หนี้รักหมอสาว นิยาย บท 49

สรุปบท เพียงสบตา: หนี้รักหมอสาว

สรุปเนื้อหา เพียงสบตา – หนี้รักหมอสาว โดย ปีศาจชอนซา

บท เพียงสบตา ของ หนี้รักหมอสาว ในหมวดนิยายนิยายสำหรับผู้ใหญ่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ปีศาจชอนซา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เมื่อหมอพุฒตาลเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เธออยู่เป็นนานสองนาน เพื่อประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับอาการของมารดาเตชิน เวลานี้คือต้องทำบอลลูนหัวใจอย่างเดียว และผู้สูงอายุจะได้ไม่เจ็บมากคน ป่วยต้องนอนรอประมาณหกชั่วโมงถึงจะเข้าห้องผ่าตัดได้ ระหว่างที่หมอกำลังดูอาการมารดาของพวกเขาอยู่นั้น เตชิตเตชินและนีน่าก็นั่งรออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน เตชิตและภรรยาเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากเตชิน เขาไม่รอช้ารีบขับรถมาที่โรงพยาบาลทันที สักพักก็มีพยาบาลเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน

“ใครเป็นญาติของคุณกัลยา จิรายุพาณิชย์คะ” เนื่องจากว่าอยู่หน้าห้องฉุกเฉินมีกันหลายคน พยาบาลจึงเอ่ยถามขึ้น เตชินและเตชิตรีบเดินเข้ามาใกล้ทันที

“แม่ของพวกเราเป็นยังไงบ้างครับคุณพยาบาล”

“ขอเชิญญาติไปพบกับคุณหมอพุฒตาลที่ห้องด้วยค่ะ เดี๋ยวหมอพุฒตาลจะเป็นคนชี้แจงอาการของคุฯกัลยาเอง” เตชิตและนีน่าหันหน้าเข้าหา และสบตากันทันที หมอพุฒตาลที่ว่าใช่ภรรยาของเตชินหรือเปล่า นั่นคือคำถามที่ไม่กล้าเอ่ยออกไป สองสามีภรรยาได้แต่เก็บเอาไว้ในใจ แล้วไปลุ้นที่ห้องของหมอสาวดีกว่า เตชิตและภรรยาเดินตรงไปยังห้องของหมอพุฒตาลตามที่พยาบาลบอก ในใจก็ลุ้นว่าขอให้เป็นหมอพุฒตาลทีเถอะ โดยมีเตชินเดินตามหลังไปติดๆ ชายหนุ่มไม่พูดไม่จาอะไร เพราะเขารู้อยู่แก่ใจแล้วว่า หมอพุฒตาลที่พยาบาลบอกมาคือผู้หญิงที่เคยเป็นภรรยาของเขาอย่างแน่นอน

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงประตูดังขึ้น ก่อนที่จะมีคนเดินเข้ามา หมอพุฒตาลกำลังก้มดูโทรศัพท์ระหว่างที่ประเมินสถานการณ์คนไข้ เธอได้เงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะพบกับนีน่าเตชิตและเตชิน

“หมอตาลพี่คิดถึงหมอตาลที่สุดในโลกเลย” นีน่าวิ่งเข้าไปสวมกอดหมอพุฒตาลที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ หมอพุฒตาลเองก็รีบลุกขึ้นสวมกอดนีน่าเช่นกัน การกระทำทั้งสองอยู่ภายใต้สายตาของเตชิตเตชิน เตชินไม่กล้าแม้แต่จะสบตามองหน้าหมอสาว เขายังคงโฟกัสสายตาไปที่อื่น แต่ภายในใจลึกๆ แล้วรู้สึกอิจฉานีน่าเหลือเกิน ที่เธอได้เข้าไปสวมกอดหมอพุฒตาลแบบนั้น นีน่าผละอ้อมกอดนั้นออก ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ หมอพุฒตาล ส่วนเตชิตเตชินนั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้านหน้าข้างๆ เตียงผู้ป่วยในห้องตรวจของหมอ

“พี่ขอถามนอกเรื่องแป๊บหนึ่งนะหมอตาล ไปอยู่ที่โน่นเป็นยังไงบ้างตั้งหลายปี” เตชินอยากจะขอบคุณพี่สะใภ้เหลือเกิน คำถามนี้เขาอยากเป็นคนถามเธอด้วยตัวเอง แต่ก็รู้ว่าคงไม่มีโอกาสได้ถาม

“ตาลสบายดีค่ะ หมอต้นดูแลเป็นอย่างดี จนตาลคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง เขาทำทุกอย่างให้ตาลในช่วงที่ไม่สบายฟื้นฟูร่างกายอยู่ จนตอนนี้หายดีแล้ว เขาก็ยังคงทำอยู่สม่ำเสมอค่ะ” หมอพุฒตาลพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้กับนีน่า คำตอบของหมอสาวมันช่างเหมือนหอกทิ่มแทงลงมาที่ใจของเตชิน เห็นหน้าแต่ไม่สามารถพูดคุยกันได้ ไม่สามารถเข้าไปกอดได้ ไม่สามารถที่จะเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว มันรู้สึกแย่ไปหมดสำหรับเตชินในเวลานี้ เมื่อหมอพุฒตาลพูดถึงชายอื่นอย่างชื่นชม ราวกับเขาเป็นเทพบุตรในใจของเธอก็ไม่ปาน

การเปลี่ยนแปลงของเตชิน หมอสาวสังเกตได้ เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ดูสุขุมไม่เหมือนชายเจ้าสำราญเหมือนดังแต่ก่อน ดูเขาไม่รีบร้อน และควบคุมอารมณ์ได้ดี แต่ร่างกายกำยำดูซูบผอมลงไปมาก ถึงกระนั้นความหล่อเหลาก็ยังคงมีให้เห็น แววตาที่ไม่วอกแวก กับใบหน้าที่เรียบเฉย หมอสาวไม่สามารถเดาได้เลยว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่

“ถ้าอย่างนั้นตาลจะขอเข้าเรื่องเลยนะคะ คุณแม่เอ่อ..หมายถึงคุณกัลยา จิรายุพาณิชย์” หมอสาวเผลอตัวเรียกมารดาเตชินว่าแม่ จนทำให้เธอต้องแหงนหน้าขึ้นมา สายตาของทั้งคู่ได้สบตากันอีกครั้งในรอบห้าปี แม้แค่สบตาไม่กี่วินาที แต่ภายใต้แววตาของคนทั้งคู่มีเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่ ที่ไม่อาจเอื้อนเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้เมื่อทุกอย่างมันได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว

“เรียกแม่เถอะหมอตาล ยังไงเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน พวกเราทุกคนยังคิดว่าหมอตาลเป็นคนในครอบครัวเสมอนะ” นีน่ารีบพูดออกมา ส่วนหมอพุฒตาลไม่พูดอะไรเพียงแค่ส่งยิ้มบางๆ ให้กับนีน่าไป

“แล้วมันแตกต่างกันยังไงหมอตาล” เตชิตเอ่ยถามบ้าง เมื่อเกิดความสงสัยเ พราะเขาอยากให้มารดาหายและเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพื่อให้นางเจ็บน้อยที่สุด “การทําบอลลูนหัวใจ คือการขยายหลอดเลือดหัวใจให้กว้างขึ้น ทำให้เลือดสามารถไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ดีขึ้น โดยการนำอุปกรณ์ที่คล้ายกับบอลลูนเข้าไปในหลอดเลือด เพื่อดันไขมันในหลอดเลือดไปติดผนังเซลล์หลอดเลือด ซึ่งการผ่าตัดทำบอลลูนหัวใจใช้เวลาไม่นาน และแผลเล็กปลอดภัยต่อร่างกายผู้ป่วย” ในขณะที่หมอพุฒตาลบรรยาย เตชินก็จ้องมองมาที่เธออย่างไม่กะพริบตา เขารู้สึกทึ่งในความสามารถของผู้หญิงคนนี้เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด เธอก็ยังเป็นหมอพุฒตาลที่ยืนหยัด และอุทิศตนเพื่อคนอื่นเสมอมา

“แล้วการทำบายพาสล่ะหมอตาล” เตชิตเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยอีกครั้ง ในขณะที่เตชินยังคงจ้องไปที่ใบหน้างามของหมอสาวอย่างไม่วางตา ในยามที่เธอเผลอแบบนี้ เวลาที่ก้มมองจอเล็กๆ นั่น เธอดูมีเสน่ห์มากถึงมากที่สุดสำหรับเตชิน

“การทำบอลลูนหัวใจ จะมีข้อดีตรงที่ทำง่ายกว่าไม่ต้องผ่าตัด ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการทําบายพาส ใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่า และมีผลข้างเคียงน้อยกว่า แต่ว่าการทำบอลลูนหัวใจอาจจะกลับมามีอาการซ้ำได้อีก ส่วนการทำบายพาสมีขั้นตอนยุ่งยากมากกว่า ค่ารักษาที่สูงกว่า และพักฟื้นนานกว่า และผลข้างเคียงในการรักษามากกว่า แต่โอกาสกลับมาป่วยซ้ำน้อยกว่า”

“ให้แม่ทำบอลลูนเถอะพี่ ผมไม่อยากให้แม่เจ็บมาก” เตชินเอ่ยขึ้น เมื่อหมอพุฒตาลพูดจบ นั่นคือประโยคยาวที่สุดประโยคที่สองของเตชิน หลังจากที่เข้ามาอยู่ในห้องนี้ คำพูดและน้ำเสียงของเขานั้นดูอ่อนโยนและนุ่มนวล เขารู้สึกเป็นห่วงมารดา และกลัวว่ามารดาจะเจ็บมากพักหลังสี่ห้าปีมานี้ เตชินไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน ส่วนมากเขาจะคลุกคลีอยู่กับผู้เป็นมารดา ทำให้ความสัมพันธ์ของสองแม่ลูกดีขึ้น และสนิทสนมกันมากขึ้นความห่วงใยให้กันจากที่มีอยู่แล้วก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

“ตกลงครับหมอตาล ทำบอลลูนให้แม่ได้เลย” เตชิตพูดขึ้นหลังจากที่ไตร่ตรองถ้วนถี่ดีแล้ว เมื่อสรุปอาการของมารดาเรียบร้อยทุกคนก็เดินออกมาจากห้อง รวมทั้งเตชินด้วย ก่อนไปเขาเหลือบไปหมอสาว หมอพุฒตาลเองก็อดที่จะเงยหน้าไปมองเขาไม่ได้เช่นกัน ไม่มีคำพูดใดๆ เปล่งออกมา นอกจากความเจ็บปวดที่มีในใจ มันถูกเก็บซ่อนเอาไว้ผ่านม่านตาของคนทั้งคู่ ความรู้สึกของเตชินในเวลานี้คือกลัว เขากลัวว่าเขาจะเผลอตัวเผลอใจแอบไปหาหมอพุฒตาล ยิ่งได้เจอหน้าได้พบสบตา เขาก็ยิ่งโหยหาเธออยากเข้าไปกอดอยากโอบเธอมาซบที่อก อยากบอกว่าขอโทษกับเรื่องราวที่ผ่านมา ไม่มีคืนไหนที่เขานอนเต็มอิ่มสักคืน ตั้งแต่หมอสาวจากไป แต่ในเวลานี้เขาทำได้เพียงแค่ข่มความรู้สึกนั้นเอาไว้ในใจ แล้วเดินออกจากห้องนี้ไปด้วยหัวใจที่ปวดร้าวทั้งดวงใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักหมอสาว