บทที่ 146 ทุกอย่างกลับตาลปัตร
หลิวผิงยืนอยู่ข้างหลังลู่เสี้ยงหยาง ดังนั้นตอนนี้เขาจึงถูกล้อมไปด้วย
แม้ว่าเขาจะเป็นถึงเจ้าพ่อวงการใต้ดินในเมืองปินเหอที่เคยผ่านอะไรมามากมายแล้วก็ตาม แต่พอถูกหลายๆคนล้อมเอาไว้ จึงเป็นครั้งแรก ที่เขาอดที่จะเครียดไม่ได้
ลู่เสี้ยงหยางวู่วามเกินไป ยังไม่ทันได้เรียกลูกน้องมา ก็บุกเข้ามาทะเลาะวิวาทกับหานเซ่าซวนแล้ว พวกเขามีกันแค่สองคน กลัวก็แต่ว่าจะสู้พวกลูกน้องของหานเซ่าซวนไม่ได้
“เฮ้อ ช่างเถอะๆ ตอนนี้ก็คงทำได้แค่เผ่นก่อน” หลิวผิงพูดในใจ
เย่สวนเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก จิตใต้สำนึกนึกเป็นห่วงลู่เสี้ยงหยาง กลัวว่าหานเซ่าซวนจะทำร้ายลู่เสี้ยงหยาง จึงรีบพูดกับหานเซ่าซวนว่า “คุณชายหาน นี่เป็นเรื่องของฉันกับลู่เสี้ยงหยาง คุณไม่จำเป็นต้องทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่”
หานเซ่าซวนส่ายหน้าแล้วพูดว่า “มันไม่ใช่แค่เรื่องของคุณกับลู่เสี้ยงหยางแล้ว ไม่กี่วันก่อน คนของลู่เสี้ยงหยางทำตัวหยาบคายกับผม มันเป็นความบาดหมางระหว่างเขากับผม ต้องเคลียร์วันนี้ให้เด็ดขาด”
พูดจบ หานเซ่าซวนก็ดีดนิ้วให้ลูกน้อง ออกคำสั่งว่า “ลุย”
“ครับ คุณชาย” ลูกน้องขานรับ จากนั้นก็ลงมือ
หานเซ่าซวนมีสีหน้าโหดเหี้ยม เขาดูออก ว่าเย่สวนยังตัดใจจากลู่เสี้ยงหยางไม่ขาด วันนี้เขาจะถือโอกาส กำจัดลู่เสี้ยงหยางออกไป แบบนี้ถึงจะไม่ต้องมีอะไรให้กังวลอีก
หานเซ่าซวนเอื้อมมือออกไปคว้าแขนของเย่สวน แล้วดึงเธอมาอยู่ข้างๆ เพื่อให้ช่องว่างแก่ลูกน้องในการจัดการลู่เสี้ยงหยางและหลิวผิง
การต่อสู้เริ่มขึ้น รอบข้างของลู่เสี้ยงหยางกับหลิวผิงก็มีคนของอีกฝ่ายบุกเข้ามาอย่างแน่นหนา
บนใบหน้าของลู่เสี้ยงหยางไร้ความรู้สึก เขาใช้แค่สองหมัดสู้กับคนพวกนี้
ตุบๆ!
เมื่อหมัดถูกซัดออกไป ลูกน้องสองคนก็ตัวปลิว ในระหว่างที่พวกเขาเซถอยหลัง ก็ชนพวกเดียวกันที่อยู่ข้างหลังล้มไปด้วย
ตุบๆ!
ทันใดนั้น ข้างหลังของลู่เสี้ยงหยางก็มีลมวูบหนึ่งพัดเฉียดผ่าน คู่ต่อสู้สองคนกำลังแกว่งมีดสปาต้าพุ่งตรงมาที่ลู่เสี้ยงหยาง
ขนบนตัวของลู่เสี้ยงหยางลุกวูบ ตามสัญชาตญาณต่อภัยอันตราย
ลู่เสี้ยงหยางแสยะยิ้ม เขาก้าวหลบราวกับมีตาหลัง จนสามารถหลบหลีกมีดจากฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย จากนั้นเขาก็หมุนตัวหันกลับมาอย่างกะทันหัน แล้วเหวี่ยงหมัดออกไป
ตุบๆ!
หลังจากเกิดเสียงดังตุบๆ คู่ต่อสู้สองคนนั้นก็ถูกอัดตัวปลิวจนถอยหลังเซทับพรรคพวกตัวเองอีกหลายคน
เมื่อเห็นว่าลู่เสี้ยงหยางเก่งกาจถึงขนาดนี้ คู่ต่อสู้ที่เหลือก็เริ่มตากระตุก หนังหัวเริ่มชา
เพราะความเก่งกาจของอีกฝ่าย พวกเขาเลยคิดจะถอย แต่ไม่นานก็คิดได้ว่า ลู่เสี้ยงหยางมีแค่คนเดียว ถ้าพวกเขารุมพร้อมๆกันยังไงก็เอาเขาตายได้
พวกเขาจึงรีบส่งเสียงตะโกน แล้วพุ่งเข้าใส่ลู่เสี้ยงหยางอย่างไม่ขาดสาย พื้นที่ว่างรอบกายของลู่เสี้ยงหยางถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็ว
รอบด้านรายล้อมไปด้วยลูกน้องของอีกฝ่ายจนแน่นขนัด มุ่งโจมตีมาทางเขา
ลู่เสี้ยงหยางสู้อย่างคล่องตัว จนหลิวผิงเหมือนคนกินแรงไปเลย
เขาถือไม้กระบองไว้ในมือ ฟาดไม้กระบองใส่คู่ต่อสู้ที่กำลังจะเข้ามาโจมตีเขา
แต่ว่าในตอนนี้เอง ก็มีผู้ชายหนวดครึ้มคนหนึ่งกระโดดออกมาจากฝูงคน แล้วเข้ามาประชิดด้านหลังของหลิวผิงด้วยความเร็ว เขายกหมัดขึ้น แล้วซัดเข้าที่กลางหลังของหลิวผิง
ทันใดนั้นหลิวผิงก็สัมผัสได้ถึงแรงมหาศาลกระทบเข้ามา จนตัวของเขาปลิวไปข้างหน้า วินาทีต่อมาก็ร่วงลงกับพื้น รู้สึกเจ็บตามจุดสำคัญบนร่างกาย จนเขาต้องซี๊ดปาก
“เฮ้ย พวกมึง ลุย! เอาไอ้นี่ให้ตายก่อน” คู่ต่อสู้ที่เพิ่งจู่โจมหลิวผิงตะโกนบอกพวก จากนั้นพุ่งเข้าไปหาหลิวผิงราวกับผึ้งแตกรัง
หัวใจของหลิงผิงเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง เขารีบกระเด้งตัวขึ้นมาด้วยกระบวนท่ามัจฉาปราณวารี ยังไม่ทันได้ยืนมั่นคง ก็ถูกคู่ต่อสู้ถีบล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
อันธพาลเจ็ดแปดคนยกมีดสปาต้าขึ้นมา แล้วเหวี่ยงมีดไปทางหลิวผิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ