หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 541

สรุปบท บทที่ 541 ความจริง: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]

สรุปตอน บทที่ 541 ความจริง – จากเรื่อง หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] โดย Internet

ตอน บทที่ 541 ความจริง ของนิยายความรักเรื่องดัง หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เยี่ยนจิ่วเฉาเติบโตขึ้นท่ามกลางการถูกลอบสังหาร ปราศจากพ่อแม่คอยปกป้อง เขาเคยบาดเจ็บมาไม่น้อย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบาดเจ็บเช่นนี้ ตอนที่อิ่งสือซันอุ้มเขาขึ้นมา เขาคิดว่าเยี่ยนจิ่วเฉาจะตายไปแล้ว

ราชาพ่อมดเป็นไพ่ใบสุดท้าย ถ้าหากเขาไม่อาจรักษาเยี่ยนจิ่วเฉาได้ เช่นนั้นเยี่ยนจิ่วเฉาก็ไม่มีความจำเป็นต้องถอนพิษเสียแล้ว

“ไม่มีวิธีรักษาเลยหรือ?” อวี๋หวั่นมองไปยังราชาพ่อมดด้วยสีหน้ามุ่งมั่น

ราชาพ่อมดตอบว่า “ถ้าหากเป็นเพียงการบาดเจ็บที่เกิดจากระเบิด คงไม่ถึงกับรักษาไม่ได้”

จุดตันเถียนถูกทำลายเสียย่อยยับ เขาก็สามารถสร้างให้ได้ หากลมปราณถูกตัดขาด เขาก็สามารถต่อให้ได้ แม้ว่าจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ เรื่องเหล่านั้นย่อมไม่ใช่ปัญหา

“หรือว่าจะมีปัญหาอื่น?” อวี๋หวั่นเอ่ยถามด้วยความสงสัย

ราชาพ่อมดตอบว่า “ข้าคิดว่าเรื่องเกี่ยวกับราชาศักดิ์สิทธิ์นั้นเจ้าย่อมกระจ่างดี ภายในตัวของราชาศักดิ์สิทธิ์นั้นมีพลังทั้งหมดของหลัวช่าวิญญาณ อีกทั้งไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้หลัวช่าวิญญาณกลืนกินพลังของยอดฝีมือไปแล้วกี่คน…เพราะฉะนั้นการระเบิดตัวเองของราชาศักดิ์สิทธิ์จึงนับว่าอันตรายมาก ตามหลักแล้ว เขาอาจถูกแรงระเบิดจนไม่เหลือแม้แต่เถ้ากระดูก แค่พวกเจ้าคงเดาได้ใช่ไหมว่าเหตุใดเขาถึงยังอยู่?”

อิ่งลิ่วกะพริบตาปริบๆ “หรือว่า…เพราะคุณชายหนีได้ทัน?”

นี่นับว่าเป็นการคาดเดาอย่างง่าย ไม่ว่าใครก็คงจะเดาเช่นนี้ ราชาพ่อมดก็เช่นกัน แต่ในเมื่อเขาตั้งคำถามขึ้นมา

ก็หมายความว่าสถานการณ์นี้ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคาดคิด

อิ่งลิ่วและคนอื่นๆ มองไปยังราชาพ่อมด

ราชาพ่อมดแค่นเสียง ‘หึ’ เบาๆ “ด้วยพลังภายในของวิชาตัวเบาเพียงเท่านี้ ไม่ว่าจะหนีอย่างไรก็คงหนีไม่พ้น นอกเสียจากว่า…”

พูดมาถึงตรงนี้ เสียงของราชาพ่อมดก็ขาดช่วง แต่สีหน้าของอวี๋หวั่นกลับเคร่งขรึม แล้วพูดต่อว่า “นอกเสียจากว่าในร่างของเขามีพลังอื่นอยู่ พลังที่สามารถต้านพลังของหลัวช่าวิญญาณได้”

“ถูกต้อง” ราชาพ่อมดมองอวี๋หวั่นด้วยสายตาชื่นชม

“แต่ว่า…ก่อนหน้านี้เยี่ยนจิ่วเฉาไม่มีวรยุทธ์ วิชาอายุวัฒนะของเขาก็มาจากอ๋องเผ่าปีศาจ ภายหลังเขาฝึกฝนด้วยตนเอง แต่ข้าไม่เคยเห็นเขาฝึกวิชาอื่นมาก่อน…” ในฐานะที่อวี๋หวั่นร่วมเรียงเคียงหมอนกับเยี่ยนจิ่วเฉา ใช้ชีวิตร่วมกับเขา จะไม่กระจ่างเชียวหรือว่าเขาฝึกวิชาอะไร?

“พวกเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณชายมีเพียงวิชาอายุวัฒนะ” อิ่งลิ่วยกนิ้วขึ้นมา

ราชาพ่อมดมิได้เอ่ยปากอธิบาย เขายื่นนิ้วที่เห็นข้อนิ้วปูดโปนได้ชัด แล้วแตะลงบนหว่างคิ้วของเยี่ยนจิ่วเฉา

ทันใดนั้นทุกคนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ไม่คุ้นเคยพัดใส่ใบหน้า

อิ่งสือซันขมวดคิ้ว “หลัวช่าวิญญาณ?!”

อิ่งลิ่วหายใจเข้าด้วยความตกใจ!

ถูกต้องแล้ว นี่คือกลิ่นอายของหลัวช่าวิญญาณ!

เขายังคิดเสียอีกว่าตนเองจำผิดไป แต่ในเมื่ออิ่งสือซันพูดเช่นนี้ ก็แปลว่าต้องเป็นเรื่องจริง

เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ไปได้

หลัวช่าวิญญาณทำอะไรกับคุณชาย

ทำไมคุณชายถึงมีกลิ่นอายของหลัวช่าวิญญาณได้เล่า

ราชาพ่อมดทอดถอนใจ “หลังจากที่หลัวช่าวิญญาณระเบิดแล้ว พลังในร่างของเขาก็หมายจะสังหารเยี่ยนจิ่วเฉา

แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พลังส่วนหนึ่งกลับถูกดูดซับเอาไว้ และสามารถต้านกับพลังซึ่งโจมตีเยี่ยนจิ่วเฉา แต่ว่าพลังเหล่านี้แข็งแกร่งยิ่งนัก จึงสามารถทำลายจุดตันเถียนและพลังปราณของเขาได้ เพราะฉะนั้นข้าจึงไม่รู้ว่าควรจะเรียกว่าเขาโชคดี…หรือโชคร้ายกันแน่”

ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น พวกเขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

อวี๋หวั่นมีสีหน้าจริงจัง “บอกมาตามตรงเถิด ว่าจะรักษาเขาได้อย่างไร”

ราชาพ่อมดชะงักไป เขามองเธอ พร้อมกับถามว่า “เจ้าอยากรักษาชีวิตเขา หรืออยากรักษาตัวเขา”

“หมายความว่าอย่างไร” อวี๋หวั่นถาม

ราชาพ่อมองไปยังเยี่ยนจิ่วเฉาซึ่งกำลังนอนหมดสติ “ในร่างของเขาดูดซับพลังรุนแรงเอาไว้ หนึ่งในนั้นก็คือพลัง

ของหลัวช่าวิญญาณ ตอนนี้พลังของหลัวช่าวิญญาณได้รับความเสียหาย ไม่อาจกดพลังของของเหล่ายอดฝีมือเอาไว้ได้ ถ้าหากข้าช่วยเขารักษาพลังของหลัวช่าวิญญาณไว้ เขาก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นร่างของหลัวช่าวิญญาณ”

อวี๋หวั่นหลุบตาลง “หมายความว่า เขาอาจกลายเป็นหลัวช่าวิญญาณ?”

ราชาพ่อมดมองอวี๋หวั่นด้วยความเห็นใจ “ใช่ เมื่อเขากลายเป็นหลัวช่าวิญญาณ ก็จะสามารถกดพลังของเหล่ายอดฝีมือไว้ได้ แต่ว่าหากเป็นเช่นนั้น เขาก็จะไม่ใช่เยี่ยนจิ่วเฉาอีกต่อไป”

อวี๋หวั่นซ่อนกำปั้นซึ่งเค้นแน่นไว้ใต้แขนเสื้อ “แล้วถ้า…เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งเล่า?”

ราชาพ่อมดตอบว่า “อีกตัวเลือกหนึ่งก็คือ ข้าจะกดกลิ่นอายของเยี่ยนจิ่วเฉาไว้ และจะดึงวรยุทธ์ของหลัวช่าวิญญาณออกมาจากร่างของเขา เขาจะไม่กลายเป็นหลัวช่าวิญญาณ แต่พลังของเหล่ายอดฝีมือในร่างของเขาจะฆ่าเขาอย่างช้าๆ”

แม้แต่การสร้างจุดถันเตียนขึ้นมาใหม่ก็ไม่อาจช่วยได้ นั่นเพราะความเร็วในการสร้างขึ้นมาใหม่ ไม่อาจเทียบเท่าความเร็วที่วรยุทธ์สามารถทำลายได้

ราชาพ่อมดถอนหายใจอีกครั้ง “ข้าเข้าใจว่าเรื่องนี้ตัดสินใจยาก เจ้าไม่จำเป็นต้องตัดสินใจในตอนนี้ จิ่นเอ๋อร์ เจ้า

มากับพ่อประเดี๋ยว”

“อื้ม” โจวจิ่นตามราชาพ่อมดออกไปอย่างรู้ความ

ตอนนี้ในห้องเหลือเพียงอวี๋หวั่น อิ่งสือซัน และอิ่งลิ่ว

ทั้งสามคนยังคงเงียบงัน ไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไร

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับราชาพ่อมดได้เกิดขึ้นกับพวกเขาแล้ว พวกเขากล่าวโทษราชาพ่อมด รู้ทั้งรู้ว่าราชาศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นหลัวช่าวิญญาณอีกคนหนึ่ง แต่กลับหลอกตัวเองว่านางยังคงเป็นคนเดิม ตอนนี้พวกเขาคงกล่าวโทษใครไม่ได้แล้ว

เรื่องนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการโยนหินใส่เท้าตนเอง ไม่รู้ว่าจะต้องเจ็บปวดเท่าไร

หากพวกเขาตัดสินใจให้เยี่ยนจิ่วเฉากลายเป็นหลัวช่าวิญญาณ จะไปต่างอะไรกับราชาพ่อมดในตอนนั้นเล่า?

“ย่อมได้” มีราชาพ่อมดเพิ่มมาอีกคน โอกาสในการทำสำเร็จก็มีมากขึ้น

“ฮูหยินน้อยไปพักผ่อนก่อนเถิดขอรับ หากมีความคืบหน้าข้าจะไปแจ้ง” หลังออกจากห้อง อิ่งสือซันก็กระ

ซิบบอกกับอวี๋หวั่น

อวี๋หวั่นส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ข้าจะรออยู่ที่นี่”

ฝั่งตรงข้ามของห้องเป็นเรือนเล็กซึ่งรายล้อมไปด้วยต้นท้อ ในลานบ้านมีโต๊ะหินอยู่ตัวหนึ่งและมีม้านั่งหินล้อมรอบ อิ่งสือซันจึงไปหยิบเบาะรองนั่งมาวางบนม้านั่งหินให้อวี๋หวั่นนั่ง

ผิงเอ๋อร์ตื่นเร็ว ทว่าเมื่อครู่นางไม่กล้าเข้าไปรบกวนพวกเขาในห้อง ตอนนี้อวี๋หวั่นออกมานั่งข้างนอก นางจึงรีบเข้าไปดูแล

สีหน้าของอวี๋หวั่นไม่สู้ดีนัก ส่วนสีหน้าอิ่งลิ่วและอิ่งสือซันก็ไม่ได้ดูดีไปกว่ากัน

ผิงเอ๋อร์ไม่กล้าถาม นางทำได้เพียงเข้าไปยกน้ำร้อนหนึ่งกามาจากห้องครัว แล้วชงชากุหลาบให้อวี๋หวั่น

ทักษะการชงชาของผิงเอ๋อร์ไม่เอาไหน แต่ในตอนนี้ไม่มีผู้ใดมีกะจิตกะใจมามากความกับนาง

อวี๋หวั่นยกชาร้อนๆ ขึ้นมาดื่ม น้ำตาไหลรินจากดวงตาคู่งาม

ผิงเอ๋อร์ตื่นตะลึง ติดตามฮูหยินน้อยมานานเพียงนี้ แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเห็นฮูหยินน้อยเกรงกลัวอะไร ฮูหยิน

น้อยเป็นอะไรไป? ไม่สิ ต้องถามว่าคุณชายเป็นอะไรมากกว่า

ผิงเอ๋อร์นึกอยากถามอิ่งลิ่วและอิ่งสือซัน แต่ก็พบว่าทั้งสองขอบตาแดงก่ำ

หรือว่า…คุณชายจะไม่รอดแล้ว?

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม โจวจิ่นก็เปิดประตูออกมา

อวี๋หวั่นลุกพรวดขึ้นยืน!

“ฮูหยินน้อย! ระวังเจ้าค่ะ!” ผิงเอ๋อร์รีบเข้ามาประคอง ด้วยกลัวว่าอวี๋หวั่นจะออกแรงมากเกินไป จนเป็นอันตราย

ต่อเด็กในท้อง!

ราชาพ่อมดและโจวจิ่นเดินออกมา ทั้งสองคนใบหน้าซีดเผือด ดูแล้วพวกเขาน่าจะใช้พลังเวทในการต่อสู้กับพลังของหลัวช่าวิญญาณไปจนหมด

“เป็นอย่างไรบ้าง” อวี๋หวั่นกำหมัดแน่น หวังว่าพวกเขาจะทำสำเร็จ แต่ก็กลัวว่าพวกเขาจะทำไม่สำเร็จ

ราชาพ่อมดพูดไม่ออก “พวกข้า…”

……………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]