บทที่ 131 วิทยายุทธเหิงเลี่ยน
ศีรษะหลุดออกจากลำคอ แล้วร่วงหล่นลงบนพื้นอย่างเงียบเชียบ ฉากนองเลือดที่น่าสะพรึงกลัวพวกนี้ มักพบได้ในหนังเท่านั้น
แต่ตอนนี้พวกช่างกวนหวั่นหวั่นกลับได้เห็นด้วยสองตาของตัวเอง ภาพพวกนี้ช่างน่าสยดสยองและสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกยากอธิบาย
ทำได้เพียงยืนตกตะลึงราวกับหินแกะสลัก
เป็นอย่างนั้นอยู่กว่าห้าวินาที
“กรี๊ด” ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของ ช่างกวนหวั่นหวั่น ก็ดังขึ้น สีหน้าของเธอดูหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ร่างกายสั่นสะท้านอยู่ตลอดเวลา เผลอก้าวถอยไปข้างหลังโดยไม่รู้ตัว
ขาทั้งสองข้างของ หลินยง อ่อนแรงไปหมด เหงื่อไหลท่วมหน้าผาก แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพที่ดี เขาจึงมายืนอยู่ตรงหน้าของช่างกวนหวั่นหวั่น
“เวรเอ๊ย เหี้ย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้” เจี่ยงตงเก๋อกลัวจนแทบฉี่ราด เขายืนหลบอยู่ด้านหลังของไป๋ฉีทั้งที่ยังตัวสั่น ๆ
ม่านตาของไป๋ฉีหดเล็กเสียยิ่งกว่ารูเข็ม จ้องมองไปยังสวนกว้างในวัด ราวกับว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับศัตรูตัวใหญ่อย่างไรอย่างนั้น
ภายในเวลาไม่นาน ศีรษะบอดี้การ์ดทั้งห้าคนของช่างกวนหวั่นหวั่นก็ขยับไปมา หากเปลี่ยนเป็นเขา คงไม่มีทางที่จะฆ่าคนจนนองไปด้วยเลือดสด ๆ แบบนี้ได้
มีเพียงประโยคเดียวที่สามารถอธิบายได้ นั่นก็คือตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดระดับสูงที่สามารถฆ่าคนได้โดยไม่กะพริบตา!
ถึงแม้ว่าลู่เสี้ยงหยางจะไม่ได้เคลื่อนไหว แต่เส้นประสาทของเขาตึงเครียดเป็นอย่างมาก ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาสามารถพุ่งเข้าไปโจมตีได้ตลอดเวลา
ในขณะเดียวกัน สายตาของเขาก็ยังคงจับจ้องไปที่สวนขนาดใหญ่ของวัด เขามองเห็นไม่ค่อยชัดว่าเมื่อกี้นี้บอดี้การ์ดทั้งห้าคนถูกฆ่าอย่างไร!
ในตอนนั้นเองศีรษะของบอดี้การ์ดคนหนึ่งที่อยู่ข้างในสวนขนาดใหญ่ก็ร่วงหล่นลงบนพื้นอีกครั้ง เลือดสด ๆ กระฉูดพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ตั้งแต่ต้นจนจบบอดี้การ์ดคนนั้นไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้ส่งเสียงร้องด้วยซ้ำ
กึก!
ลู่เสี้ยงหยางกำหมัดแน่น เมื่อกี้นี้ในเวลาเพียงชั่วพริบตา เขาสามารถจับภาพเหตุการณ์นองเลือดอันมากมายนี้เอาไว้ได้
ดูเหมือนว่าจะมีวัตถุทรงกลมสีดำพุ่งเข้ามาพันที่รอบคอของบอดี้การ์ดคนนั้น หลังจากที่ออกแรงหมุนเบา ๆ คอของเขาก็ขาด จากนั้นศีรษะก็ร่วงหล่นลงบนพื้น
แต่เพราะวัตถุทรงกลมสีดำอันนั้นมีสีคล้ายกับสีสันในยามค่ำคืน จึงทำให้ไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจน สิ่งนี้ก่อให้เกิดภาพลวงตาพวกนั้นขึ้นมา ศีรษะของคนพวกนั้นจึงดูราวกับร่วงหล่นลงมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
เช่นเดียวกันนี้ หลังจากที่วัตถุทรงกลมสีดำนั้นแยกออกจากกันแล้วพันรอบคอของพวกบอดี้การ์ด ทันทีที่ออกแรงบิดเบา ๆ ก็สามารถเก็บเกี่ยวชีวิตของพวกเขาไว้ได้แล้ว
ด้วยเหตุนี้เองบอดี้การ์ดทุกคนที่รุดเข้าไปในสวนขนาดใหญ่ของวัดจึงถูกฆ่าตายจนหมด
ลู่เสี้ยงหยางสูดเอาอากาศเย็น ๆ เข้าไปในปอด ราวกับว่าเป็นนิสัยของเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดไม่ออก
ความเหี้ยมโหดของอีกฝ่ายอยู่เหนือกว่าความคาดหมายของเขามาก กล่าวได้ว่าพวกมันเป็นปีศาจที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา
ทันทีที่มองขึ้นไปทันใดนั้นก็เหมือนจะเห็นเงาสีดำยืนอยู่บนยอดสุดของอาคาร
ฟิ้ว!
เมื่อขยับมือส่องไฟฉายไปที่เงานั้น ก็พบว่าเป็นเงาร่างสีดำที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดพรางตัว เผยให้เห็นเพียงดวงตา ไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ของเขาได้อย่างชัดเจน
ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่ฆ่าบอดี้การ์ดของช่างกวนหวั่นหวั่นเมื่อกี้นี้
แต่คนที่ได้เห็นภาพฉากพวกนี้ต่างพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก ความหวาดกลัวภายในหัวใจก็ลดลงไปหลายส่วน
หลินยงหันไปพูดกับช่างกวนหวั่นหวั่นว่า “คุณหนูไม่ต้องกลัว พวกเราคนเยอะกว่า จะต้องจัดการเขาได้แน่”
เจี่ยงตงเก๋อกระโดดออกมา ชี้ไปที่เงาร่างสีดำบนหลังคาแล้วตะโกนว่า “แม่งเอ๊ย เป็นไอ้สารเลวที่มาจากไหนกัน กล้ามาแสร้งเป็นเทพปลอมเป็นผี ดูซิว่าคุณชายอย่างฉันจะจัดการแกยังไง”
ตอนที่ได้ยินเสียงตะโกนของเจี่ยงตงเก๋อ เงาร่างสีดำก็ยังคงไม่ขยับ ราวกับว่าเป็นเพียงรูปปั้นที่อยู่บนหลังคาอย่างไรอย่างนั้น
“อาจารย์ไป๋อยู่ที่ไหน” เจี่ยงตงเก๋อกวักมือเรียก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ