บทที่ 384 ไอ้เศษสวะ – ตอนที่ต้องอ่านของ หนุ่มเศรษฐีลึกลับ
ตอนนี้ของ หนุ่มเศรษฐีลึกลับ โดย เมฆทอง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 384 ไอ้เศษสวะ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 384 ไอ้เศษสวะ
อะไรนะ? ยาทะลุแดนเป็นของปลอม?
ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ของหวังเจี้ยน ทุกคนต่างจ้องไปที่เขา การแสดงออกบนใบหน้านั้นเต็มไปด้วยข้อสงสัย
เมื่อกี้นี้อาจารย์ก็พูดแล้วว่านี่คือยาทะลุแดน จะเป็นของปลอมได้ยังไง?
หรือว่าเจ้าหมอนี่ติดเชื้อลู่เสี้ยงหยางเสียแล้ว ถึงได้พูดแต่เรื่องเหลวไหล
จูหยู่เจินรู้สึกไม่พอใจทันที และจ้องไปที่หวังเจี้ยนพร้อมกับพูดว่า “คุณกำลังคัดค้านการตัดสินใจของฉันใช่ไหม?”
ถึงแม้ว่ายาทะลุแดนจะหาได้ยากมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าตนเองจะแยกแยะไม่ออก
หวังเจี้ยนตัวสั่นงันงกแล้วรีบอธิบายว่า : “อาจารย์ครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมเพียงแค่รู้สึกว่ายาทะลุแดนมีค่ามากเช่นนี้แล้วจะมาโผล่อยู่ในมือของลูกเขยแต่งเข้าบ้านได้ยังไง นอกจากนี้ หากคาดคะเนแล้วว่ายาทะลุแดนเป็นของจริง แล้วยังปรากฏอยู่ในมือของเจ้าเขยแต่งจริงๆด้วยเช่นกัน คุณคิดดูสิครับว่าเขาจะมอบให้คุณได้อย่างไร?”
ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา ทุกคนต่างก็เข้าสู่การไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง ก็จริงนะ ยาทะลุแดนล้ำค่าควรเมือง เพียงแค่เอาไปประมูลในงานประมูลราคาก็สามารถสร้างความมั่งคั่งให้ชนิดที่ยากจะจินตนาการได้
ลองนึกดูว่า ถ้าหากไอ้หนุ่มหน้าขาวที่เกาะผู้หญิงกินมียาทะลุแดนอยู่ในมือจริงๆจะใจดีนำมามอบให้อาจารย์เช่นนี้ได้อย่างไร
คิ้วโค้งงามได้รูปของจูหยู่เจินค่อยๆขมวดขึ้น เมื่อกี้นี้เธอตื่นเต้นมากจริงๆ จนคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีทั้งส่วนได้ส่วนเสียอยู่ในนั้น ได้ยินที่หวังเจี้ยนพูดในตอนนี้แล้ว เธอเองก็รู้สึกคลางแคลงใจ
เธอมักจะจัดการลู่เสี้ยงหยางอยู่บ่อยครั้ง แค่ลู่เสี้ยงหยางไม่เกลียดเธอก็ต้องขอบคุณสวรรค์แล้วล่ะ แล้วเขาจะมอบยาทะลุแดนที่มีล้ำค่าเช่นนี้ให้กับเธอได้ยังไง
ฉินหยุนเฟยเห็นว่าจูหยู่เจินรู้สึกลังเลขึ้นมาแล้ว เมฆหมอกบนใบหน้าของเขาก็อันตรธานหายไปและแทนที่ด้วยความภาคภูมิใจอย่างชั่วร้าย ฮ่าๆ เมื่อกี้นี้เจ้าเศษสวะลู่เสี้ยงหยางคนนี้ทำให้เขาตกใจกลัวจริงๆ เพราะคิดไม่ถึงเลยว่าคนโง่เง่าเช่นนี้จะมอบยาทะลุแดนให้กับอาจารย์ แต่ที่แท้ก็เป็นของปลอม
ให้ตายเถอะ เมื่อกี้นี้ทำเขาตกใจแทบตายจริงๆ
คิดถึงเรื่องเหล่านี้แล้ว ฉินหยุนเฟยถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วมองจูหยู่เจินพร้อมกับพูดว่า : “อาจารย์ครับ อย่าบอกนะว่า ลู่เสี้ยงหยางมีความตั้งใจจริงเป็นอย่างมาก เขาปลอมแปลงยาทะลุแดนได้เหมือนมาก ถ้าไม่ใช่เพราะความเฉลียวลาดของหวังเจี้ยน พวกเราทุกคนจะต้องถูกเจ้าโง่ลู่เสี้ยงหยางหลอกเข้าให้แล้ว”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว แทบทุกคนล้วนแต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความขุ่นเคืองต่อความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น
เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาเองก็เพิ่งจะเชื่อว่ายาที่ลู่เสี้ยงหยางหยิบออกมาคือยาทะลุแดนจริงๆ มันทำให้พวกเขาต้องขายหน้า
เมื่อเวลาผ่านไป เจ้าหมอนี่มันก็ไร้ยางอายเอายาทะลุแดนของปลอมมาแหกตาผู้คน
ดังนั้นในช่วงเวลานี้คนเหล่านี้จึงพากันพูดจาโจมตีลู่เสี้ยงหยางกันอย่างเซ็งแซ่
“แม่งเมิง! ไอ้เขยแต่งลู่เสี้ยงหยางนี่ แม้แต่คุณสมบัติพื้นฐานก็ยังไม่มีเลยจริงๆ เขากินดีหมีหัวใจเสือมาหรือไงถึงได้กล้าเอาของปลอมมาหลอกอาจารย์”
“ฮึ่ม โชคดีที่พวกเรารู้เรื่องเร็ว อาจารย์ยังไม่ได้กินลงไป ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาผลที่ตามมาจะต้องเลวร้ายจนไม่อาจคิด”
“แม่ง ไอ้เศษสวะ พวกเรามีคนชั้นต่ำแบบนี้เป็นเพื่อนร่วมชั้น จะต้องซวยไปแปดชั่วโคตรแล้วจริงๆ”
“ฮ่าๆ อาจารย์ ลู่เสี้ยงหยางใช้สินค้าขยะมาหลอกลวงคุณ นี่แปลว่าไม่เคยมีคุณอยู่ในสายตาเลยสิเนี่ย คุณอย่าให้อภัยเขาเรื่องนี้ครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ จูหยู่เจินก็เกิดความเดือดดาลมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เธอก้มหัวลงมองดูยาทะลุแดนในมือแวบหนึ่ง ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกไม่มั่นใจเสียแล้ว เพราะเธอเองก็ไม่มีวิธีตัดสินชี้ชัดลงไปว่านี่คือยาทะลุแดนจริงๆหรือเปล่า
แน่นอนว่าจากก้นบึ้งภายในหัวใจแล้ว เริ่มจากความรู้สึกของเธอ เธอไม่คิดว่าผู้ชายจนๆอย่างลู่เสี้ยงหยางจะสามารถตัดใจหยิบยาทะลุแดนที่มีค่าควรเมืองยื่นให้กับตนเองได้ น่าจะเป็นของปลอมมากกว่า
“ไอ้เศษสวะสมควรตาย แม้แต่อาจารย์ยังกล้าหลอกลวง ครั้งนี้ฉันจะไม่ยกโทษให้เขาเด็ดขาด ฮึ่ม พรุ่งนี้กลับไปโรงเรียน คอยดูว่าฉันจะจัดการเขาอย่างไร” จูหยู่เจินคิดในใจ
และในเวลานี้ ฉินหยุนเฟยเห็นว่าการโจมตีลู่เสี้ยงหยางของทุกคนเกือบจะเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่ตัวเขาจะเสแสร้งแล้ว
เขายิ้มและพูดกับจูหยู่เจินว่า : “อาจารย์ครับ ยาล้างกระดูกที่ผมมอบให้ยังคงเป็นของแท้สมราคานะครับ พวกเราทุกคนกำลังรอดูผลของยาล้างกระดูกอยู่นะครับ ไม่อย่างนั้นคุณก็กินยาเลยเถอะครับ”
ทันทีที่พูดออกมา หลายคนคุกเข่าประจบฉินหยุนเฟยอีกครั้ง
ลู่เสี้ยงหยางกวาดตามองของเหล่านี้และพูดอย่างไม่รู้จะทำเช่นไรดีว่า : “ที่วิลล่าไม่มีอะไรขาดแคลน ผมแนะนำให้พวกคุณนำของมีค่าไปด้วยนิดเดียวก็พอ”
เมื่อได้ยินลู่เสี้ยงหยางพูดเช่นนี้แล้ว เย่สวนและหลิวจิ้งจึงทำได้เพียงคัดกรองข้าวของที่พวกเธอค้นหาก่อนหน้านี้มาคัดกรองใหม่อีกรอบ
หลังจากพลิกไปมารอบหนึ่ง ก็มาถึงเวลาตีหนึ่งแล้ว
เมื่อถึงเวลาที่ลู่เสี้ยงหยางและเย่สวนเข้านอนก็เป็นเวลาใกล้จะตีสองแล้ว
ทั้งสองคนต่างอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก หลังจากกล่าวราตรีสวัสดิ์แล้วก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ลู่เสี้ยงหยางและคนอื่นๆเพิ่งจะตื่นนอน บริษัทรับขนย้ายก็มาถึงเรียบร้อยแล้ว
บริษัทรับขนย้ายเริ่มต้นย้ายสิ่งของภายใต้คำแนะนำของลู่เสี้ยงหยาง เย่สวน และหลิวจิ้ง
ลู่เสี้ยงหยางคิดว่าเช้านี้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเลยจะขอลาหยุด
แต่สิ่งที่ทำให้เขาอึ้งก็คือ ระหว่างที่คุยโทรศัพท์ จูหยู่เจินอาจารย์ประจำชั้นที่ท่าทีเย็นชากับเขาอย่างมาก แม้กระทั่งแสดงความรังเกียจตัวเขา
สิ่งนี้ทำให้ลู่เสี้ยงหยางงงงวยอย่างมาก
แม่งเอ๊ย เมื่อคืนนี้ฉันเพิ่งจะมอบยาทะลุแดนที่แสนล้ำค่าให้กับเธอไปนะ ทำไมห่างมาแค่ไม่กี่ชั่วโมง หญิงชราคงนี้ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้
ให้ตายเถอะ ถ้ารู้แต่แรกว่าหญิงชราคนนี้ยากจะรับใช้ด้วยขนาดนี้ จะไม่ให้ของดีอย่างยาทะลุแดนแก่เธอเลย
โดยที่หารู้ไม่ว่าการที่ลู่เสี้ยงหยางลาหยุดตอนเช้าวันนี้ ในมุมมองของจูหยู่เจินมองว่านั่นเป็นเพราะลู่เสี้ยงหยางมอบยาทะลุแดนปลอมให้กับตนเอง ดังนั้นจึงเป็นวัวสันหลังหวะ วันนี้จึงไม่กล้ามาโรงเรียนและพยายามใช้วิธีฉวยโอกาสในช่วงชุลมุนมาทำให้เรื่องนี้จางหายไป
“ฮึ่ม ไอ้เศษสวะ ฉันจะทำให้แกได้รู้ถึงจุดจบของการหลอกลวงฉัน รอให้แกมาโรงเรียนตอนบ่ายก่อนเถอะ ฉันจะทำให้ต้องอับอายขายขี้หน้าต่อหน้านักเรียนทุกคนในโรงเรียน” จูหยู่เจินที่อยู่ปลายสายพูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันทันทีที่วางสาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ