บทที่ 276 การวางแผนอันแนบเนียน
ลู่เสี้ยงหยาง รู้สึกอึ้งกับเรื่องที่เซี่ยตงเสว่และลู่เซี่ยงหลงพูด สุดท้ายเขาก็ไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระกับคนซื่อบื้อ สองคนนั้น เขาหันหน้าไปมองลู่เซี่ยงหยุนและถามว่า “พี่รอง นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เรื่องที่พวกเขาพูด มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ลู่เซี่ยงหยุนจ้องเขม็งลู่เสี้ยงหยาง แล้วถามว่า “นายไม่รู้จริง ๆ หรอกหรือว่าเมื่อคืนนายทำอะไรลงไป?”
ลู่เซี่ยงหยางพูดด้วยความสงสัยว่า “ผมไม่ได้ทำเรื่องอะไรเลย เมื่อคืนผมไปร้องเพลงที่ KTV กับพี่ พอพี่เมาผมก็พาพี่กับพี่สะใภ้รองไปส่งที่บ้าน จากนั้นผมก็กลับไป.....”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยค เซี่ยตงเสว่ก็ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ช่างเป็นข้อแก้ตัวที่น่าฟังเสียจริง ๆ นายลองถามคนที่อยู่ตรงนี้ว่าพวกเขาเชื่อหรือไม่?”
สิ่งที่ลู่เสี้ยงหยางเกลียดที่สุดคือการถูกใส่ร้าย เขาโกรธขึ้นมาทันที แล้วพูดว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ทางที่ดีวันนี้พี่ต้องพูดเรื่องนี้ให้มันชัดเจน อย่าพูดจาวกไปวนมา”
“ เฮ่อ ๆ” เซี่ยตงเสว่หัวเราะ แล้วพูดว่า “แค่นี้ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แสดงว่าได้ทำเรื่องไม่ดีไว้จริง ๆ”
ผู้อาวุโสทั้งหลายของตระกูลลู่ต่างหยักหน้า และเห็นด้วยกับการคำพูดของเซี่ยตงเสว่นั้นว่าถูกต้องแล้ว
ลู่เสี้ยงหยางได้ทำเรื่องที่น่าอับอายไว้ เมื่อเห็นว่าเรื่องที่ทำกำลังจะถูกเปิดเผย ก็เลยแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวเพื่อกลบเกลื่อนความผิด
วางหยู่รู้สึกอับอายขายหน้ามาก เธอก้มศีรษะลง และหลั่งน้ำตาอย่างเงียบ ๆ เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ เธอต้องใช้ความกล้ามากกว่าที่คิด และเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง อันที่จริงเธอไม่ควรเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ให้สามีฟัง
เมื่อมองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง ที่ทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร ไม่รู้สึกสำนึกผิดใด ๆ ทำให้ลู่เซี่ยงหยุนโกรธจนควบคุมสติไม่อยู่ จ้องเขม็งไปที่ลู่เสี้ยงหยาง แล้วตะโกนว่า “ฉันให้โอกาสนายแล้ว แต่นายยังจะปกปิดมันไว้ นายเห็นฉันลู่เซี่ยงหยุนเป็นคนโง่เง่าใช่ไหม?”
อันที่จริง เมื่อเขาพูดออกไปแบบนั้น ในใจเขารู้สึกโศกเศร้ามาก เพราะเขาไม่เชื่อว่าลู่เสี้ยงหยางจะทำเรื่องแบบนี้ได้ แต่ว่า เรื่องนี้ภรรยาของเขาเป็นคนบอกเขาเอง ภรรยาของเขาประสบเหตุการณ์นี้ เป็นผู้เสียหาย เพราะฉะนั้นมันไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะไม่เชื่อเธอ
ลู่เสี้ยงหยางตัวสั่นสะท้าน เพราะว่าเขาไม่เคยเห็นลู่เซี่ยงหยุนโกรธขนาดนี้มาก่อนเลย
ลู่เซี่ยงหลงถอนหายใจยาว สีหน้าแสดงถึงความเจ็บปวดอย่างมาก เขามองลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดว่า “วางหยู่เธอเป็นพี่สะใภ้รองของนาย นายทำเรื่องบ้าคลั่งเช่นนี้ได้ยังไง ทำให้เธอต้องมีมลทิน แล้วต่อไปเธอกับพี่ชายรองจะใช้ชีวิตอยู่กันยังไง?”
อะไรนะ?
แม่ง! ผมทำให้พี่สะใภ้รองมีมลทิน?!
ดวงตาของลู่เสี้ยงหยางเบิกกว้างขึ้นมาทันที และในที่สุดเขาก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดว่าเป็นมายังไง คนเหล่านี้เข้าใจผิดคิดว่าเขาได้ทำสิ่งที่เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะแสดงความโกรธเคืองเช่นนี้
“ฉิบหาย ลู่เซี่ยงหลง แม่งนายอย่าพูดจาไปเรื่อย ผมทำเรื่องแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”ลู่เสี้ยงหยางแทบจะทนไม่ได้ อยากเดินไปตบปากลู่เซี่ยงหลงสักที เรื่องแบบนี้พูดมั่วได้ยังไงกัน?
ลู่เซี่ยงหลงทำเสียง ฮึ่มในลำคอ แล้วพูดว่า “เรื่องนี้ความผิดชัดเจน มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด นายไม่ต้องแก้ตัวเลย ถึงแม้ว่านายจะพูดจนปากฉีก ก็ไม่สามารถหนีความจริงไปได้”
ฮ่าๆๆ ตอนนี้ทุกคนในตระกูลเชื่อว่าลู่เสี้ยงหยาง เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ทำให้พี่สะใภ้รองมีมลทิน ถึงแม้ว่าเขาจะมีร้อยปากก็ไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนได้ จำต้องรับความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อไว้
แต่อย่างว่า แม่ง วางหยู่นั้นมีเสน่ห์และสวยงามจริงๆ ตัวเขาเองยังอยากลิ้มลองเป็นครั้งที่สอง
ลู่เสี้ยงหยางโกธรจนดวงตาแดงก่ำ เขากำหมัดแน่น และมองไปที่ลู่เซี่ยงหลง แล้วพูดว่า “มีหลักฐานครบ? แม่งไหนนายลองเอาหลักฐานมาให้ฉันดูสิ”
เซี่ยตงเสว่ “นี่มันเป็นเรื่องน่าอัปยศของตระกูล ดูแล้วนายเป็นคนที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันจะบอกให้นายรู้ นายจะได้ไม่ต้องแก้ตัวอีก วางหยู่พี่สะใภ้รองเป็นคนพูดกับพี่รองของนายเอง พวกเราแค่บังเอิญได้ยิน พี่สะใภ้รองเป็นผู้เสียหาย สิ่งที่เธอพูดไม่ใช่หลักฐานหรอกเหรอ?”
อะไรน่ะ? พี่สะใภ้รองพูดออกจากปากเองเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ