บทที่ 314 เผลอลงทุนไปสองแสน
ฉินหยุนเฟยโกรธจนจะระเบิด จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง จ้องลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดว่า:"ไอ้หนู นายอย่าได้คืบจะเอาศอก"
วันนี้ไม่ว่ายังไง ตนก็ไม่มีทางก้มหัวให้ขยะอย่างลู่เสี้ยงหยางแน่นอน ไม่งั้นล่ะก็ อนาคตตนเองก็อย่าคิดจะเป็นหัวหน้าห้องของห้องอีก
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มแล้วพูดว่า :"หรือว่านายอยากกลับคำ หรือว่า นายมันก็เป็นแค่คนที่พูดแล้วไม่รักษาคำพูด?"
พอประโยคนี้พูดออกมา สายตาของทุกคนก็ตกที่ฉินหยุนเฟย มีหลายคนไม่ชอบใจแล้ว
ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่า ฉินหยุนเฟยเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริง พูดอะไรทำอะไรก็กล้าพูดกล้าทำ แต่ไม่นึกเลยว่า พอเกิดเรื่องแล้วจริง ๆ ก็กลับคำยอมแพ้
ดูเหมือนนี่ไม่ใช่ท่าทีของหัวหน้าห้อง ที่พวกเขาคิดไว้
กงหยู่หนิงร้องฮึในจมูก จู่ ๆ ก็พูดขึ้นมา:"คุณชายฉิน ยังไงนายก็เป็นลูกผู้ชาย อย่ากลับคำตนเองล่ะ เสียชื่อเสียงของตนเองในห้องอีก"
สิ่งที่เธอเกลียดที่สุดในชีวิตก็คือคนเจ้าเล่ห์ที่พูดอย่างทำอย่าง ดังนั้นตอนนี้เธอถึงออกมาพูดอย่างยุติธรรมในชั้นมีคนตามจีบกงหยู่หนิงไม่น้อย ตอนนี้พวกที่ตามจีบเธอได้ยินสิ่งที่เธอพูด ก็ตามใจเธอทั้งหมด
"นั้นสิ คุณกงพูดถูก คุณชายฉิน ผมว่านายทำตามที่ตนเองสัญญาไว้เถอะ"
"ฮ่าฮ่า คุณชายฉิน พวกเราจะคอยดูว่านายสามารถทำตามที่พูดได้รึเปล่า"
"นั้นสิ มีแต่คนที่มีคุณธรรมสูงส่ง ถึงจะมีสิทธิ์เป็นหัวหน้าห้องของห้องเรา"
เยสเข้ !
เห็นฉากนี้ ฉินหยุนเฟยรู้สึกท้อแท้เล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาใช้หกแสนกว่า เลี้ยงเพื่อนทั้งห้องไปกินข้าวที่ร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง ก็เพื่อที่จะสนิทกับทุกคน สร้างภาพลักษณ์ที่สูงของตนเอง จะได้เป็นหัวหน้าที่ดีต่อไป
แต่ถ้าวันนี้กลับคำแล้วจริง ๆ ไม่รักษาคำพูด ถ้างั้นความพยายามก่อนหน้านี้ทั้งหมดก็จะสูญเปล่า
แต่ให้เขาลอดหว่างขาของไอ้ขยะคนนี้ แล้วเรียกอีกฝ่ายว่าปู่อีก มันทรมานกว่าฆ่าเขาจริง ๆ
แม่งเอ้ย ต้องทำไงเนี่ย?ฉันจะทำยังไงดี?
ฉินหยุนเฟยเครียดมาก หันหน้าไปมองหวังเจี้ยน ดูว่าหมอนี้จะมีวิธีอื่นรึเปล่า
หวังเจี้ยนก็อึดอัดมาก เห็นว่าฉินหยุนเฟยกลายเป็นเป้าหมายของทุกคนอย่างรวดเร็ว เขาไม่กล้ายืนออกมา สู้กับเพื่อนทั้งห้องกับฉินหยุนเฟยแน่นอน
พอขำเสร็จ เขาก็พูดอย่างอึดอัดว่า:"พี่หยุนเฟย พนันแพ้แล้วไม่เท่าไหร่ ขอแค่ทำตามที่ตนเองสัญญาไว้ นั้นก็คือลูกผู้ชาย"
…...เยสแม่ง ! ลูกผู้ชายเหี้ยไรล่ะ ลูกผู้ชายสามารถลอดหว่างขาคนอื่น แล้วเรียกคนอื่นว่าปู่เหรอ ?
ฉินหยุนเฟยเกือบจะลงมือตบหวังเจี้ยน เชี่ย เป็นขยะที่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำจริง ๆ คนแบบนี้ อนาคตห้ามเป็นคนติดตามของตนเองเด็ดขาด
ไป๋หมิ่นหมิ่นก็จิตใจพะว้าพะวัง รู้สึกใจร้อนมาก หัวสมองหมุนอย่างรวดเร็วต้องหาวิธี
หลังจากนั้น จู่ ๆ เธอก็ตบขา มองฉินหยุนเฟยแล้วพูดว่า:"พี่หยุนเฟย ไอ้ขยะลู่เสี้ยงหยางก็แค่ให้วัตถุโบราณที่มีราคาห้าแสนเองไม่ใช่เหรอ?นี่มันมีอะไรน่าอวด ซองที่นายให้เมื่อกี้ ก็แค่เรียกน้ำย่อย ซองข้างหลังนายยังไม่ได้ให้เลย"
ฮ่าฮ่า ในเมื่อซองหนึ่งแสนหยวนสู้วัตถุโบราณของลู่เสี้ยงหยางไม่ได้ งั้นก็ให้ซองใหญ่ ๆ อีก แบบนี้ก็สู้ลู่เสี้ยงหยางได้แล้วนี่ ไม่เชื่อว่าลู่เสี้ยงหยางยังสามารถหาวัตถุโบราณในนี้ออกมาได้อีก
ฉินยุนเฟยตาเป็นประกายทันที นั้นสิ ง่ายขนาดนี้ ทำไมตัวเองถึงนึกไม่ออก?
ฮ่าฮ่าฮ่า ก่อนหน้านี้ตนเองไปกินข้าวที่ร้านอาหาร เงินไม่พอ เลยไปขอหนึ่งร้อยล้านจากพ่อมา ตอนนี้ในมือยังมีแปดแสนกว่า แค่เศษ ก็สู้วัตถุโบราณห้าแสนของลู่เสี้ยงหยางได้แล้ว
พอคิดได้ ก็มีรอยยิ้มที่มีชีวิตชีวาร่าเริงกลับมาบนหน้าฉินหยุนเฟย มองลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดว่า:"ไอ้หนู วันนี้ข้าจะต้องให้นายลอดหว่างขากูไปให้ได้ แล้วเรียกกูว่าปู่"
พูดจบ เขาก็ยิ้มให้กับเซียวกวางฮุยแล้วพูดว่า:"ลุงเซียว ต่อไปผมยังมีของน้ำใจจะให้ลุงอีก"
พอพูดจบ เขาก็ชะงัก มองลู่เสี้ยงหยางอย่างท้าทายแล้วพูดว่า:"ต่อไป ผมเตรียมลงทุน10ล้าน ลงทุนร้านที่ลุงเซียวเปิด ก็ถือว่าเป็นของขวัญที่ผมให้ลุงเซียว"
ประโยคนี้ฟังแล้วไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่ก็ไม่มีอะไรจะว่าได้ ร้านอาหารเพิ่งเปิด หาคนลงทุนยากมาก ฉินหยุนเฟยลงทุน10ล้านในตอนนี้ กลับมีความกล้าหาญมาก
ว้าว !
ที่นี่แตกตื่นกันหมดทันที ฉินหยุนเฟยลงทุนหนึ่งแสนให้กับร้านอาหาร ดูแมนมากจริง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ