บทที่ 302 แข่งกันว่าใครปรุงยาเป็น
ในไม่ช้า นักเรียนทุกคนก็เตรียมตัวปรุงยาจู้หลิงกันแล้ว
มีแต่ลู่เสี้ยงหยางแค่คนเดียวที่นั่งนิ่งไม่ขยับ ดูเหมือนจะไม่ได้เตรียมตัวปรุงยาจู้หลิงเลย
เมื่อเห็นพฤติกรรมแบบนั้น จางสู้ ฟ้านเจา และเซียวมู่ไป๋ พวกเขาได้แต่ปาดเหงื่อแทนลู่เสี้ยงหยาง
ไอ้หมอนี่กำลังทำอะไรอยู่ ไม่ได้ยินที่อาจารย์บอกว่าให้เริ่มปรุงยาเหรอ ทำไมถึงยังนั่งซื่อบื้ออยู่ได้?
หวังเจี้ยนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วพูดกับลู่เสี้ยงหยางว่า “เขยแต่งเข้ายังไงก็เป็นได้แค่เขยแต่งเข้าวันยังค่ำ ยังไงสักก็เป็นได้แค่คนไร้ค่า แม้แต่การเตรียมตัวปรุงยาก็ทำไม่ได้ คนอย่างนาย มีสิทธิ์อะไรมาว่าสูตรปรุงยาของอาจารย์มีปัญหา?”
“ฮ่า ๆ ๆ” มีนักเรียนไม่น้อยที่หัวเราะเยาะออกมา ไอ้เขยแต่งเข้าคนนี้ช่างอ่อนหัด ไม่เป็นอะไรสักอย่าง แต่เรื่องขี้โม้นี่เป็นที่หนึ่งเลย
กงหยู่หนิงส่ายหัว หมดความสนใจในตัวลู่เสี้ยงหยางอย่างสิ้นเชิง ที่แท้ไอ้หมอนี้เป็นคนประเภทละเลงขนมเบื้องด้วยปาก แล้วเรื่องที่มันโม้ ก็ผิดหมดทุกอย่าง
โจ่ฉิน ฮึ่ม ผ่านลำคอ ไม่รู้ว่าสถาบันนี้ตรวจสอบยังไง ถึงได้ให้คนไร้ค่าลู่เสี้ยงหยางเริ่มเรียนระดับสอง ทั้งที่เขาควรจะเริ่มเรียนที่ระดับหนึ่งมากว่า
แน่นอนว่าทุกคนไม่รู้ว่า ที่ลู่เสี้ยงหยางนั่งนิ่ง ไม่ใช่นั่งโง่ๆ แต่ในหัวของเขาได้คิดทบทวนขั้นตอนวิธีการปรุงยาจู้หลิงอีกครั้ง
ผ่านไปสิบนาที
ลู่เสี้ยงหยางได้ขยับตัวแล้ว เขาลงมืออย่างรวดเร็วจนตอนนี้เตาหลอมของเขาได้อุ่นแล้ว เตรียมใส่ส่วนผสมยาลงไป เพื่อให้ส่วนผสมยาหลอมเหลวต่อไป
ในจำนวนนักเรียนคนที่ไวสุด คือกงหยู่หนิง และฉินหยุนเฟย
สองคนนี้ปฏิบัติทุกขั้นตอนได้แม่นยำ และมีความชำนาญ
ฉินหยุนเฟยปรุงยาจู้หลิงตามสูตรของโจ่ฉิ่น
กงหยู่หนิงปรุงตามสูตรของตนเอง โดยเปลี่ยนหญ้าส่วยหลันเป็นหญ้าโยวหลันหัวแทนตามความเข้าใจของเธอ
เวลาผ่านไป
ผ่านไปยี่สิบนาที ส่วนผสมยาทั้งหมดของฉินหยุนเฟยก็หลอมเหลวแล้ว เตรียมตัวสู่ขั้นตอนที่สำคัญของการปรุงยาจู้หลิง
ฝั่งกงหยู่หนิง เนื่องจากเปลี่ยนสูตรยา ทำให้เวลาในการหลอมเหลวของยานานขึ้น
เนื่องจากหญ้าโยวหลันหัวมีฤทธิ์เย็น หลอมเหลวค่อนข้างยาก
เมื่อเป็นเช่นนั้น ฉินหยุนเฟยจึงปรุงยาเร็วที่สุดในห้อง และกลายเป็นจุดเด่นในห้อง
ฉินหยุนเฟยทำให้โจ่ฉินรู้สึกประหลาดใจ เธอเดินไปข้างกายเขา สังเกตดูทุกขั้นตอนในการปรุงยา
ยิ่งดูยิ่งรู้สึกชื่นชม ทุกขั้นตอนการปรุงยาของฉินหยุนเฟยไม่เกิดข้อผิดพลาดใด ๆ ไร้ที่ติ นี่คือพรสวรรค์ในการปรุงยา เหมือนกับว่าเขาเกิดมาเพื่อปรุงยาโดยเฉพาะ
“หลังจากวันนี้เขาจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคต” โจ่ฉินได้สรุปในใจ และได้ตัดสินใจแล้วว่า หลังจากนี้เธอจะทุ่มเทฝึกฝนฉินหยุนเฟย
บางทีในอนาคตเขาอาจจะเหนือกว่าตัวเธอ อาจกลายเป็นตำนาน เป็นปรมาจารย์ปรุงยา
เมื่อคิดเช่นนั้น ทำให้เธอคิดถึงคนไร้ค่าอย่างลู่เสี้ยงหยางอย่างช่วยไม่ได้
ชำเลืองมองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง เห็นเขาเพิ่งจะเริ่มหลอมส่วนผสม
ด้วยความเร็วและความคืบหน้าแค่นี้ ทำให้ฉินหยุนเฟยทิ้งห่างเขาไปมาก
ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าคนไร้ค่าคนนี้ ทำไมถึงกล้าพูดออกมาว่าสูตรยาของเธอมีปัญหา และพูดด้วยความหนักแน่นว่า ให้เปลี่ยนจากหญ้าส่วยหลันเป็นผลไม้ส่วยจิงแทน
ต้องรู้ว่า สูตรยาที่สืบทอดลงมานี้ ได้ผ่านการปรับปรุงแก้ไขจากคนนับไม่ถ้วน คือสูตรที่ดีที่สุด จะเป็นไปได้ยังไงกับคนที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างเจ้าหมอนี้ ที่สงสัยสูตรยานี้
“ฮึ รอให้เขาปรุงยาล้มเหลว คอยดูว่าฉันจะให้บทเรียนเขายังไง” โจ่ฉินตัดสินใจอย่างลับๆในใจ วันนี้จะทำให้ลู่เสี้ยงหยางขายหน้า และให้เขารู้ว่า ต่อจากนี้ไปการเรียนวิชาปรุงยา เขาไม่มีสิทธิ์สงสัยอะไร แค่ตั้งใจฟังก็พอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ