…………
มือที่กำลังปลดเข็มขัดเยี่ยนจิ่วเฉาของอวี๋หวั่นหยุดชะงัก
เธอเก็บกลั้นความรุ่มร้อนในจิตใจไว้สองครั้ง เธอคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ นับไม่ถ้วน แต่เธอไม่เคยรู้เลยว่าเยี่ยนจิ่วเฉามีแผนการเช่นนี้อยู่ในใจ
เธอคิดว่าที่เยี่ยนจิ่วเฉาไม่อยากแตะต้องเธอ เพราะไม่ต้องการทำให้เธอเดือดร้อน แต่มาวันหนึ่ง กลับได้ยินเยี่ยนจิ่วเฉาพูดกับเธอว่า “ข้ากำลังจะตาย ข้าไม่อาจทำให้เจ้าเดือดร้อนในชีวิตที่เหลือ เจ้าต้องรีบหาผู้ชายดีๆ แล้วไม่ต้องห่วงข้าอีก เจ้าเป็นหญิงอ่อนแอ ไม่สามารถถือครองทรัพย์สมบัติมากมายเช่นนั้นได้ ข้าเตรียมเงินไว้ให้เจ้าแล้ว มันเพียงพอสำหรับเจ้าที่จะใช้อีกไปหลายชั่วอายุคน เจ้า…เจ้าจงจากไปให้ไกล…และลืมข้าเสียเถิด…”
เมื่อมาถึงตอนนี้ เขาไม่สนเรื่องเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว
เขาไม่อยากให้อวี๋หวั่นมีชีวิตไปวันๆ เขาต้องการให้เธอยืนได้อย่างองอาจท่ามกลางฝูงชน เขาให้เธอเหยียบบนไหล่ของเขา
เธอมีชีวิตอยู่ได้ ไม่ใช่เพราะเธอยอมแพ้มามาก แต่เพราะเธอมีมากพอแล้ว คนเหล่านั้นไม่ได้ปล่อยเธอไปเพราะเห็นอกเห็นใจ แต่เป็นเพราะพวกเขาหวาดกลัว จึงไม่กล้าทำอะไรกับเธอ
“สมกับเป็นเยี่ยนจิ่วเฉาจริงๆ…”
หลังจากรู้ความในใจของเขา อวี๋หวั่นก็ไม่ได้ประหลาดใจ อย่างไรเสีย แม้ว่าเขาจะดึงมือเธอให้ไปซ่อนตัวที่ไกลๆ และหาผู้ชายที่ดีแต่งงานด้วยจริง เธอเกรงว่าคงต้องทำให้เขาผิดหวัง
นั่นไม่ใช่ความรัก แต่เป็นการดูถูก
“เยี่ยนจิ่วเฉาหนอเยี่ยนจิ่วเฉา…” ในใจอวี๋หวั่นคิดเป็นร้อยเป็นพันครั้ง “ข้าสัญญาว่าจะแต่งงานกับท่านแล้ว ท่านยังไม่ยอมอีกหรือ? รีบถอนพิษก่อนได้หรือไม่?”
“เจ้าอย่า…ได้คิด…”
ทันทีที่สิ้นเสียง เยี่ยนจิ่วเฉาก็สลบไป
อวี๋หวั่นกอดเขาไว้ในอ้อมแขน และหันศีรษะเขาไปมา เธอทาบมือลงบนหน้าอกของเขา พร้อมกับเลิกคิ้วแล้วเอ่ยว่า “ท่านบอกว่าอย่าได้คิดใช่หรือไม่? ยามนี้หากอยากจะทำเช่นไรกับท่าน ข้าก็ทำได้ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของท่าน ท่านขัดขืนได้หรือ?”
เอ่ยจบ อวี๋หวั่นก็ลูบหน้าอกของเขาแรงๆ สองครั้ง ราวกับว่าต้องการเพิ่มน้ำหนักให้คำพูดของตัวเอง
จากนั้นอวี๋หวั่นก็ถอนหายใจ “ข้าแพ้ท่านแล้ว”
อวี๋หวั่นยกปลายนิ้วของเธอขึ้น บาดแผลที่ให้ปรมาจารย์พิษปล่อยเลือดออกมาหายสนิทจนมองไม่เห็นอีกแล้ว เธอคลับคล้ายคลับคลาว่าเลือดของเธอสามารถหล่อเลี้ยงหนอนพิษได้ แต่ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์กับอาการป่วยของเขาหรือไม่ หากเธอไม่ระวังทำให้เขาตายเพราะพิษจะทำอย่างไร?
“เยี่ยนจิ่วเฉา วิธีนี้อันตรายสักหน่อย ท่านแน่ใจว่าจะลองทำหรือไม่?”
เยี่ยนจิ่วเฉาย่อมตอบกลับเธอไม่ได้
ในที่สุดอวี๋หวั่นก็ตัดสินใจลองดู
โชคดีที่วิธีนี้ได้ผล ชีพจรของเยี่ยนจิ่วเฉาไม่อ่อนแรงเหมือนก่อนหน้า ทว่าวิธีนี้ต้านพิษไว้ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่สามารถรักษาให้หาย
“ให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ก่อนแล้วกัน” อวี๋หวั่นบีบใบหน้าของเขาเบาๆ
…………
เมื่อตกดึก อิ่งลิ่วก็พาเยี่ยนจิ่วเฉากลับไปยังจวน
เยี่ยนจิ่วเฉาตื่นขึ้นมาระหว่างการเดินทางและก็หลับไปอีกครั้งในไม่ช้า เมื่อหลู่เซียวเหยาเห็นว่าเขานอนราบกลับมา จึงคิดว่าภารกิจล้มเหลว เขากลัวมากจนสลบไปทันที
อิ่งลิ่วเข้ามาในห้องและกระซิบเอ่ยอะไรบางอย่างกับอิ่งสือซัน อิ่งสือซันรับดาบมาอย่างเย็นชา พลางเอ่ยกับคนสองสามคนที่กำลังตัวสั่นงันงก “พวกเจ้าไปได้แล้ว”
พวกเขาถึงกับผงะ
หลู่เซียวเหยาที่หมดสติกลับลุกขึ้นนั่ง ดวงตาเล็กๆ ของเขาเบิกกว้าง “ไปได้แล้วหรือ? ท่านพูดจริงหรือล้อเล่น?”
อิ่งสือซันกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา “หรือเจ้าต้องการทิ้งชีวิตของตัวเองไว้ที่นี่?”
“ไม่ๆๆๆ! พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้! ไปแล้ว!” หลู่เซียวเหยาลากสหายของเขา ล้มลุกคลุกคลานออกจากจวนคุณชายไป
เช้ามืดในวันรุ่งขึ้น ลุงวั่นตื่นขึ้นและออกไปจับห่านป่าเป็นๆ มาคู่หนึ่ง พร้อมกับออกไปรับแม่นางตู้หงที่หอซิ่ว เพื่อเดินทางไปขออวี๋หวั่นแต่งงานที่หมู่บ้านเหลียนฮวาพร้อมกัน
ลุงวั่นคิดว่ายิ่งงานแต่งงานเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี ด้วยเหตุนี้ เวลาจึงเร่งรีบ แม่นางตู้หงแนะนำว่าทำทุกอย่างให้เรียบง่าย “…ครอบครัวใหญ่แต่งงานกัน สามหนังสือหกพิธีการ[1]จบแล้ว แต่นี่ผ่านไปหนึ่งปีครึ่งแล้ว ข้าคิดว่าทั้งสองคุ้นเคยกันดี อีกทั้งยังมีบุตรด้วยกันแล้ว แค่ฝ่ายหญิงตอบตกลงรับการทาบทาม และทั้งสองฝ่ายตกลงปลงใจก็พอ วันนี้กำหนดวันแต่งงาน แล้ววันหน้าก็แต่งงานเลย!”
ลุงวั่นสีหน้าเคร่งเครียด “คุณชายบอกว่า ขาดไม่ได้แม้แต่ขั้นตอนเดียว”
แม่นางตู้หงผู้เห็นคนอวดความรักอย่างไม่ทันตั้งตัว “…”
วันนี้ผู้ใหญ่ฝ่ายชายให้แม่สื่อไปทาบทาม หรือที่เรียกกันว่าทำหน้าที่เป็นแม่สื่อ
คราวนี้ อวี๋หวั่นกลับรออยู่ในห้องของเธอแต่โดยดี และปล่อยให้ป้าสะใภ้ใหญ่กับนางเจียงอยู่ต้อนรับลุงวั่นกับแม่นางตู้หง
อวี๋หวั่นไม่ได้ปฏิเสธ จึงตกลงรับการทาบทาม
“ขอถามวันเวลาเกิดของแม่นางอวี๋” แม่นางตู้หงกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทว่าในใจกลับตำหนิเยี่ยนจิ่วเฉาเป็นร้อยๆ ครั้ง เวลาตกฟากของวันเดือนปีและเวลาเกิดของบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของนาง ท่านก็สืบมาหมดแล้ว ยังต้องใช้วันเกิดของแม่นางอวี๋อีกหรือ? ถามอีกหรือ? ถามอีกหรือ?!
ป้าสะใภ้ใหญ่บอกวันเวลาเกิดของอวี๋หวั่น
แม่นางตู้หงก็บรรจงเขียนลงในใบบันทึกวันเดือนปีเกิดของคู่หมั้นอย่างสละสลวย หลังจากนั้นก็ควรจะหาคนมาผูกดวงชะตา เพื่อดูว่าดวงชะตาของอวี๋หวั่นและเยี่ยนจิ่วเฉาขัดแย้งกันหรือไม่ หากไม่มีวี่แววว่าขัดแย้งกัน การแต่งงานครั้งนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]