บนรถม้า สวี่เฉิงเซวียนเอ่ยปากขอบคุณเยี่ยนไหวจิ่ง
เขาอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน จึงให้คนไปบอกสวี่เสียนเฟยว่าตนเองคิดถึงท่านอา อยากไปพบนางเหลือเกิน
สวี่เสียนเฟยรักหลานชายคนนี้มาก จึงให้เหยี่ยนไหวจิ่งไปพาเขาเข้าวัง
เยี่ยนไหวจิ่งนั่งเงียบมาตลอดทาง มีเพียงสวี่เฉิงเซวียนที่เจื้อยแจ้วจำนรรจาราวกับนกกระจอก “…ท่านพี่ ท่านอยากแต่งงานกับคุณหนูจวนอัครมหาเสนาบดีหรือไม่? หากท่านไม่อยาก ท่านอยากแต่งงานกับองค์หญิงซยงหนูหรือ?”
เยี่ยนไหวจิ่งไม่ตอบ
สวี่เฉิงเซวียนสังเกตสีหน้าของเขา “ท่านไม่ได้ชอบคุณหนูจวนอัครมหาเสนาบดีใช่หรือไม่เล่า? ที่จริงข้าก็คิดเหมือนกันว่านางไม่คู่ควรกับท่านพี่เลย!”
ทุกคนต่างก็สนใจแต่ว่าคู่ควรหรือไม่คู่ควร ไม่มีผู้ใดสนใจว่าเขาชอบหรือไม่ชอบ
“ท่านพี่…”
“เจ้านั่งเงียบๆ ไม่ได้หรือ?” เยี่ยนไหวจิ่งรู้สึกขุ่นเคือง
“ไม่ใช่สักหน่อย ท่านพี่ ข้าเห็นเยี่ยนจิ่วเฉาด้วย” สวี่เฉิงเซวียนพูดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง
“เห็นก็เห็นไปสิ” มีอันใดน่าแปลกใจ?
“ท่านพ่อข้าส่งคนไปฆ่าเขา เหตุใดเขายังอยู่อีก?” สวี่เฉิงเซวียนมิได้ใส่ใจคำเตือนของบิดาแต่อย่างใด
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?” เยี่ยนไหวจิ่งนัยน์ตากระตุกวูบหนึ่ง
“ท่านพ่อไม่ให้ข้าพูด แต่ท่านพี่ไม่ใช่คนนอก ข้าไม่ได้บอกคนอื่น ข้าบอกท่านแค่คนเดียว!” สวี่เฉิงเซวียนเล่าบทสนทนาที่ได้ยินในห้องหนังสือให้เยี่ยนไหวจิ่งฟังจนหมดเปลือก เขาได้ยินมาไม่มาก รู้เพียงว่าท่านพ่อของเขามีความลับบางอย่างที่ก้งเฉิง ความลับนั้นถูกเยี่ยนจิ่วเฉาล่วงรู้เข้า ท่านพ่อจึงตัดสินใจสังหารเขา
สวี่เฉิงเซวียนรู้สึกว่าบิดาของตนใจกล้าเหลือเกิน แม้แต่เยี่ยนจิ่วเฉาก็ยังกล้าสังหาร แต่เขาเองก็ถูกเยี่ยนจิ่วเฉารังแก หวังให้เยี่ยนจิ่วเฉาตายเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกดีใจมากกว่าตกใจเสียอีก
เยี่ยนไหวจิ่งกลับไม่คิดเช่นนั้น สวี่เฉิงเซวียนยังเด็กนัก ดังที่กล่าวว่าลูกโคแรกเกิดไม่กลัวเสือ เขาไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเยี่ยนจิ่วเฉาน่ากลัวมากเพียงใด แต่สวี่ส้าวย่อมรู้ดี
เยี่ยนไหวจิ่งกลับไม่เคยคิดรู้เลยว่าท่านลุงของเขาจะใจกล้าถึงเพียงนี้ นี่คือท่านลุงของเขาจริงหรือ?
ความลับใดกันที่ทำให้เขากล้าเสี่ยงชีวิต ตัดสินใจสังหารหลานชายคนโปรดของเสด็จพ่อ?
“เจ้าเข้าวังไปเอง ข้ามีเรื่องต้องทำ” พูดจบ เยี่ยนไหวจิ่งก็ลงจากรถม้า
สวี่เฉิงเซวียนตื่นตะลึง “อ้าว! ท่านพี่! ท่านอย่าเพิ่งไปสิ! ข้าออกมาก็เพราะว่าอยากพบท่านนะ!”
เยี่ยนไหวจิ่งกับจวินฉางอันหายลับไปในฝูงชนเสียแล้ว
“ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท่านลุงข้าไปเกี่ยวข้องกับเยี่ยนจิ่วเฉาได้อย่างไร?” หากทำเพียงเพื่อล้างแค้นให้สวี่เฉิงเซวียน ก็ยังฟังไม่ค่อยขึ้นเท่าไรนัก แต่จากคำบอกเล่าของสวี่เฉิงเซวียน ก็เห็นได้ชัดว่าเยี่ยนจิ่วเฉาค้นพบความลับของสวี่ส้าวเข้า
“ก้งเฉิง?” เยี่ยนไหวจิ่งพึมพำ “ท่านลุงข้าเป็นคนสวี่โจว เขาเคยไปก้งเฉิงตั้งแต่เมื่อใดกัน?”
จวินฉางอันเลิกคิ้ว “ข้าไปสืบมาให้ท่านตั้งนานแล้ว รอท่านถามอยู่”
เยี่ยนไหวจิ่งขมวดคิ้ว “ไปสืบเรื่องท่านลุงข้า? ข้าไม่ให้เจ้าสืบมิใช่หรือ?”
จวินฉางอันกอดอก “เช่นนั้นองค์ชายก็คิดเสียว่าข้าไม่ได้สืบก็แล้วกัน ข้าจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น”
“…เจ้า” เยี่ยนไหวจิ่งถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “เอาเถอะ เจ้าไปสืบมาได้ความว่าอย่างไร?”
จวินฉางอันยิ้มบางๆ “วันนั้นสวี่ส้าวยอมยกเลิกนัดหมายกับองค์ชายเพื่อไปพบอีกคนหนึ่ง องค์ชายคงรู้ว่าคนนั้นคือผู้ใด?”
“ผู้ใด?”
“เหยียนหรูอวี้”
ความตื่นตะลึงปรากฏในดวงตาของเยี่ยนไหวจิ่ง
เป็นเหยียนหรูอวี้ไปได้อย่างไร?
ท่านลุงกับสกุลเหยียนไม่มีความสัมพันธ์กันแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น เหยียนหรูอวี้เป็นคนของเยี่ยนจิ่วเฉา ท่านลุงของเขากับเหยียนหรูอวี้มีความเกี่ยวข้องกัน เรื่องนี้…เรื่องนี้ออกจะไม่สมเหตุสมผลไปสักหน่อย
จวินฉางอันกล่าวว่า “ส่วนเรื่องข้อมูลในก้งเฉิงข้าก็ไม่รู้ แต่ก็คาดเดาได้ไม่ยาก สวี่ส้าวไปมาหาสู่กับเหยียนหรูอวี้ ความลับอะไรกันเล่าที่ทำให้สวี่ส้าวไม่ลังเลที่จะฆ่าเยี่ยนจิ่วเฉา?”
ความคิดโลดแล่นในสมองของเยี่ยนไหวจิ่ง “ความลับที่มีผลต่อสถานะของเหยียนหรูอวี้”
จวินฉางอันพยักหน้า “มิผิด แม้จะไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสวี่ส้าวและเหยียนหรูอวี้เป็นอย่างไร แต่เรื่องหนึ่งที่สามารถยืนยันได้ก็คือพวกเขาลงเรือลำเดียวกัน นางอาจมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสวี่ส้าว และอาจเป็นไปได้ว่า…”
เยี่ยนไหวจิ่งพูดต่อว่า “…นางไม่ได้ให้กำเนิดลูกของเยี่ยนจิ่วเฉา”
……
“ยังคิดจะหนีอีกหรือ?”
เหยียนหรูอวี้ยืนอยู่หน้าประตู สายตาจับจ้องไปยังอวี๋หวั่นซึ่งถูกองครักษ์ผลักเข้ามาด้วยแรงมหาศาล
“ถ้าเจ้าขัดขืน ข้าก็จะแทงพวกเขา” เหยียนหรูอวี้ใช้กระบี่เคาะบนตะกร้าใส่เด็ก
โชคดีที่เด็กๆ หลับอยู่ มิเช่นนั้นพวกเขาต้องตกใจกลัวคำพูดของนางอย่างแน่นอน
อวี๋หวั่นเค้นกำปั้นแน่น สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “เหยียนหรูอวี้ เด็กๆ ไม่ใช่ลูกของเจ้าใช่ไหม?”
เหยียนหรูอวี้แค่นหัวเราะ “อย่างไรเสียเจ้าก็ใกล้ตายแล้ว ข้าจะบอกให้ก็ได้ มิผิด เด็กพวกนี้ไม่ใช่ลูกข้า ข้าขโมยจากคนอื่นมา”
อวี๋หวั่นหลับตาลง “ว่าแล้วเชียว…”
“เจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าแม่ของพวกเขาเป็นใคร?” เหยียนหรูอวี้เอ่ยถามอย่างเจ้าเล่ห์
อวี๋หวั่นตอบอย่างไม่ได้ยี่หระว่า “ขอแค่ไม่ใช่คนเสียสติแบบเจ้าก็พอแล้ว”
เหยียนหรูอวี้แสยะยิ้ม “เจ้าอยากรู้หรือไม่? น่าเสียดาย ข้าไม่บอกเจ้าหรอก”
ข้าอยากให้เจ้าตายโดยที่ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นลูกของเจ้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]