หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 8

“เปล่าสักหน่อย!” ประจวบเหมาะกับในตอนนั้นรถม้าจอดพอดี เยี่ยนจิ่วเฉาเปิดม่านออก แล้วเดินลงไปจากรถโดยไม่หันกลับมามองอีก!

ภาพของอ๋องแห่งเผ่าปีศาจยังคงชัดเจน ตอนนี้มีคนใหม่มาอีก ครั้งนี้ก็ยังเอาแต่ใจดังเคย

‘พ่อบอกแล้วใช่ไหม ว่าไม่มีใครมาพรากเจ้าไปจากพ่อได้’

‘ปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหม? ไม่คิดจะเรียกพ่อเลยหรือ?’

‘เรียกพ่อสิ’

……

‘เจ้าไม่เข้าใจ พวกเขาเป็นเพียงน้องชายของเจ้า ทางที่ดีเจ้าควรจะเลิกคิดเรื่องที่ไม่ควรคิด เจ้าไม่มีทางมาแทนนางได้!’

‘นางไหนอีก?’

‘นางในใจของข้า’

……

‘เจ้าถึงปล่อยหนอนพิษใส่ข้าใช่ไหม?’

‘ข้าปล่อยหนอนพิษอะไรกัน’

‘หนอนพิษเสน่หา!’

……

‘เช่นนี้เป็นอย่างไร ท่านบอกว่าข้าปล่อยหนอนพิษใส่ท่าน ข้าก็แค่ถอนพิษให้ท่านก็พอแล้ว’

‘เจ้าแน่ใจใช่ไหมว่าการถอนพิษจะไม่เป็นอันตรายกับเจ้า? จะไม่ทำให้เจ้าสติวิปลาส ร่างกายถูกทำลาย หายใจไม่ออก พลังปราณย้อนกลับ หรือเป็นอันตรายถึงชีวิต?’

‘ปล่อยหนอนพิษใส่ข้าไม่พอ ยังวางยาข้าอีกหรือ?’

‘ข้าว่าแล้วเชียว! เพื่อที่จะให้ได้ข้ามา เจ้าก็ยังพยายามถึงเพียงนี้!’

‘แม่นาง เจ้าเป็นคนจุดไฟขึ้นมา เจ้าก็ต้องดับไฟ!’

……

……

……

ความทรงจำที่ไม่อยากจดจำสว่างวาบขึ้นในสมองของเยี่ยนจิ่วเฉาราวกับดาวตก จนคิ้วโก่งของเขาขมวดเป็นปม

เหตุใดคำพูดประหลาดเช่นนั้นถึงออกมาจากปากของเขาได้

เรื่องหน้าไม่อายพรรค์นั้น เขาทำลงไปได้อย่างไรกัน

น่าอายเหลือเกิน…

เยี่ยนจิ่วเฉาทั้งโกรธทั้งอับอาย เขายืนอยู่ริมแม่น้ำอยู่ครึ่งชั่วยามเต็มๆ จนอิ่งสือซันและอิ่งลิ่วซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปตกใจว่าคุณชายของพวกตนกำลังจะกระโดดน้ำ หัวใจของทั้งสองแทบหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ในขณะเดียวกันก็เตรียมพร้อมกระโดดลงไปงมคุณชายซึ่งกำลังจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตายขึ้นมา!

ทว่า อาจเป็นเพราะได้ผ่านประสบการณ์เลวร้ายมาแล้ว ครั้งแรกยังแปลกหน้า ครั้งที่สองย่อมคุ้นเคย เยี่ยนจิ่วเฉาตั้งสติได้เร็วกว่าครั้นอยู่ในหมิงตู เด็กทั้งสามคนวิ่งเข้ามา เขาจึงปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วเดินกลับขึ้นรถม้าไปด้วยท่าทางฮึกเหิม!

อวี๋หวั่นมองเขาเงียบๆ เหอะๆๆ

ในเมื่อความทรงจำของเยี่ยนจิ่วเฉากลับมาแล้ว เช่นนั้นเรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังเขาอีกต่อไป ทั้งยังไม่ จำเป็นต้องให้อวี๋หวั่นบอกด้วยตนเอง หลังจากที่สมองของเขากลับมาทำงานได้อย่างปกติ เขาก็น่าจะเดาเรื่องราวจากบทสนทนาก่อนหน้านี้ของพวกเขาได้พอสมควร

เมื่อรถม้าเคลื่อนเข้าไปในตลาด อวี๋หวั่นก็พาเด็กทั้งสามไปซื้อถังหูลู่

เยี่ยนจิ่วเฉาเรียกอิ่งลิ่วและอิ่งสือซันมา

“ไปหาโรงหมอ แล้วพาสตรีคนนั้นไปส่ง” เยี่ยนจิ่วเฉาสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

อิ่งลิ่วและอิ่งสือซันชะงักไป

ในการเดินทางครั้งนี้ของพวกเขา พวกเขามีสตรีสามคน ทั้งสองคิดว่าคุณชายไม่มีทางให้พวกเขาพาฮูหยินน้อยไป จึงเหลือเพียงผิงเอ๋อร์และเซียงเหลียน ผิงเอ๋อร์นั้นซื่อสัตย์ และไม่ได้เจ็บป่วย หากจะปล่อยนางไป ก็คงไม่จำเป็นต้องนำไปปล่อยที่โรงหมอ

เช่นนั้นก็ต้องเป็นเซียงเหลียน

ทั้งสองคนมองหน้ากัน ท่าทางของคุณชายดูคุ้นตา คุณชายคงไม่ได้ตื่นแล้วหรอกกระมัง?

“คุณชาย ท่าน…”

“อะแฮ่ม!”

อิ่งลิ่วกำลังจะเอ่ยปากถามว่าความทรงจำของคุณชายกลับคืนมาแล้วหรือ แต่กลับถูกอิ่งสือซันกระแอมขึ้นมาขัดไว้ก่อน

อิ่งสือซันดึงนิ้วของอิ่งลิ่ว เพื่อบอกเป็นนัยว่า เจ้าไม่อยากได้เงินเดือนแล้วหรือ?

อิ่งลิ่วเงียบลงด้วยความขุ่นเคือง

อิ่งสือซันพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “หากส่งเซียงเหลียนไป จะไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นหรือขอรับ?”

เยี่ยนจิ่วเฉาพูดอย่างเอาแต่ใจว่า “ข้าดูเหมือนคนที่กลัวการแหวกหญ้าให้งูตื่นหรือ?”

ทั้งสองคน “…”

ความทรงจำของเขาน่าจะกลับมาแล้วจริงๆ อ๋องแห่งเผ่าปีศาจนั้นบ้า หลัวช่าวิญญาณบ้ายิ่งกว่า แต่ที่บ้าระห่ำที่สุดเห็นจะเป็นเจ้าคนโฉดแห่งเมืองเยี่ยน!

อิ่งสือซันตอบว่า “ขอรับ ประเดี๋ยวข้าน้อยจะพาเซียงเหลียนไปส่ง”

เยี่ยนจิ่วเฉานัยน์ตาลึกล้ำ “เยี่ยนไหวจิ่งใจกล้ายิ่งนัก เป็นเจี้ยนกั๋วได้ไม่เท่าไร ก็กล้าเล่นงานข้าแล้ว!”

อิ่งสือซันชะงักไป “ฮูหยินน้อย…บอกคุณชายแล้วหรือขอรับ?”

“บอกอะไร” เยี่ยนจิ่วเฉามองเขา

อิ่งสือซันพูดด้วยความฉงนใจ “ฮููหยินน้อยไม่ได้บอกกับคุณชายหรือขอรับ? ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อาจเป็นจิ้งอ๋อง”

“เรื่องนี้จำเป็นต้องให้นางบอกด้วยหรือ?” ใช้นิ้วก้อยเท้าเดายังรู้เลยว่าเป็นเจ้าลูกเต่าตัวไหน เยี่ยนจิ่วเฉาเล่นกับขวดในมือเงียบๆ หนอนพิษสังวาสถูกพลังของหลัวช่าวิญญาณบีบบังคับให้ออกมาแล้ว “ดูแล้วการได้เป็นเจี้ยนกั๋วนั้นทำให้เยี่ยนไหวจิ่งโอหังขึ้นไม่เบา เขาคงลืมไปแล้วกระมังว่าการถูกคนดักต่อยตีในตรอกนั้นเป็นอย่างไร”

อิ่งสือซันใช้ความคิด แล้วพูดว่า “พวกเราพบเซียงเหลียนในซีเฉิง แสดงว่าจิ้งอ๋องนั้นจับตาดูพวกเรามานานแล้ว”

แรกเริ่มเดิมที พวกเขาออกจากเมืองหลวงไปตามหาตัวยาถอนพิษ โดยบอกกับสาธารณะว่ากลับเมืองเยี่ยน ภายหลังที่หนานจ้าวเกิดเรื่องของเยี่ยนอ๋องและตี้จีสององค์ ทำให้ตัวตนของเยี่ยนจิ่วเฉาและร่องรอยของเขาถูกเปิดเผย ฮ่องเต้ไม่ได้พูดอะไร ทว่าเยี่ยนไหวจิ่งกลับจดจำได้ขึ้นใจ

เพียงแต่ว่า ในตอนที่เยี่ยนไหวจิ่งส่งคนมาถึงหนานจ้าว พวกเขาก็เดินทางออกไปแล้ว ส่วนไปที่ใดนั้นเยี่ยนไหวจิ่งไม่มีข้อมูล เพราะฉะนั้นเขาจึงส่งคนไปยังซีเฉิงของหนานจ้าวเพื่อดักรอ ซีเฉิงเป็นเส้นทางที่ต้องผ่านเมื่อเดินทางไปต้าโจว ขอเพียงพวกเขากลับต้าโจว ย่อมต้องผ่านเส้นทางนี้

“น่าแปลก พวกเขาใช้หนอนพิษเป็นได้อย่างไร? ต้าโจวไม่มีปรมาจารย์พิษสักหน่อย” อิ่งลิ่วถามด้วยความสงสัย

แม้ว่าจะเป็นเพียงความสงสัยของอิ่งลิ่ว แต่บางครั้งมันก็เป็นประเด็นสำคัญ ถูกต้องแล้ว ต้าโจวไม่มีปรมาจารย์พิษ ก่อนหน้านี้เซียวเจิ้นถิงเคยใช้ทองคำห้าหมื่นตำลึง เชิญปรมาจารย์พิษจากหนานจ้าวมาถอนพิษให้เยี่ยนจิ่วเฉา ตอนนั้นทุกคนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในระดับใด ทว่าวันนี้เห็นทีเกรงว่าจะไม่ได้เป็นปรมาจารย์พิษระดับสูงด้วยซ้ำไป

แต่ถึงเป็นเพียงปรมาจารย์พิษธรรมดาก็ยังเชิญได้ยาก เยี่ยนไหวจิ่งไปหาผู้ช่วยจากที่ใดมา และผู้ช่วยของเขาอยู่ในระดับไหน

อิ่งสือซันกล่าวว่า “พวกเราออกจากหนานจ้าวได้เกือบหนึ่งปี ท่านอ๋องผู้นี้สรรหาแผนการไว้มากมาย”

อิ่งลิ่วแค่นเสียง ‘หึ’ ขึ้นจมูก “เขาก็เพียงฉวยโอกาสตอนที่คุณชายไม่อยู่ อยากสยายปีกก็เท่านั้น แต่ว่าเขากระเหี้ยนกระหือรือ รอจนพวกเรากลับถึงต้าโจวไม่ได้เชียวหรือ? แม้แต่ในหนานจ้าวยังกล้าสร้างเรื่อง ไม่รู้เสียแล้วว่าเป็นอาณาเขตของใคร!”

อิ่งสือซันพูดว่า “เขาเลือกลงมือในพื้นที่ของสกุลเห้อเหลียน แสดงเขาคะเนไว้แล้วฮูหยินน้อยไม่มีทางเพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ของครอบครัวตนเอง แต่ว่า…ออกเหี้ยนกระหือรือไปสักหน่อยจริงๆ ขอรับ”

อิ่งสือซันเข้าใจว่าเพราะเหตุใดเยี่ยนไหวจิ่งจึงทำเช่นนั้น อันที่จริงฮ่องเต้ทรงเอ็นดูคุณชายเป็นพิเศษ เยี่ยนไหวจิ่งถูกคุณชายข้ามหน้าข้ามตามานาน สุดท้ายฮ่องเต้ก็ประชวร ไม่อาจปกป้องคุณชายได้อีก เยี่ยนไหวจิ่งจึงรีบร้อนสำแดงพลังขู่คุณชายสักหน่อยหรือ?

แต่คุณชายจะกลัวเขาหรือ?

อ่อนหัด!

ใครบางคนภาวนาให้พวกเขาเดินทางข้าลงกว่าเดิม เพื่อที่เขาจะได้มีเวลาทำตามใจตนเองมากขึ้น ไม่เช่นนั้นหากคุณชายกลับไป วันเวลาในเมืองหลวงของเขาก็คง…เปลี่ยนไปเช่นกัน!

อิ่งสือซันและอิ่งลิ่วพาเซียงเหลียนไปส่งโรงหมอแห่งหนึ่ง พวกเขาไม่ได้ติดค้างอะไรนาง ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบชีวิตนางจนถึงที่สุด ฮูหยินน้อยช่วยชีวิตนางแล้ว นางก็ให้ข้อมูลสำคัญ นับว่าหนี้ชีวิตในครั้งนี้ชดใช้หมดแล้ว หลังจากนี้เป็นต้นไป ก็แยกกันตรงนี้ ต่างคนต่างไป!

อวี๋หวั่นอายุครรภ์มากแล้ว นั่งบนรถม้าไม่ค่อยถนัด พวกเขาจึงเปลี่ยนเป็นเดินทางโดยเรือ อิ่งสือซันจึงส่งนกพิราบไปยังจวนเยี่ยนอ๋อง ให้จวนเยี่ยนอ๋องเตรียมกองทัพเรือที่เคลื่อนที่ได้เร็วที่สุด ให้มาพบพวกเขาที่ท่าเรือเฟิงเจิ้น

ยามที่พวกเขามาถึงท่าเรือ ก็เห็นร่างอันคุ้นเคย…ลุงวั่น

หลังจากที่เกิดเรื่องของซูมู่ขึ้น ลุงวั่นก็ถูกเยี่ยนจิ่วเฉาส่งกลับไปยังจวนของเยี่ยนอ๋อง แม้จะบอกว่าส่งลุงวั่นไปพักผ่อนที่จวนเยี่ยนอ๋อง ทว่าความจริงแล้วเยี่ยนจิ่วเฉาขุ่นเคืองเขา ในฐานะที่เป็นคนสนิทของเยี่ยนจิ่วเฉา แต่กลับหลงผิด ไว้ใจสาวใช้คนหนึ่งมากเกินไป ทำให้อวี๋หวั่นต้องเดือดร้อน นี่เป็นสิ่งที่เยี่ยนจิ่วเฉายอมรับไม่ได้

กระนั้นแล้ว เยี่ยนจิ่วเฉาก็ ‘กำพร้าบิดา’ ตั้งแต่ยังเด็ก อายุแปดขวบมารดาก็แต่งงานใหม่ คนที่อยากให้เขาตายมีตั้งมากมาย เป็นลุงวั่นที่ดูแลเขามาจนเติบใหญ่

ลุงวั่นอาจเคยผิดพลาดไปบ้าง ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยคิดทรยศ

ไม่พบกันเกือบปี ใบหน้าของลุงวั่นแลดูอ่อนล้าลงไปบ้าง จอนผมของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว และไม่รู้ว่าพวกเขาคิดไปเองหรือไม่ แต่หลังของเขาเริ่มค้อมลงแล้วเช่นกัน

“ลุงวั่น…” อิ่งลิ่วขอบตาร้อนผ่าว

ลุงวั่นพยักหน้าให้อิ่งลิ่วและอิ่งสือซัน จากนั้นก็เดินน้ำตาคลอเบ้าเข้าไปหาเยี่ยนจิ่วเฉาและอวี๋หวั่น เขาทรุดลงกับพื้น แล้วโขกศีรษะอย่างแรงหลายครั้ง “บ่าว…คำนับคุณชาย! คำนับฮูหยินน้อย!”

เยี่ยนจิ่วเฉายังคงมีท่าทางเย็นชา ไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง

อวี๋หวั่นยื่นมือออกไปประคองแขนของลุงวั่น “ลุงวั่น ลุกขึ้นมาเถอะ! บนพื้นเย็นเกินไป!”

“ฮูหยินน้อย” ลุงวั่นมองเธอด้วยท่าทางโศกเศร้า แล้วพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า “บ่าวเสียใจ…บ่าวขอโทษฮูหยินน้อย…บ่าวหน้ามืดตามัว…”

อวี๋หวั่นยิ้ม “เรื่องที่ผ่านไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดถึงอีก ข้าตั้งท้อง กำลังคิดอยู่พอดีว่าจะทำอย่างไรดี เรื่องในจวน คุณชายใครจะจัดการ ลุงวั่นมาแล้วข้าค่อยวางใจหน่อย!”

………………………..

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]