บทที่ 270 นางมารร้ายอีกคน
หลังจากนั้นหนานกงชูหรานและลู่เสี้ยงหยางพูดคุยกันอยู่สักพัก ก่อนที่จะลุกออกไปรับแขก
ลู่เสี้ยงหยางนั่งลงอีกครั้ง โดยไม่สนใจคนรอบข้าง พลางทานอาหารคนเดียวลำพัง
ลู่เจี๋ยที่คุกเข่าอยู่อีกทาง เขาอยากจะตายไปซะตอนนี้ เหงื่อผุดขึ้นที่ขมับ เอ่ยกับลู่เสี้ยงหยาง “คะ คุณชายสาม กลับมาก็ดีแล้ว ช่วงที่คุณไม่อยู่ เราคิดถึงคุณมาก”
ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “งั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าฟังดูปลอมซะเหลือเกิน พวกแกหวังว่าฉันจะตายอยู่ข้างนอกไม่ใช่หรือไง? คงผิดหวังแย่เลยสิ”
บ้าเอ๊ย ทำไมถึงต้องพูดออกมาตรงๆ เช่นนั้น?
ลู่เจี๋ยเหลือแตกพรากไปทั่วร่าง ตัวสั่นเทา เอาหัวโขกกับพื้นเพื่อถ่ายโทษ “คุณชายสามเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่เคยมีความคิดแบบนั้นเลย”
ลู่เสี้ยงหยางยังคงหัวเราะไม่หยุดหย่อน “ไม่ต้องตื่นตูมไปหลอก ฉันหมายความถึงใครสักคนในตระกูล ไม่ได้บอกว่าเป็นแกสักหน่อย”
ตกใจหมด
ลู่เจี๋ยถอนหายใจอย่างโล่งอก
ลู่เสี้ยงหยางไม่อยากต่อความกับยาจกอย่างลู่เจี๋ยอีกต่อไป เขาหันไปทางเย่นเฟยอู่แทน พร้อมเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เมื่อกี้เธอบอกว่าอะไรนะ? จะเล่นงานฉันให้ตาย?”
เอ่อ!
สีหน้าของเย่นเฟยอู่เหยเกดูไม่ได้ แต่ในใจเธอกลับรู้สึกโกรธแค้นอยู่เช่นเคย ต่อให้แกเป็นคุณชายสามแล้วยังไง? ส่วนลึกแล้ว แกมันก็แค่ไอ้โรคจิต ผู้ชายน่าสมเพช
“คุณชายสามฟังผิดไปแล้ว ฉันไม่เคยว่าอย่างงั้นเลย” เย่นเฟยอู่กลับกลอก กะพริบตาใส่ลู่เสี้ยงหยาง
ฮ่าฮ่า แกเป็นคุณชายสามแล้วยังไง ฉันไม่ยอมรับซะอย่าง แกจะทำอะไรฉันได้? ยังไงซะสำหรับฉัน แกมันก็แค่ผู้ชายน่าสมเพช ไม่ช้าก็เร็วฉันจะเอาแกให้ตาย
ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะออกมาโดยไม่เอ่ยใดๆ ไม่มีเวลาที่จะเสียกับนังหนูน้อย
“อ้าว น้องชาย ในที่สุดก็กลับมาจนได้ ช่วงที่นายไม่อยู่บ้าน เราคิดถึงนายมากเลย” เสียงที่เต็มไปด้วยความยินดีของชายหนุ่มดังขึ้นอีกครั้ง ลู่เซี่ยงหลงมุ่งไปที่ลู่เสี้ยงหยางอย่างเร่งรีบ
เมื่อเห็นลู่เซี่ยงหลง สายตาของลู่เสี้ยงหยางเย็นชาขึ้นมาทันที
ลู่เซี่ยงหลงเป็นลูกชายของคุณลุง เมื่อตอนที่คุณลุงขึ้นเป็นผู้นำของตระกูล เขาตั้งใจกลั่นแกล้งตนและมารดาอยู่เสมอ
จนท้ายที่สุด เขาและมารดาถูกขับไล่ออกจากตระกูลก็เป็นฝีมือของเขาเป็นเช่นเดียวกัน
แต่ไม่พูดไม่ได้เลย ลู่เซี่ยงหลงเป็นคนเจ้าแผนการ ตอนนี้บิดาของเขาเป็นผู้นำตระกูล เขาเองก็มีทีท่าเปลี่ยนไป มักจะประจบสอพลอลู่เสี้ยงหยางเสมอ
ลู่เสี้ยงหยางไม่ตอบรับคำชายหนุ่ม
ลู่เซี่ยงหลงยังคงฉาบไปด้วยรอยยิ้มไม่จาง เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของลู่เสี้ยงหยาง พร้อมเอ่ยถามอย่างเสแสร้ง “น้องชาย ช่วงที่อยู่ข้างนอกคงลำบากมามาก พี่ชายอย่างฉัน เป็นห่วงนายมาก แต่จะว่าไป ได้ข่าวว่านายอยู่ข้างนอกก็สร้างชื่อใช่ย่อย นายนี่มันเป็นตัวอย่างของคนรุ่นหลังอย่างเราจริงๆ รุ่นหลังของตระกูลเราต้องเอานายเป็นตัวอย่างแล้วล่ะ”
คำยกยอเช่นนี้ หากเป็นคนอื่น ฟังแล้วคงรู้สึกภาคภูมิใจ แต่สำหรับลู่เสี้ยงหยาง เขารู้สึกสะอิดสะเอียน
“พี่ใหญ่ เราต่างก็ยังหนุ่มยังแน่น ไม่ได้คิดแบบนั้นก็ไม่ต้องพูดออกมาหลอก เราต่างก็รู้ดี ว่าเราทั้งคู่มีความสัมพันธ์ยังไง” ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยเสียงเรียบ
ลู่เซี่ยงหลงหน้าชา แต่ก็ยังเผยรอยยิ้มอยู่อย่างนั้น
แต่ในใจเขากลับโกรธแค้นเกลียดชัง
บ้าเอ๊ย! ลู่เสี้ยงหยาง แกคิดว่าพ่อแกเป็นหัวหน้าตระกูล แล้วฉันจะทำอะไรแกไม่ได้ใช่ไหม? คอยดูแล้วกัน คืนนี้ฉันจะทำให้แกป่นปี้ย่อยยับ
ชายหนุ่มยังคงยิ้มสู้ ลู่เซี่ยงหลงเอ่ยกับลู่เสี้ยงหยาง “น้องชาย พี่ชายอย่างฉันแต่งงานแล้ว ฉันจะแนะนำพี่สะใภ้แกให้รู้จัก” เขาเอ่ยพลางโบกมือไปยังที่ไม่ไกลนัก ก่อนที่หญิงสาวคนหนึ่งจะเดินเข้ามา
หญิงสาวอายุสามสิบกว่า หน้าตางดงาม รูปร่างดี ประดับด้วยแบรนด์เนมทั้งร่าง
เซี่ยตงเสว่
ภรรยาของลู่เซี่ยงหลง
“เซี่ยงหลง มีอะไร? เรียกฉันมามีเรื่องอะไร?” เซี่ยตงเสว่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ