หนุ่มเศรษฐีลึกลับ นิยาย บท 297

บทที่ 297 คนจะไร้ศัตรูเมื่อต่ำต้อยที่สุด

เมื่อเผชิญหน้ากับการอ้อนวอนของหลินเสี่ยวเฟิง ลู่เสี้ยงหยางก็ไม่แยแสใดๆ

ในเวลานี้หากเปลี่ยนเป็นตนเองที่ได้รับการสั่งสอนจากสือเหล่าซาน หลินเสี่ยวเฟิงก็จะทำได้เพียงเติมเชื้อให้กับไฟเท่านั้น ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้ใจกว้างมากพอ เจ้าโง่หลินเสี่ยวเฟิงได้เหน็บแนมตนเองมาโดยตลอด ดังนั้นในตอนนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะสั่งสอนเขา

เขาโบกมือให้ชิวเจียงหั้วและชิวรั่วหานทันทีพลางพูดว่า “พวกเราไปกันเถอะ”

ชิวเจียงหั้วและชิวรั่วหานพยักหน้า แล้วเดินออกจากลานกว้างตามลู่เสี้ยงหยางไป

บรรดาผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ต่างพากันอยากตาย เสียใจที่เมื่อครู่พวกเขาตาไม่มีแววสักนิด ถ้ารู้ว่าลู่เสี้ยงหยางมีความสามารถมากมายเช่นนี้ตั้งแต่แรก พวกเขาคงจะคุกเข่าให้ลู่เสี้ยงหยางไปแล้ว ไหนจะกล้าเหน็บแนมเขาแบบเมื่อครู่

ระหว่างทางกลับบ้านของชิวรั่วหานและชิวเจียงหั้ว พวกเธอต่างจ้องมองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง

ลู่เสี้ยงหยางถูกมองจนรู้สึกอึดอัด เอามือลูบหน้าพลางถามว่า “หน้าผมมีอะไรเหรอ?”

“พี่เขย ไม่คิดเลยว่าพี่จะเจ๋งขนาดนี้ แม้แต่พวกนักเลงยังกลัวพี่เลย” ชิวรั่วหานพูดด้วยความเลื่อมใสอย่างที่สุด

ทันใดนั้นชิวเจียงหั้วก็นึกอะไรออกบางอย่าง เธอมองลู่เสี้ยงหยางแล้วถามอย่างอึกอักว่า “ตอนนี้คุณคงไม่ได้อยู่ในแก๊งค์มาเฟียใช่ไหม?”

ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้าแล้วพูดว่า “เปล่า ความจริงเหตุผลที่สือเหล่าซานนั่นกลัวผมก็เพราะว่าผมรู้จักกับหัวหน้าของพวกเขา เมื่อก่อนหัวหน้าของพวกเขาก็เป็นผู้ชายจนๆ เหมือนผม ต่อมาเขาเลือกที่จะอยู่ในแก๊งค์มาเฟีย ส่วนผมเลือกที่จะเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านอื่น แม้ว่าเราจะมีเส้นทางที่แตกต่างกัน แต่เราก็มีความสัมพันธ์ที่ดี”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ทั้งชิวเจียงหั้วและชิวรั่วหานก็ไม่ค่อยอยากเชื่อ แต่ลู่เสี้ยงหยางพูดได้อย่างเต็มปากเช่นนี้พวกเธอก็อดสงสัยไม่ได้เหมือนกัน

ชิวเจียงหั้วแอบถอนหายใจและรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เธอยังคิดว่าเป็นเพราะความสามารถของลู่เสี้ยงหยาง คิดไม่ถึงว่าเป็นเพราะอาศัยเพื่อนของเขา

ชิวรั่วหานรู้สึกค่อนข้างผิดหวังเช่นกัน ถ้าพี่เขยของเธอเก่งกาจแบบนั้นจริงๆ ก็ดีน่ะสิ

ต่อมา หลังจากส่งชิวเจียงหั้วและชิวรั่วหานกลับบ้านแล้ว ลู่เสี้ยงหยางก็กลับมาถึงบ้าน

ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในห้อง เย่สวนก็ตามเขาเข้ามา

พอเย่สวนเห็นสภาพภายในบ้านก็โมโหทันที

หลิวต้าจู้และครอบครัวของเขานั่งแทะเมล็ดแตงโมอยู่บนโซฟา เปลือกของมันกระจัดกระจายไปทั่วพื้นห้อง ห้องนั่งเล่นที่ลู่เสี้ยงหยางเก็บกวาดทำความสะอาดอย่างนี้ ตอนนี้ดูเหมือนเล้าหมู อยู่แทบไม่ได้เลย

“คุณลุง คุณป้า พวกคุณคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของพวกคุณเองที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจงั้นเหรอ?” เย่สวนพูดด้วยความโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง

จางกุ้ยจู๋หัวเราะเบาๆ ยังคงโยนเปลือกเมล็ดแตงโมทิ้งพลางกล่าวว่า “ก็ในบ้านมีเศษสวะคอยทำความสะอาดบ้านอยู่คนหนึ่งไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวให้เขามาทำความสะอาดก็เรียบร้อยแล้ว เรื่องแค่นี้เอง คุณมาโวยวายใส่พวกเราทำไม”

คำพูดนี้พูดออกมาได้อย่างหน้าชื่นตาบาน

เย่สวนโกรธจนควบคุมไม่อยู่ อยากจะโต้เถียงต่อ แต่ในเวลานี้หลิวจิ้งได้เดินเข้ามาจากทางด้านนอก เมื่อหลิวจิ้งเห็นเย่สวนสีหน้าไม่สู้ดีนักก็มองไปที่เปลือกเมล็ดแตงโมที่อยู่เต็มพื้นห้องนั่งเล่น พอจะเดาได้คร่าวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

หลิวจิ้งทำหน้าบึ้งแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ พวกคุณรักษาความสะอาดไม่เป็นเหรอ?”

จางกุ้ยจู๋ยิ้มพลางพูดว่า “ครอบครัวเดียวกัน พวกเราถือว่าที่นี่เป็นบ้านของเราเอง พวกเราอยู่ที่บ้านก็เป็นแบบนี้ แต่คุณไม่ต้องห่วง ฉันจะให้เศษสวะลู่เสี้ยงหยางมาทำความสะอาดห้องนั่งเล่นเดี๋ยวนี้”

หลิวต้าจู้นึกอะไรออกแล้วลุกขึ้นยืน มองหลิวจิ้งแล้วถามว่า “น้องสาว ห้าแสนที่เธอรับปากว่าจะให้เรายืมเป็นไงบ้าง?”

พอพูดถึงเรื่องเงินหลิวจิ้งก็รู้สึกหงุดหงิดใจ เธอโบกมือพร้อมกับพูดว่า “รออีกไม่กี่วัน ฉันกำลังคิดหาทางออกอยู่”

วันนี้เธอก็ออกไปเล่นไพ่นกกระจอกเช่นเคย ตอนแรกคิดว่าจะชนะได้กลับมาบ้าง แต่แล้วก็แพ้หมดตัวอีกครั้ง

เย่สวนไม่สามารถอดทนกับครอบครัวของหลิวต้าจู้ได้อีกต่อไป เธอโยนบัตรธนาคารใส่ตัวจางกุ้ยจู๋ “คุณป้า เงินที่พวกเราต้องการฉันหายืมมาได้แล้ว รหัสผ่านคือศูนย์ 6 ตัว ฉันจะซื้อตั๋วกลับบ้านให้พวกคุณพรุ่งนี้”

อะไรนะ? ได้เงินห้าแสนมาแล้วจริงเหรอ?!

หลิวต้าจู้ จางกุ้ยจู๋ และหลิวห้าวมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ความตื่นเต้นดีใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างไม่อาจอำพรางได้

หลิวห้าวหยิบบัตรธนาคารใส่กระเป๋าของตนเองก่อนจะพูดว่า “พ่อครับ แม่ครับ ให้ผมเก็บบัตรนี้ไว้สักสองสามวันก่อน พอกลับถึงบ้านผมค่อยคืนให้”

เขาคิดว่าจะหาโอกาสถอนเงินหลายหมื่นมาเป็นเงินค่าขนม ถ้าพ่อแม่ของเขาพบว่าเงินไม่เพียงพอ เขาโยนความผิดให้เย่สวนและบอกว่าเงินที่เธอให้นั้นไม่เพียงพอ

หลิวต้าจู้มักจะยอมตามใจลูกชายอยู่เสมอ เขาพยักหน้าตอบตกลง

แต่จางกุ้ยจู๋ชอบตัดสินสุภาพบุรุษด้วยหัวใจของคนต่ำต้อย เธอขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ถึงจะให้บัตรธนาคารมาแล้ว แต่พวกเราไม่รู้ว่าในนั้นมีเงินอยู่ห้าแสนหรือไม่ พวกเราจะนำออกไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”

เมื่อเธอเตือนเช่นนี้ หลิวต้าจู้ก็พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ใช่ๆๆ พวกเราต้องเช็คดูก่อนว่าในบัตรมีเงินห้าแสนหรือไม่ ถ้าพวกเธอโกหกพวกเรา งั้นเราก็ไม่เสียเปรียบแย่เหรอ”

หลิวห้าวรู้สึกมึนงง ทำได้เพียงมอบบัตรธนาคารให้กับมือจางกุ้ยจู๋อย่างง่ายๆ

จางกุ้ยจู๋และครอบครัวลุกขึ้นจากโซฟาพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกเราออกไปหาตู้เอทีเอ็มดูกันเถอะ”

เย่สวนรู้นิสัยของครอบครัวนี้มานานแล้ว จึงพูดขึ้นอย่างเฉยชา “ก็แล้วแต่พวกคุณ”

ขณะที่ครอบครัวของหลิวต้าจู้กำลังเดินออกไปทันทีที่เดินมาถึงประตู จางกุ้ยจู๋ก็หันกลับมาพูดว่า “เย่สวน เธอยังไม่ต้องซื้อตั๋วกลับบ้านให้พวกเรานะ พวกเรายังอยากอยู่เที่ยวเล่นที่เมืองปินเหออีกสักสองสามวัน จะกลับเมื่อไรเดี๋ยวพวกเราจะบอกเธออีกที แล้วเธอค่อยซื้อตั๋วให้พวกเรา”

เย่สวนโกรธหน้าเขียว ครอบครัวนี้ได้คืบจะเอาศอกจริงๆ ก่อนหน้านี้ก็ตกลงกันอย่างดิบดีแล้วว่า ทันทีที่ครอบครัวของพวกเขาได้เงินมาห้าแสนก็จะกลับบ้านทันที แต่มาตอนนี้กลับต้องการอยู่ต่อ ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะกำลังวางแผนชั่วร้ายอะไรอีก

หลังจากนั้นหลิวต้าจู้และครอบครัวก็ออกไปอย่างเร่งรีบ

เย่สวนมองไปที่หลิวจิ้งแล้วพูดว่า “แม่ดูสิ คนอะไร แม่ก็ไม่พูดสักคำ ฉันไม่สน ฉันทนพวกเขาไม่ได้อีกต่อไป ถ้าพรุ่งนี้พวกเขายังไม่ไปล่ะก็ ฉันจะย้ายออกไปจากที่นี่เอง ฉันทนมามากพอแล้ว”

หลิวจิ้งรู้สึกจนปัญญา “พวกเขาหน้าหนาทั้งบ้าน ฉันบอกแล้วว่าพวกเขาไม่ได้ใส่ใจคำพูดของฉันหรอก เฮ้อ ยังไงบ้านเขาก็คือญาติของเรา เราไม่สามารถขับไล่พวกเขาออกไปได้ คุณก็รู้ดี อย่าไปหาเรื่องปากของคุณป้า ถ้าเราไล่พวกเขาไปจริงๆ พอกลับถึงบ้านเกิด ก็ไม่แน่ว่าเธออาจจะพูดว่าบ้านเราเสียๆ หายๆ ได้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่สวนก็เงียบลง คุณป้าของเธอชอบสร้างข่าวลือมากที่สุดในบ้านเกิด เธอไม่ต้องการให้ครอบครัวของเธอถูกญาติพี่น้องในชนบทด่าลับหลังเพราะคำพูดมั่วซั่วของจางกุ้ยจู๋

ลู่เสี้ยงหยางที่อยู่อีกด้านหนึ่งยังคงนิ่งเงียบ แต่ก็แอบยิ้มเยาะอยู่ในใจ

เขาหยิบโทรศัพท์มือออกมาแล้วส่งข้อความไปหาถังหลง

ในเมื่อเย่สวนเกลียดครอบครัวของหลิวต้าจู้ขนาดนี้ พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมืองปินเหออีกต่อไป

“สวนเอ๋อ ไม่ต้องกังวล พรุ่งนี้เช้าพวกคุณป้าก็จะออกไป” หลังจากส่งข้อความ ลู่เสี้ยงหยางก็เก็บโทรศัพท์มือถือแล้วพูดกับเย่สวนด้วยรอยยิ้ม

เย่สวนรู้สึกปวดหัว เธอส่ายหน้าพลางพูดว่า “เป็นไปไม่ได้ ฉันจะไปหาบ้านทางอินเทอร์เน็ตเดี๋ยวนี้ พรุ่งนี้จะไปดูว่ามีบ้านหลังไหนที่เหมาะๆ ฉันจะย้ายออกไป”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ