เมื่อเห็นเด็กน้อยสามคนนี้ ก้อนขนน้อยที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของอวี๋หวั่นก็ตกใจจนหลุดร้องเสียงลั่น!
วิเศษ วิเศษจนตาแทบบอด…
อวี๋หวั่นไม่ทันคาดคิดว่าชั่วครู่เดียวที่เธอไม่อยู่ มารดาของเธอจะรีบร้อนแข่งกับเวลา พาเด็กน้อยทั้งสามไปพบกับความโชคร้าย
เธอควรจะรู้สึกขอบคุณมารดาที่ยังไม่ได้ขำจนเก็บอาการไม่อยู่เพราะยังเกรงใจที่มีแขกมาเยี่ยมเยียนใช่หรือไม่?
ภายในบ้าน นางเจียงอ้าปากค้าง
อวี๋หวั่น “ท่านแม่”
นางเจียงหุบปากอย่างขุ่นเคือง
อวี๋หวั่นพาเด็กน้อยที่สภาพดูไม่จืดไปล้างหน้าในสวนหลังบ้าน
เด็กน้อยที่ล้างหน้าจนสะอาด เผยให้เห็นรูปโฉมดั้งเดิม ใบหน้างดงามไร้ที่ติสุดจะพรรณนานี่มัน…นี่มัน…
ชื่อของบุคคลหนึ่งปรากฏขึ้นมาในความคิดของเยี่ยนไหวจิ่ง
เขาตัวสั่นสะท้าน!
อายุ รูปร่าง หน้าตา แฝดสามคน ล้วนตรงตามนั้นทุกอย่าง หากบอกว่าไม่ใช่บุตรของเยี่ยนจิ่วเฉาก็คงไม่มีใครเชื่อ ทว่า…เหตุใดบุตรของเขาถึงมาปรากฏตัวอยู่ในบ้านแม่นางอวี๋
หรือว่าพวกเขาทั้งคู่จะมี…
“คุณชายสวี่” อวี๋หวั่นขัดจังหวะความคิดของเขา “ข้าจะเปลี่ยนใบสั่งยา ยาขี้ผึ้งทาต่อไป ยากินงดเว้นได้ ทว่าต้องอาบน้ำยาวันละหน”
เยี่ยนไหวจิ่งรับใบสั่งยาที่อวี๋หวั่นเขียนมา ลายมือสวยงามบนกระดาษหยาบๆ ทำให้ยากจะเชื่อว่ามาจากสตรีในหมู่บ้าน
ตอนนั้นนางมากับแม่นมที่ดูมีสง่าราศีคนหนึ่ง นางคงต้องเป็นสตรีที่ดีแน่
“เจ้า…เจ้าเรียนรู้อักษรมาจากผู้ใด?” เยี่ยนไหวจิ่งถาม
อวี๋หวั่นไม่ได้ฝึกการเขียนตัวอักษรอย่างจริงจัง มันเป็นของเจ้าของร่างเดิม ทว่าเธอก็จำไม่ได้ว่าเจ้าของร่างเดิมเรียนกับผู้ใดมา แต่มีสิ่งหนึ่งที่บอกได้คือ เจ้าของร่างเดิมไม่รู้หนังสือก่อนที่จะหายตัวไป
“ท่านว่าอย่างไรนะ? ลายมือข้ายังไม่ดีพอหรือ?” อวี๋หวั่นหลีกเลี่ยงคำถามของเขาอย่างชาญฉลาด
เมื่อเยี่ยนไหวจิ่งได้ยินวาจาเลี่ยงคำถาม จึงไม่ได้ถามสิ่งใดต่อ
อวี๋หวั่นก้มลงไปกอดเจ้าก้อนขนตัวอ้วนที่พื้น
สายตาของเยี่ยนไหวจิ่งตกกระทบศีรษะของเธอ หลังจากเธอยืนขึ้น เขาก็วางใบสั่งยาและก้าวไปหาเธอ
ทันทีที่อวี๋หวั่นอุ้มเจ้าก้อนขนฟูขึ้นมาก็รู้สึกว่าเหนือศีรษะของเธอมืดลง เงาร่างสูงใหญ่กำยำแผ่ปกคลุมทั่วทั้งตัวเธอ กลิ่นหอมคล้ายอำพันปลาวาฬจางๆ ลอยมาสัมผัสปลายจมูก
มือของเยี่ยนไหวจิ่งค่อยๆ ยื่นไปหาอวี๋หวั่น และกำลังจะสัมผัสเธอ ทันใดนั้นเด็กน้อยทั้งสามคนก็รีบเข้ามาขวางระหว่างเขากับอวี๋หวั่น พลางเงยหน้าขึ้นจ้องมองเขาด้วยสายตาเกลียดชัง!
มือของเยี่ยนไหวจิ่งหยุดชะงัก
“มีอันใดหรือ?” อวี๋หวั่นถามพลางหันกลับมามองมือที่ถูกแช่แข็งอยู่กลางอากาศของเขา
เยี่ยนไหวจิ่งเอ่ยปาก “เจ้า…มีใบไม้อยู่บนหัว”
อวี๋หวั่นยกมือขึ้นลูบผมและสัมผัสกับใบไม้สีเขียวที่อยู่บนมวยผมของเธอ
เด็กจ้ำม่ำเดินไปที่ประตูอย่างพร้อมเพรียง และออกแรงดันประตูสุดกำลัง จนมันเปิดออกอย่างน่าประหลาดใจ
คนโตใช้ก้นเล็กดันประตู
เยี่ยนไหวจิ่งตกใจ กำลังจะอ้าปากเอ่ย คนรองและคนเล็กก็วิ่งผ่านเขาไป
คนรองยืนเขย่งเอื้อมหยิบในสั่งยาบนโต๊ะมายัดใส่มือซ้ายของเขาอย่างไม่ลังเล!
เยี่ยนไหวจิ่งสะดุ้งอีกครั้ง
คนเล็กคว้าหางก้อนขนและจับคว่ำลง จากนั้นก็ผลักมันเข้าไปในมือขวาของเขาอย่างเด็ดขาด!
ทั้งหมดมองเขาด้วยสีหน้ารังเกียจเชิงผลักไส
เอาล่ะ เจ้าไปได้แล้ว!
เยี่ยนไหวจิ่ง “…”
เมื่อเยี่ยนไหวจิ่งพาเจ้าอ้วนกลมเข้าไปในรถม้า จวินฉางอันก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เร็วไปหรือไม่?”
แสร้งทำเหมือนเขาไม่ได้เห็นองค์ชายรองที่ยิ่งใหญ่ไม่มีผู้ใดเทียบเทียมถูกเด็กชายตัวเล็กๆ ที่ยังไม่หย่านมขับไล่ออกมา…
จวินฉางอันกล่าวด้วยความเห็นอกเห็นใจ “องค์ชายรองก็มีช่วงเวลาที่ถูกรังเกียจด้วยหรือนี่?”
ใบหน้าของเยี่ยนไหวจิ่งมืดหม่น
แล้วที่แสร้งทำเป็นไม่เห็นล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]