หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 59

เยี่ยนอ๋องไม่ได้เรียกเซียวเจิ้นถิงให้อยู่กินอาหารเย็นที่จวน คนพรรค์นั้นน่ะหรือ? ไม่ควรค่าแก่การกินอาหารที่จวนคุณชายหรอก

เยี่ยนอ๋องไม่ยินยอม!

เซียวเจิ้นถิงเล่นสนุกจนมิได้สนใจว่าได้รับเชิญให้อยู่ต่อหรือไม่ อย่างไรเสียอาหารของจวนคุณชายก็สู้อาหารของจวนสกุลเซียวไม่ได้ กินอาหารกับซั่งกวนเยี่ยนย่อมดีกว่ากินอาหารกับบุรุษฉกรรจ์อย่างเยี่ยนอ๋องไม่ใช่รึ?

แม้ว่าเยี่ยนอ๋องจะรูปงามเจริญหูเจริญตา แต่เขาก็ไม่ได้เสน่หาบุรุษสักหน่อย!

เซียวเจิ้นถิงขึ้นไปนั่งบนรถม้าและกลับออกไป โดยที่มิได้รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องของเยี่ยนอ๋องแม้แต่น้อย

เมื่อเทียบกับความว้าวุ่นใจของเยี่ยนอ๋อง เซียวเจิ้นถิงกลับรู้สึกมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ใครบอกกันว่าเซียวเจิ้นถิงเลี้ยงเด็กไม่ได้? เขาทำได้ดีทีเดียวเชียวละ รอให้เจ้าตัวเล็กโตกว่านี้อีกสักหน่อย เขาจะพานางมายังสกุลเซียว ให้ซั่งกวนเยี่ยนเห็นว่าเขาก็ดูแลเด็กได้

อันที่จริง ซั่งกวนเยี่ยนไปแก้บนที่วัดและเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว นางอยากมาเยี่ยมอวี๋หวั่นและเด็กๆ มาก น่าเสียดายที่นางเป็นไข้หวัด และกลัวว่าเด็กๆ จะติดหวัดไปด้วย จึงทำได้เพียงคิดถึงพวกเขาอยู่ในใจ ประเดี๋ยวนางหายดีแล้วค่อยไปหาพวกเขา

แต่ของขวัญที่นำไปมอบให้อวี๋หวั่นและเด็กๆ ล้วนเป็นของที่ซั่งกวนเยี่ยนเลือกสรรด้วยตนเอง นางละเอียดรอบคอบกว่าเขา เรื่องนี้เซียวเจิ้นถิงยอมรับอย่างไรข้อกังขา

เซียวเจิ้นถิงเดินทางกลับจวนไปด้วยจิตใจอันผ่องแผ้ว กระนั้นขณะอยู่ระหว่างทาง เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล

เขาเงยหน้าขึ้นมองหลังคารถ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “หยุดรถ”

สารถีร้อง ‘โอ้’ แล้วรีบหยุดรถม้า จากนั้นก็หันไปยังม่านซึ่งปิดสนิท “นายท่านลืมของไว้ที่จวนคุณชายหรือขอรับ?”

“เจ้าอย่าเพิ่งพูด!” เสียงของเซียวเจิ้นถิงดังขึ้นจากด้านในรถ สารถีรถม้าเงียบลงทันที

เซียวเจิ้นถิงพยายามสังเกตความเคลื่อนไหวด้านบน ถ้าหากก่อนหน้านี้เขาคิดว่าตนรู้สึกไปเอง เช่นนั้นตอนนี้ เขาก็มั่นใจแล้วว่ามียอดฝีมือกลุ่มหนึ่งเหาะอยู่เหนือศีรษะของเขา

เนื่องจากเกิดเหตุลอบทำร้ายพระชายารัชทายาท ทั้งเมืองหลวงจึงยังอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก ทุกหัวถนนล้วนมีการตรวจตราที่เข้มงวด แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเขา อันที่จริง ถ้าหากไม่ใช่เพราะเซียวเจิ้นถิงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยจากพวกเขา ก็คงไม่มีผู้ใดตรวจสอบพวกเขาพบได้ง่ายๆ

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมีวรยุทธ์สูงส่ง

แต่เรื่องนี้ก็น่าแปลกไม่ใช่หรือ?

ต้าโจวมียอดฝีมือมากมายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน

“ราชาศักดิ์สิทธิ์ทักษิณ รถม้าด้านล่างหยุดลง คงสังเกตเห็นพวกเราแล้ว…” ราชาศักดิ์สิทธิ์ประจิมเอ่ยเตือน

ราชาศักดิ์สิทธิ์ทักษิณรู้แต่แรกแล้ว แต่เขาก็มิได้ใส่ใจอีกฝ่าย เท่าที่ราชาศักดิ์สิทธิ์ทักษิณรู้ วรยุทธ์ของชาวต้าโจวนั้นอ่อนปวกเปียก ต่อให้รู้ว่าพวกเขามาก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้

“ไม่ต้องสนใจ พวกเราไปต่อ!” ราชาศักดิ์สิทธิ์ทักษิณบอก

“อื้ม” ราชาศักดิ์สิทธิ์ประจิมพยักหน้า แล้วใช้วิชาตัวเบาตามเขาไป

เซียวเจิ้นถิงยังคงงุนงง เกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าพูดเบาๆ หน่อยก็ได้ ข้าได้ยินทั้งหมดแล้วเนี่ย

ประเด็นสำคัญอยู่ที่พวกเขาไม่ได้กระซิบกระซาบ และไม่คิดปิดบังตัวตนจากเซียวเจิ้นถิง นั่นทำให้เซียวเจิ้นถิงรู้สึกถูกดูแคลน เขาเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แห่งต้าโจว เจ้าพวกนี้จะมาบินข้ามศีรษะเขาได้อย่างไร

เซียวเจิ้นถิงกระโดดลงจากรถม้า แล้วกระโดดขึ้นไปบนหลังคา เขามองไปยังเงาซึ่งกำลังจะกลืนหายไปท่ามกลางความมืด แล้วตวาดเสียงดังว่า “ตรงนั่นน่ะ! หยุดเดี๋ยวนี้!”

ราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ซึ่งกำลังเหาะข้ามหลังคาบ้านมิได้ตกใจเพราะความน่าเกรงขามของเซียวเจิ้นถิง หากแต่พวกเขาแทบจะหน้าคะมำ!

ราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่หยุดชะงัก

เซียวเจิ้นถิงเท้าเอว “ใช่! พวกเจ้านั่นละ! ข้าบอกให้พวกเจ้าหยุด! พวกเจ้าเป็นใครกัน ถึงมาเหาะข้ามหัวข้าเช่นนี้”

“ผู้ใดกัน” ราชาศักดิ์สิทธิ์ทักษิณขมวดคิ้ว

ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาส่ายหน้า “ไม่รู้จัก”

เขาไม่รู้จักจริงๆ เขาเพิ่งมาถึงเมืองหลวงก่อนพวกเขาเพียงไม่ถึงสามวัน

จะว่าไป ฝีเท้าของพวกเขาไร้สุ้มเสียงและร่องรอย อีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงพวกเขา ทั้งยังทำท่าทางโอหังเช่นนี้ ต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่

ราชาศักดิ์สิทธิ์ทักษิณกล่าวว่า “ตัวตนของพวกเราไม่อาจเปิดเผยได้ ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพา เจ้าอยู่ที่นี่ จัดการเขา”

“เข้าใจแล้ว พวกเจ้าไปเถิด ประเดี๋ยวข้าตามไป” ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาตอบรับอย่างไม่ลังเล

พวกเขาแลกเปลี่ยนสายตากัน แล้วมุ่งหน้าต่อ

กล่าวตามความจริง ในบรรดาราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ ไม่มีผู้ใดสนใจเซียวเจิ้นถิงซึ่งโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ให้ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาจัดการเขายังนับว่าเป็นการใช้มีดเชือดวัวมาเชือดไก่ แต่พวกเขามีเรื่องสำคัญกว่าต้องจัดการ ไม่อาจรอช้าได้

“พวกเจ้า! จะไปง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือ?” เซียวเจิ้นถิงเห็นว่าพวกเขากำลังจะหนีไป จึงยกกำปั้นขึ้นมาต่อยออกไป

ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาอ้าแขนออก มาหยุดตรงหน้าเซียวเจิ้นถิง พร้อมทั้งยกมือขึ้นมาสองข้าง เพื่อรับหมัดของเขา

เซียวเจิ้นถิงรูปร่างสูงใหญ่ กำปั้นก็ใหญ่ แต่แล้วอย่างไร ตราบใดที่ไม่ใช่ยอดฝีมือของเผ่าศักดิ์สิทธิ์ ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาก็ไม่ยี่หระ

ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพารับหมัดได้อย่างไม่สะทกสะท้าน

เพียงแต่สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาก็คือ แม้ว่าเขาจะรับหมัดของอีกฝ่ายได้ แต่แขนข้างหนึ่งของเขาก็ชาไปในทันที

“หืม” ครานี้ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาจึงมองเซียวเจิ้นถิงเต็มสองตา

ต้าโจวมีบุรุษที่สูงใหญ่เช่นนี้ด้วยหรือ?

ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพารู้สึกว่าตนเองต้องเงยหน้าจึงจะเห็นหน้าอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]