ลุงวั่นอายุมากแล้ว จึงมิได้มาวอแวกับเรื่องนี้
อิ่งลิ่วและอิ่งสือซันบังคับรถม้าเงียบๆ
ดึกมากแล้ว ประตูเมืองปิดไปตั้งแต่ราวหนึ่งชั่วยามก่อน กระนั้นเมื่อคุณชายเยี่ยนต้องการออกนอกเมือง อย่าว่าแต่ประตูเมือง ต่อให้เป็นประตูวังหลวงก็ต้องยอมเปิดให้เขาแต่โดยดี
ประตูเมืองเปิดออก รถม้าควบทะยานออกไป
ทหารยามรักษาการณ์มองตามรถม้าที่ฝุ่นตลบ พึมพำด้วยความงุนงง
“พวกเจ้าว่า ดึกดื่นป่านนี้คุณชายเยี่ยนออกนอกเมืองไปทำอะไร?”
“ไม่ใช่จะกลับเมืองเยี่ยนหรอกหรือ? รีบร้อนขนาดนี้ คงไม่ได้เกิดเรื่องขึ้นหรอกกระมัง?”
“ไม่ยักได้ยินว่าเมืองเยี่ยนเกิดเรื่องใหญ่อันใด?”
“คิดว่าตัวเองเป็นใคร! เมืองเยี่ยนเกิดเรื่องจะต้องบอกเจ้าด้วยรึ?”
“ไปๆๆ มีอะไรทำก็ไปทำ อย่ามายืนเกะกะ”
เสียงโหวกเหวกของทหารยามรักษาการณ์พลันเงียบลงหลังจากประตูเมืองปิด
รถม้าเดินทางมาถึงหมู่บ้านเหลียนฮวา ชาวบ้านล้วนหลับใหล หมู่บ้านเงียบสงัด มีเพียงเสียงร้องของกบดังมาจากบ่อปลาของหมู่บ้านเป็นครั้งคราว
“คุณชาย” อิ่งสือซันจอดรถม้าเอาไว้หน้าทางเข้าหมู่บ้าน “ท่านจะพูดกับแม่นางอวี๋ว่าอย่างไร?”
“พูดว่าอย่างไรอันใด?” เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
อิ่งสือซันเป็นห่วงคุณชายเหลือเกิน “คุณชายจะบอกความจริงกับแม่นางอยู่หรือไม่ขอรับ? บอกว่าที่จริงแล้วท่านมาพิสูจน์ตัวตนของนาง เช่นนั้นนางก็จะรู้ว่าช่วงนี้คุณชายกำลังออกตามหาแม่ที่แท้จริงของคุณชายน้อยทั้งสาม แต่ก่อนหน้านี้นางพูดกับเหยียนหรูอวี้ว่าต้องการแต่งเข้าจวนสกุลเยี่ยนและเป็นแม่ของคุณชายน้อย หากนางเป็นแม่ของคุณชายน้อยจริงๆ ก็ว่าไปอย่าง ถ้าหากไม่ใช่ นางจะต้องใจกว้างเพียงใดกัน?”
เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เยี่ยนจิ่วเฉารู้สึกว่าอิ่งสือซันพกสมองมาด้วย อวี๋หวั่นก็ทำให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจมาก่อน เขาจำต้องโกรธแค้นมากเท่าไรจึงจะต้องไปแก้เผ็ดนาง?
“พอแล้ว ข้าไปเอง พวกเจ้าไม่ต้องตามไปด้วย” เยี่ยนจิ่วเฉาพูดจบ ก็ลงจากรถม้าแล้วเดินเข้าหมู่บ้านไป
“คุณชายจะไม่เป็นไรใช่ไหม?” อิ่งลิ่วเอ่ยถาม
อิ่งสือซันหยิบยาเม็ดขึ้นมา “ยาบำรุงหัวใจเตรียมพร้อมแล้ว”
อิ่งลิ่ว “…”
เยี่ยนจิ่วเฉาเดินไปยังบ้านของอวี๋หวั่น
จากประสบการณ์ที่ ‘อวี๋หวั่นมักจะไม่ได้ลงกลอนประตูเพื่อให้เขาเข้าไป’ เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้เดินเข้าประตูหน้าบ้าน แต่กลับอ้อมไปยังประตูหลังบ้านแทน
จะว่าไปก็บังเอิญเหลือเกิน วันนี้ทำหน่อไม้ดอง ที่โรงงานจึงยุ่งจนดึกดื่น และพวกเขาเพิ่งเสร็จงานก่อนที่เยี่ยนจิ่วเฉาจะมาถึงหมู่บ้านได้ครึ่งชั่วยาม แม้ว่างานที่โรงงานจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่อวี๋หวั่นก็ยังต้องเก็บกวาดอีกหลายอย่าง อวี๋หวั่นงานยุ่งจนดึก ท้องไส้เริ่มหิว จึงรีบเข้าไปหาอะไรกินในห้องครัว เพิ่งจะงับน่องไก่เข้าไป ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาดังมาจากด้านนอก
ดึกดื่นป่านนี้ มาทำตัวลับๆ ล่อๆ หรือว่าจะเป็นโจร?
อวี๋หวั่นหยิบมีดบนเขียงขึ้นมา…
เยี่ยนจิ่วเฉายืนอยู่หน้าประตู กำลังคิดว่าตนหมดสติไปหลายวัน ไม่ได้มาหาหรือเขียนจดหมายให้อวี๋หวั่น ไม่รู้ว่านางจะคิดว่าเขาทอดทิ้งนางหรือไม่ นางคงกำลังเศร้าโศกเสียใจอยู่ในบ้าน ตอนที่จ้าวเหิงตัดสัมพันธ์กับนาง นางถึงกับกระโดดน้ำหมายจะจบชีวิตตนเอง สำหรับนางแล้ว เขาสำคัญกว่าจ้าวเหิง เขากังวลเหลือเกินว่านางจะขาดสติกระทำเรื่องที่ไม่อาจย้อนคืนกลับมาได้
เฮ้อ!
เยี่ยนจิ่วเฉาถอนหายใจเฮือกหนึ่ง แล้วยื่นมือออกไปผลักประตู
ประตูเปิดออก ทว่ามิใช่เพราะเขาผลัก แต่เป็นเพราะมันเปิดจากด้านใน
จากนั้น ก็พบว่าเป็นอวี๋หวั่นผู้ซึ่งควรจะเศร้าโศกเสียใจ ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ในบ้าน คาบน่องไก่อยู่ในปาก ในมือถือมีดหั่นผัก ดวงตาโตจ้องเขม็ง มิได้มีสีหน้าท่าทางของคนถูกทิ้งแม้แต่น้อย กลับกัน เธอยังคงมีพลังและกระตือรือร้นประหนึ่งแม่ไก่วัยละอ่อน!
เยี่ยนจิ่วเฉาซึ่งรู้สึกราวกับหัวใจถูกศรธนูกระหน่ำแทง “…”
เขาเทียบจ้าวเหิงไม่ได้เชียวรึ!
“ท่านมาได้อย่างไร?” หลังจากที่เห็นว่าเป็นเยี่ยนจิ่วเฉา อวี๋หวั่นก็ลดมีดลง “ข้าคิดว่าเป็นโจรเสียอีก”
เยี่ยนจิ่วเฉาพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดรวดร้าวในใจ แล้วกล่าวอย่างไม่รีบร้อนว่า “บ้านเจ้ายากจนถึงเพียงนี้ ไหนเลยจะมีโจรได้?”
อวี๋หวั่นวางน่องไก่ที่กินไปได้เพียงครึ่งเดียวลงในชาม เธอไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเยี่ยนจิ่วเฉาอย่างไร เธอตั้งสติแล้วถามว่า “ดึกป่านนี้ ท่านมาหาข้ามีอะไรหรือ?”
เยี่ยนจิ่วเฉายังมิทันได้ตอบคำถาม อวี๋หวั่นก็เอ่ยขึ้นว่า “ถ้าท่านมาเอาชุดแต่งงานคืน ข้าเก็บไว้แล้ว ท่านรอประเดี๋ยว”
นางเก็บเรียบร้อยแล้วหมายความว่าอย่างไรกัน?
สตรีคนนี้วางแผนจะตัดสัมพันธ์กับเขาแล้วหรือนี่?!
เยี่ยนจิ่วเฉาเริ่มมีโทสะ “ข้าไม่สนใจเจ้าหลายวัน เจ้าก็เลยยังโกรธอยู่หรือ? เจ้าปิดปังเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้กับข้า จะไม่ให้ข้าโกรธได้อย่างไรกัน?”
อวี๋หวั่นสัมผัสได้ถึงความหมายโดยนัยในน้ำเสียงของเขา เธอตื่นตะลึง “ท่านไม่ได้จะมาบอกเลิกข้าหรอกหรือ?”
“เลิกอะไร?” คิ้วโก่งงดงามของเยี่ยนจิ่วเฉาขมวดแน่น
อวี๋หวั่นพลันรู้สึกอบอุ่นจากก้นบึ้งของหัวใจ อวี๋หวั่นอดไม่ได้ที่จะลอบยิ้มมุมปาก
ทว่ามุมปากขยับไปได้เพียงครึ่งเดียว เยี่ยนจิ่วเฉาก็พูดขึ้นโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว “ถอดเสื้อผ้า”
อวี๋หวั่น “???”
เยี่ยนจิ่วเฉา “ข้าอยากดูร่างกายของเจ้า”
อวี๋หวั่น “!!!”
“ใครหน้าไหนจะมาดูร่างกายลูกสาวข้า?!”
อวี๋เซ่าชิงซึ่งสะดุ้งตื่นขึ้น หยิบไม้กวาดติดมือมาจากห้องโถงกลาง แล้วพุ่งเข้ามาในครัวอย่างดุดัน
เมื่อถูกจับได้โดยไม่ทันตั้งตัว เยี่ยนจิ่วเฉาถึงกับตื่นตะลึง
ชีวิตนี้คุณชายเยี่ยนไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด ทว่าบนโลกนี้ก็ย่อมมีคนคนหนึ่งที่ไม่อาจล่วงเกิน ยกตัวอย่างเช่น…บุรุษตรงหน้าเขาผู้นี้
อวี๋เซ่าชิงเดินเข้าไปในห้องครัวอย่างขึงขัง เขามิได้ยี่หระว่าบุรุษหนุ่มตรงหน้าจะสวมอาภรณ์หรูหรา ท่าทางสง่างามสูงส่ง หรือว่ารูปร่างหน้าตางดงามเพียงใด เขายกไม้กวาดขึ้นมา หมายฟาดลงใส่คุณชายผู้ซึ่งไม่เคยแม้แต่จะไว้หน้าองค์ชาย!
“ท่านพ่อ!” อวี๋หวั่นเข้าไปห้ามอวี๋เซ่าชิง แล้วดึงไม้กวาดออกมาจากมือของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]