมิใช่สัตว์พาหนะของราชาพ่อมดหรอกหรือ?”
“ไม่ผิด เป็นเจียงจวิน!”
ราชาพ่อมดมีสัตว์พาหนะ นามว่าเจียงจวิน เคยเป็นยอดม้าในใต้หล้าตัวหนึ่ง ว่ากันว่าม้าตัวนี้ไม่เพียงแต่เดินทางพันหลี่ได้อย่างสบายๆ ยังมีพลังของยอดฝีมือ แน่นอน นั่นเป็นเพียงข่าวลือ รวมกับประสิทธิภาพที่กล่าวเกินจริง ทว่าม้าตัวนี้อยู่ร่วมเป็นร่วมตายเคียงบ่าเคียงไหล่ราชาพ่อมด มันช่วยชีวิตราชาพ่อมดไว้หลายต่อหลายครั้งเป็นความจริง
ยามที่ราชาพ่อมดล้มป่วย ม้าตัวนั้นยังไม่โตนัก บัดนี้กลายเป็นม้าตัวผู้ที่แข็งแกร่งโตเต็มวัย กล้ามเนื้อทุกส่วนอวบแน่นเต็มไปด้วยพลัง คล้ายจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ ส่วนเว้าโค้งของมันก็งามสง่า ต่อให้เป็นม้าตัวเมียก็งดงามกว่ามันเพียงเล็กน้อย
“หลังจากราชาพ่อมดล้มป่วย เจียงจวินก็ไม่ออกมาจากเขา ข้าได้ยินมาว่าราชินีแม่มดคิดวิธีควบคุมมันมากมาย แต่มันก็ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย หลายปีมานี้มันไม่ออกมาปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนอีกเลย ข้าก็คิดว่ามันตายไปแล้วเสียอีก…”
องครักษ์คนหนึ่งบ่น
“ข้าได้ยินมาว่าราชินีแม่มดกำจัดมันไปแล้ว” องครักษ์อีกคนพูด
“แต่เหตุใดข้าได้ยินมาว่าราชินีแม่มดนำมันกลับเข้าไปในป่าเล่า?”
“ที่พวกเจ้าพูดมาล้วนไม่ใช่ มันหนีไปเองต่างหาก”
ทุกคนโต้เถียงกัน
ไม่ว่าความคิดของผู้ใดเป็นจริง มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ ม้าตัวนี้ที่เรียกกันว่าเจียงจวิน เป็นสัตว์พาหนะของราชาพ่อมด มันไม่เคยยอมให้ผู้ใดขึ้นนั่งบนหลังมันเป็นคนที่สอง
เช่นนั้นคนที่มันยินยอมให้นั่ง…ก็คือราชาพ่อมดหรือ?
เยี่ยนจิ่วเฉาพยักหน้า “เก้าในสิบส่วนเป็นเช่นนี้”
ยามที่หลัวช่าวิญญาณใช้พลังของราชาศักดิ์สิทธิ์กดควบคุมเขา เขาไม่ได้คิดมาก เพียงคิดว่าเป็นพลังกดดันธรรมดา หากดูจากยามนี้ มันรู้สึกได้ว่าราชาพ่อมดไม่อยู่ในวังตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว จึงดึงดูดราชาพ่อมดให้ปรากฏตัว
อิ่งลิ่วถาม “นางเดาได้ว่า…ราชาพ่อมดจะมาช่วยนางหรือ?”
เยี่ยนจิ่วเฉาส่ายหัว “อาจไม่ได้เป็นเช่นนั้น”
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันของราชาศักดิ์สิทธิ์นั้น แม้แต่นางเองก็ยังอธิบายไม่ได้ นางไม่น่าจะคาดคิดว่าตนจะถูกเยี่ยนจิ่วเฉาไล่บี้จนไร้ทางสู้กลับ ดังนั้นเหตุผลที่ปลดปล่อยพลังกดดันของราชาศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพราะราชาพ่อมดอยู่ไกลเกินไป ทั้งยังปิดกั้นพลังปราณไว้ นางสัมผัสไม่ได้ว่าราชาพ่อมดไปที่ใด จึงต้องเปิดเผยตัว ดึงดูดราชาพ่อมดให้มาตามหานาง ยืมมือราชาศักดิ์สิทธิ์เพื่อยุติเขา!
อิ่งลิ่วจ้องถมึง “เช่นนั้น ราชาพ่อมดจะไม่เป็นอันตรายมากเลยหรือ?”
ราชาพ่อมดในยามนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลัวช่าวิญญาณอย่างสิ้นเชิง เว้นแต่ราชาศักดิ์สิทธิ์จะสลบไป ไม่เช่นนั้น——
ม้าวิ่งไปบนถนนด้วยความเร็วราวกับเหาะเหิน
ในเมืองเต็มไปด้วยสายของราชินีแม่มดและผู้อาวุโสใหญ่ ราชาพ่อมดย่อมไม่นำคนไว้ในเมือง เขาตัดสินใจพาคนออกจากเผ่าพ่อมด แน่นอนว่าเขาไม่ได้ตัดสินใจไปที่ครัวของพ่อครัวเทพเป้า
เยี่ยนจิ่วเฉารู้เรื่องที่นางกลายเป็นหลัวช่าวิญญาณแล้ว เขาไม่มีทางยอมแพ้ที่จะไล่ฆ่านาง
หากเป็นคนอื่น เขาอาจประมือได้ แต่เยี่ยนจิ่วเฉาเป็นสหายของโจวจิ่น เขาไม่อยากเผชิญหน้าสหายในสนามรบ
ราชาพ่อมดควบม้าออกจากเมืองด้วยความเร็วแสง
องครักษ์เฝ้าเมืองยังไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น รู้สึกเพียงว่าพายุหมุนพัดผ่านไป เมื่อพวกเขาได้สติกลับมา เจียงจวินก็วิ่งไปไกลจนเหลือเพียงจุดดำเล็กๆ
“เมื่อครู่มีคนออกไปนอกเมืองหรือ?”
“ไม่รู้สิ เจ้าเห็นหรือ?”
“ข้าได้ยินเสียงกีบม้า”
“มีด้วยหรือ?”
“เอ่อ…ข้าอาจหูแว่วไป…”
องครักษ์ตกตะลึง ไม่อยากเชื่อว่าม้าจะวิ่งได้เร็วกว่าสายตาของพวกเขา
ราชาพ่อมดกอดราชาศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้สติไว้ในอ้อมแขนแน่น
เขาคิดว่านางตายแล้ว ไม่นึกว่านางจะยังมีชีวิตอยู่
ไม่ว่านางจะกลายเป็นอย่างไร เขาจะไม่คลาดจากนางไปอีก!
…………………………………………
[1] สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน ใช้โอกาสที่ศัตรูเผยช่องโหว่ จึงรุกเข้าโจมตีจุดสำคัญ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]