“ท่านป้าจง ข้าขอโทษ เป็นความผิดข้าเอง…”
“ได้…ต่อไปจะไม่มีอีกแล้ว…”
“ข้าจะสอนพวกเขาให้ดี”
หลังจากที่ออกมาจากบ้านป้าจง อวี๋หวั่นรู้สึกย่ำแย่เหลือเกิน เถี่ยตั้นนะเถี่ยตั้น เธอให้เขาพาลูกๆ ของเธอไปข้างนอก ยังเกิดเรื่องขึ้นได้? ทั้งยังทะเลาะกับคนอื่นอีกเนี่ยนะ? จริงๆ เลย!
ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้อวี๋หวั่นรู้หมดแล้ว เป็นเถี่ยตั้นน้อยที่ไปยั่วยุก่อน เรื่องมีอยู่ว่าโก่ววาเจอคางคกตัวหนึ่ง จากนั้นเขาก็เที่ยวบอกเด็กคนอื่นๆ ว่าเป็นกบ เถี่ยตั้นน้อยหัวเราะเยาะว่าเขาโง่งม แยกระหว่างคางคกและกบไม่ออก โก่ววาจึงข่มขู่เถี่ยตั้นน้อย เถี่ยตั้นน้อยมิได้เกรงกลัวต่อปากต่อคำกับเขา สุดท้ายก็ถูกโก่ววาเล่นงานจนได้
แน่นอนว่าหมัดของโก่ววาออกจะหนักอยู่บ้าง เรื่องนี้ไม่แปลก แต่หมัดของลูกชายเธอก็ไม่เบาเช่นกัน!
ต่อยเสียนักเลงหัวไม้น่วมไปทั้งตัว
….จนเขากลายตัวตลกของหมู่บ้าน
อวี๋หวั่นตรงกลับบ้านโดยไม่พูดไม่จา
เด็กน้อยทั้งสามเดินทำคอตกตามเธอไป
เถี่ยตั้นน้อยหัวหมอ รีบหนีไปหาอวี๋เซ่าชิงบนเขาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
“พวกเจ้ารู้ความผิดของตัวเองไหม?” ใกล้ถึงบ้าน อวี๋หวั่นก็หยุด แล้วหันไปมองเด็กทั้งสามด้วยสีหน้าดุดัน
เด็กทั้งสามได้แต่ก้มหน้า
เด็กที่ต่อสู้กับคนอื่นไม่ใช่เด็กดี
“ข้าไม่ได้ห้ามไม่ให้พวกเจ้าสู้กับคนอื่น…” อวี๋หวั่นพยายามเรียบเรียงคำพูด “แต่ต้องดูสถานการณ์ พวกเจ้าไม่ควรรังแกผู้อื่นก่อน และไม่ควรช่วยท่านน้ารังแกผู้อื่น ทั้งที่รู้ว่าเขาเป็นคนผิด”
ทั้งสามมองอวี๋หวั่นด้วนสีหน้างุนงง
อวี๋หวั่น “…”
เอาเถอะ พวกเขาไม่เข้าใจ
อวี๋หวั่นเองก็ไม่เข้าใจ เด็กตัวเล็กๆ ไร้เรี่ยวแรง จะไปรังแกโก่ววาที่อายุเก้าขวบได้อย่างไรกัน?
แถมยังเป็นนักเลงหัวไม้ของหมู่บ้านอีก เสียชื่อจริงๆ
ขณะที่เด็กน้อยทั้งสามเล่นงานนักเลงหัวไม้ของหมู่บ้านจนยับเยิน อีกด้านหนึ่ง ท่านพ่อของเด็กน้อยทั้งสามก็เล่นงานสวี่ส้าวจนยับเยินเช่นกัน
สวี่ส้าวและเหยียนหรูอวี้ร่วมมือกันลอบทำร้ายบุตรชายของเยี่ยนจิ่วเฉา นั่นเป็นความผิดหนึ่งสถาน หากแพร่งพรายออกไป สวี่ส้าวก็คงต้องไปกินข้าวในคุกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สวี่ส้าวเองก็เตรียมตัวเตรียมใจรับโทษประหารไว้แล้ว ไหนเลยจะรู้ว่าเยี่ยนจิ่วเฉากลับปกปิดเรื่องราวเหล่านี้ มิให้แพร่งพรายออกไป ที่เขาทำเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อให้สวี่ส้าวใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่เขากำลังค่อยๆ เฉือนเนื้อของสวี่ส้าวออกมาทีละชิ้น เริ่มจากบุตรชายคนโตของอนุภรรยาเมาสุราและตกจากหลังม้าระหว่างทางกลับบ้าน จากนั้นก็บุตรชายคนรองมีเรื่องวิวาทกลางถนนจนถูกจับเข้าคุก ตามมาติดๆ ด้วยลุงของสวี่ส้าวซึ่งติดหนี้พนันและถูกตัดมือบนโต๊ะพนัน…เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ดูเผินๆ คล้ายกับเกิดขึ้นเอง ทว่าทุกเหตุการณ์ที่กล่าวมาล้วนเกิดขึ้นในวันเดียวกัน ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่ามีคนจงใจเล่นงานสวี่ส้าวลับหลัง
สวี่ส้าวจนปัญญาที่จะจัดการเรื่องนี้ สวี่เสียนเฟยก็เช่นกัน
หากเยี่ยนจิ่วเฉาเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป สวี่เสียนเฟยก็ยังสามารถขอพระราชทานอภัยโทษให้พี่ชายได้ แต่ในเมื่อเยี่ยนจิ่วเฉามิได้พูดออกไป นางย่อมไม่กล้านำเรื่องที่สวี่ส้าวลอบทำร้ายเยี่ยนจิ่วเฉาไปกราบทูลฮ่องเต้
ลึกๆ ในใจของนางรู้สึกโชคดี เยี่ยนจิ่วเฉาต้องมีเรื่องให้กังวลอย่างแน่นอนจึงไม่ได้พูดออกไป เช่นนั้นหากนางพูดไป จะไม่เท่ากับนางกินปูนร้อนท้องไปเองหรือ?
สวี่ส้าวกลับล่วงรู้ถึงแผนการของเยี่ยนจิ่วเฉา เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ปล่อยให้เขามีความสุข แต่คอยจ่อปลายมีดไว้เหนือศีรษะเขา ทำให้เขาอกสั่นขวัญแขวนอยู่ตลอดเวลา เยี่ยนจิ่วเฉากำลังทรมานเขาอยู่! ก็เหมือนกับแมวที่จ้องจะกินหนู มันค่อยๆ ไล่หนูไปเรื่อยๆ จนหนูอ่อนแรง จากนั้นจึงค่อยจับกินเข้าไปในคราเดียว!
“นายท่าน หอเทียนเซียงเกิดเรื่องแล้วขอรับ!” พ่อบ้านเข้ามารายงานด้วยท่าทางตื่นตระหนก
“สาขาไหน? เกิดเรื่องอันใดขึ้น?” สวี่ส้าวใบหน้าซีดเผือด
พ่อบ้านตอบว่า “สาขาใหม่ขอรับ ป้ายหน้าร้านตกลงมาใส่คนได้อย่างไรก็ไม่รู้ ผู้ที่ถูกป้ายตกลงมาใส่คือคุณชายจากสกุลของเจิ้งเก๋อเหล่า ครั้งนี้เจิ้งเก๋อเหล่าโมโหมาก ต้องการให้หอเทียนเซียงของเราไปอธิบายขอรับ”
ป้ายหน้าร้านนี้ตกลงมาได้อย่างไร ไม่ต้องบอกสวี่ส้าวก็เดาได้ แต่สวี่ส้าวก็จับเยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้คาหนังคาเขา จึงทำได้เพียงมองดูเยี่ยนจิ่วเฉาลงมือในอาณาเขตของตนอย่างไม่เกรงกลัว
“นายท่าน…” พ่อบ้านกระวนกระวนใจเหลือเกิน
สวี่ส้าวตอบด้วยความเหนื่อยล้า “ข้ารู้แล้ว เจ้าออกไปก่อน เดี๋ยวข้าจะไปดูทีหลัง”
พ่อบ้านออกไป
ลูกน้องคนสนิทก้าวออกมาจากหลังฉากกั้น “นายท่าน”
สวี่ส้าวโมโหจนกำหมัดแน่น “เยี่ยนจิ่วเฉาชักจะกลั่นแกล้งกันมากเกินไปแล้ว! เขาคิดว่าข้าอับจนหนทางแล้วหรืออย่างไร? ต่อให้คุณชายปิดประตูไม่พบหน้าผู้ใด ข้าติดต่อเขาไม่ได้ แต่ข้าก็มีคนของตนเอง! ข้าจะไปติดต่อเยว่กวน!”
ลูกน้องคนสนิทชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า “นายท่าน ขออภัยที่ข้าต้องกล่าวตามตรง หากท่านจะลงมือจำต้องรอบคอบ”
“ทำไม? เจ้ากลัวว่ากองทัพจะถูกกำจัดเสียสิ้นซากเหมือนครั้งที่แล้วรึ?” สวี่ส้าวถาม “ครั้งที่แล้วข้าได้ใจเกินไปหน่อย ข้าประเมินพวกองครักษ์สองคนนั้นต่ำไป แต่หน่วยกล้าตายที่ข้าส่งไปนั้นเพียงเป็นกลุ่มที่ไร้ฝีมือที่สุด หน่วยกล้าตายหน้ากากเงินยังมิทันได้ออกโรงเลยนี่ อีกอย่าง ข้าไม่ได้จะไปฆ่าเยี่ยนจิ่วเฉาสักหน่อย”
คนสนิทกล่าวว่า “นายท่านจะไปลงมือกับแม่นางอวี๋หรือ? เช่นนั้นนายท่านก็ยิ่งต้องระวังให้มาก”
สวี่ส้าวขมวดคิ้ว “อย่างไร?”
คนสนิทอธิบาย “ข้าไปสืบความจากหมู่บ้านเหลียนฮวามา พบเรื่องน่าสนใจเรื่องหนึ่ง บ้านซึ่งเดิมทีเป็นของสกุลจ้าว มีคนนอกพื้นที่ย้ายเข้ามาอยู่ คนในหมู่บ้านอาจมองไม่ออก แต่ข้าน้อยมั่นใจว่าพวกเขาไม่ธรรมดา วิชายุทธ์ของพวกเขาอาจมิได้ด้อยไปกว่าหน่วยกล้าตายหน้ากากเงินด้วยซ้ำไป”
“มีเรื่องพรรค์นี้ด้วยรึ” สวี่ส้าวตะลึง เขามองไปยังลูกน้องคนสนิท “เจ้าสงสัยว่า…พวกเขาเป็นคนที่เยี่ยนจิ่วเฉาส่งมาปกป้องเด็กนั่นหรือ?”
“มิผิด” ลูกน้องคนสนิทพยักหน้า
หากเก่งกาจถึงเพียงนั้น โอกาสชนะของเขาก็คงไม่มาก แต่ว่า…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]