หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 7

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 7 ไข่ล้ำค่าสามฟอง
บทที่ 7 ไข่ล้ำค่าสามฟอง
โดย
Ink Stone_Romance
อวี๋หวั่นเปิดผ้านวมออก แสงจันทร์นวลส่องลงมา ทำให้เห็นว่ามีเด็กจ้ำม่ำสามคนที่หลับสนิทนอนอยู่!

นี่มันเรื่องอะไรกัน? เหตุใดพวกเขาถึงมานอนอยู่ใต้ผ้านวมของเธอได้?

ความคิดแรกของอวี๋หวั่นคือ เยี่ยนจิ่วเฉากลับมาแล้ว?

ทันใดนั้นอวี๋หวั่นก็ต้องส่ายหัวให้กับความคิดจากก้นบึ้งหัวใจของเธออย่างรวดเร็ว ข้างบ้านของเธอไม่ใช่บ้านของเยี่ยนจิ่วเฉาจริงๆ เสียหน่อย จะใช้คำว่า ‘กลับมา’ ได้อย่างไร? ทำเหมือนตนเองกำลังรอให้เขากลับมาอย่างนั้นล่ะ

เพื่อความปลอดภัย อวี๋หวั่นหยิบเสื้อมาคลุมไว้บนไหล่ก่อนจะออกไปเดินดูข้างบ้าน

แต่ประตูหลังที่ลงกลอนไว้ไม่ได้ขยับ ส่วนประตูหน้าก็ยังมีสลักสอดอยู่

อวี๋หวั่นเลิกคิ้วด้วยความสงสัย บุรุษผู้นั้นไม่กลับมา หรือว่าเขากลับมาแล้วแต่ไปแล้วกันนะ?

ไม่มีทางที่เด็กทั้งสามจะบินมาอยู่บนเตียงของเธอด้วยปีกตัวเองได้

แน่นอนอวี๋หวั่นไม่อาจเดาได้ว่าทั้งสามเพิ่งถูกมารดาของเธอลักพาตัวมาจากฮูหยินเหยียนกลางวันแสกๆ

อวี๋หวั่นเดินกลับเข้าไปในบ้านด้วยความสับสน

อย่างที่คุณหนูไป๋กล่าว เยี่ยนจิ่วเฉาเป็นคนบ้า คนบ้าไม่อาจตัดสินใจทำสิ่งใดด้วยสามัญสำนึก ดังนั้นหากกลางดึกใครสักคนจะขอให้องครักษ์พาบุตรชายของตัวเองมาไว้บนเตียงของเธอ เป็นคนอื่นอาจทำไม่ได้ แต่เหมือนว่าเขาจะทำได้

อวี๋หวั่นหาได้ผูกใจคิดสงสัยในแรงจูงใจที่ทำให้เยี่ยนจิ่วเฉาทำเช่นนี้ เรื่องที่โง่เขลาที่สุดในโลกมีอยู่สองอย่าง หนึ่งเอ่ยความยืดยาวกับคนโง่ สองเดาใจคนบ้า

อวี๋หวั่นเปิดผ้านวมและเอนกายนอน

เด็กน้อยทั้งสามนอนหลับปุ๋ย คนหนึ่งนอนแนวขวาง คนหนึ่งนอนแนวตั้ง อีกคนใช้ก้นเล็กพิงกำแพงแล้วชูขาสั้นขึ้นข้างบน

เหตุใดท่านอนถึงน่ารักเพียงนี้?

อวี๋หวั่นอมยิ้มอย่างอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว

แม้เธอจะไม่ได้อยู่กับพวกเขามานาน แต่ก็สามารถแยกแยะพวกเขาได้ คนที่ใช้ก้นพิงกำแพงคือต้าเป่า เขาเป็นเด็กที่แข็งแรงที่สุด แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับน้องชายสองคนของเขา ทว่าโดยทั่วไป ทั้งสามต่างไม่ได้แข็งแรง โดยเฉพาะสองสามวันที่ไม่เจอกัน ไม่รู้ว่าอวี๋หวั่นคิดไปเองหรือไม่ว่าทั้งสามผอมลงกว่าเดิม

คนที่นอนขวางคือเอ้อร์เป่า เขามีหยกที่สวยงามสองอันอยู่บนหัว อีกคนคือเสียวเป่า เสียวเป่ามักจะจับบางอย่างไว้ในมือ แต่ยามนี้ไม่มีสิ่งใดให้จับ เขาจึงได้แค่จับเท้าของเอ้อร์เป่า เหลือแค่ยัดมันเข้าไปในปาก

เตียงนอนของอวี๋หวั่นไม่ได้ใหญ่นัก แต่อวี๋หวั่นคิดว่าเด็กชายตัวเล็กที่น่ารักเช่นนี้ ต่อให้มาเพิ่มอีกสามคนเธอก็ยัดได้!

อวี๋หวั่นจัดตัวพวกเขาทั้งสามพร้อมกับห่มด้วยผ้านวม เธอนอนตะแคงอยู่ฝั่งด้านนอก มองดูพวกเขาตาไม่กะพริบ

พระเจ้าช่างสายตาสั้นยิ่งนัก สตรีน่ารังเกียจอย่างเหยียนหรูอวี้ให้กำเนิดบุตรที่น่ารักเช่นนี้ได้อย่างไร?

อวี๋หวั่นไม่อาจนำความรังเกียจที่มีต่อเหยียนหรูอวี้มาลงกับเด็กพวกนี้ได้

คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก อวี๋หวั่นจึงไม่คิดเรื่องนี้ต่อ เธอลูบหัวเด็กๆ และนอนหลับไปอย่างมีความสุข

อวี๋หวั่นฝันดี แต่เหยียนหรูอวี้กลับตื่นอยู่ตลอดทั้งคืน ไม่มีเหตุผลใดนอกจาก หลังการพ่ายแพ้ในการแข่งขัน นางก็สูญเสียแม่นางตู้ไป และก็มีคนมาแจ้งว่ามารดาของนางเกิดเรื่องขึ้นอีก

รถม้าของเหยียนหรูอวี้เร่งรุดไปที่จวนสกุลเหยียน ฮูหยินเหยียนถูกองครักษ์และสาวใช้พากลับมาที่จวนแล้ว นางนอนอยู่บนเตียงหนาที่อ่อนนุ่ม บุตรชายและลูกสะใภ้หลายคนยืนอยู่ข้างเตียง ลูกสะใภ้ต่างร่ำไห้ สาวใช้นำหม้อที่เต็มไปด้วยเลือดออกมา หากไม่รู้ว่ายังหายใจอยู่ ก็คงคิดว่าตายไปแล้ว!

แน่นอนว่าฮูหยินเหยียนยังไม่ตาย แต่มีชีวิตอยู่ก็ไม่สู้ตาย นางถูกทุบตีจนเลือดอาบ ใบหน้าบวมช้ำ บั้นท้ายถลอกลอกเป็นแผ่นๆ เจ็บหน้า เจ็บท้อง เจ็บบั้นท้าย แม้นอนตะแคงก็ยังเจ็บระบมไปทั้งตัว

นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด แม้ฮูหยินเหยียนจะได้รับบาดเจ็บแต่นางก็ยังถูกคนพาตัวกลับมา ทว่าเด็กน้อยทั้งสามบนรถม้ากลับหายตัวไป!

สาวใช้และบรรดาองครักษ์คุกเข่าลงกับพื้น

เหยียนหรูอวี้โกรธเกรี้ยว นางเพิ่งบอกว่าตนเองโชคดีกระไรเยี่ยงนี้ แต่พอหันมา กลับโดนตบหน้าไปหลายฉาด

“พวกเจ้าทำงานกันอย่างไร?! คนทั้งคนที่อยู่ต่อหน้าเจ้าเกิดเรื่อง ยังมีหน้ากลับมาอีกรึ!”

เหล่าคนรับใช้ไม่ได้รับความเป็นธรรม พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาแค่เข้าไปย้ายกระเป๋าในโรงเตี๊ยม แต่พอกลับออกมา รถม้าก็ว่างเปล่าเสียแล้ว

เหล่าสาวใช้ก็อยู่บนรถม้า แต่น่าเสียดายที่ทุกคนต่างมึนงงจำอะไรไม่ได้ ผีเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!

ฮูหยินเหยียนกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “เหตุใดมาเสนอหน้าอยู่ที่นี่? ยังไม่รีบออกไปตามหาอีก! หากตามหาคุณชายน้อยไม่พบ พวกเจ้าทั้งหมดได้ลงนรกแน่!”

จวนสกุลเหยียนวุ่นวายโกลาหลตลอดทั้งคืน อวี๋หวั่นนอนหลับจนอิ่ม เมื่อตื่นขึ้นก็รีบมองหาเด็กน้อยทั้งสามที่อยู่ข้างๆ

พวกเขาตื่นแล้ว และกำลังคุกเข่าอยู่บนเตียง ก้นเล็กๆ ของพวกเขาโด่งขึ้น หดร่างเป็นลูกกลมๆ พลางใช้มือน้อยปิดบังใบหน้าอย่างเขินอาย

อุ๊ย

ทันทีที่อวี๋หวั่นลืมตา ก็ได้เห็นฉากที่น่ารักเกินบรรยาย หัวใจดวงน้อยของเธอแทบทนไม่ไหวและเกือบจะละลาย

เหยียนหรูอวี้ก็ถูกเด็กชายตัวน้อยเหล่านี้ปลุกให้ตื่นทุกเช้าแบบนี้หรือเปล่านะ? น่าอิจฉาเสียจริง!

“ตื่นเมื่อไรกัน? เหตุใดไม่เรียกข้าเล่า?” อวี๋หวั่นกังวลว่าเด็กๆ จะปิดบังตัวเอง จึงรีบจับตัวทั้งสามพลิกขึ้นมา

พวกเขาทั้งสามมองเธอด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

อวี๋หวั่นตกหลุมพลางความน่ารักอีกครั้ง จนอดไม่ได้ที่จะจูบหน้าผากของทั้งสาม

ทั้งสามขวยเขินจนกระโดดไปมา!

เป็นเช้าที่อวี๋หวั่นรู้สึกอารมณ์ดีมาก เธออดไม่ได้ที่จะอมยิ้มมุมปาก และใส่เสื้อผ้าให้กับเด็กทั้งสาม อวี๋หวั่นลังเลที่จะอธิบายเรื่อง ‘เยี่ยนจิ่วเฉาเอาเด็กมาทิ้งไว้’ ให้นางเจียงฟัง แต่เมื่อเห็นเถี่ยตั้นน้อยวิ่งออกมาจากห้องของนางเจียง “น้องเล็ก! เจ้าตื่นแล้ว!”

ช้าก่อน เถี่ยตั้นน้อยรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อคืนพวกเขานอนที่นี่?

เถี่ยตั้นน้อยกล่าว “ท่านพี่ท่านกลับมาดึกมาก ข้ารอท่านไม่ไหว ข้าลืมบอกไป น้องเล็กน่าสงสารมาก เขาแยกจากครอบครัวและเดินมาที่รถม้าของเรา!”

เมื่อวานนี้จู่ๆ นางเจียงก็ลงไปจากรถ ทุกคนในรถต่างก็ออกตามหา ทว่านางกลับมาถึงก่อนผู้ใด เมื่ออวี๋ซงพาเถี่ยตั้นน้อยขึ้นไปบนรถ เด็กน้อยทั้งสามก็นั่งอยู่ด้านในแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]