บทที่ 439 เครื่องมือทางธรรมกลั่นสำเร็จ!
ในหัวของลู่เสี้ยงหยางในตอนนี้ ปรากฏตัวอักษรเล็กๆ เต็มไปหมด ตัวอักษรเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้มีจำนวนเป็นหมื่นตัว เสมือนกับว่าลู่เสี้ยงหยางพกคำภีร์เอาไว้ในกระเป๋า
ลู่เสี้ยงหยางกวาดสายตาผ่านตัวอักษรเหล่านั้นอย่างเร็ว เขาเข้าใจทันใจ
ตัวอักษรเหล่านี้เป็นวิชาเวทย์ทั่วไป และเวทย์อีกมากมาย
ลู่เสี้ยงหยางตื่นเต้น ที่แท้ในครั้งนี้ หยกตอบแทนเขาด้วยวิชาที่น่ามหัศจรรย์ขนาดนี้เชียว
บัดนี้ในม่านแห่งการปฏิบัติ ปรากฏภาพไม้ดอกนับร้อยเต้นระบำ
มีทั้งวิชาเวทย์ วิชาบู๊ วิชาฮวงจุ้ย และลัทธิอภิปรัชญา
วิชาเวทย์ของหวาเซี่ยมีความคล้ายคลึงกับเวทมนตร์ของ ตะวันตก เมื่อทำการต่อสู้กับศัตรูสามารถทำได้โดยไม่ต้องเตรียมการใดๆ
ก่อนหน้านี้ลู่เสี้ยงหยางตั้งตารอที่จะมีโอกาสได้เรียนวิชาเวทย์ แต่ก็ไม่มีโอกาสเสียที แต่ไม่คิดเลย ในความผิดพลาดของวันนี้ เขาได้นับการบำเพ็ญวิชาเวทย์
ผ่านการบำเพ็ญวิชาเวทย์ ลู่เสี้ยงหยางรู้ดี การฝึกวิชาเวทย์วิ่งสำคัญ ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของจิตใจ เนื่องจากคาถาจำนวนมากจะปลดปล่อยออกมาโดยอำนาจจิต
ดีที่ก่อนหน้านี้ลู่เสี้ยงหยางบำเพ็ญนักกลั่นยา สำหรับนักกลั่นยาแล้ว ต้องใช้อำนาจจิตในการควบคุมการกลั่นยา เพราะงั้นอำนาจจิตจึงค่อนข้างแข็งแกร่ง
แถมลู่เสี้ยงหยางยังเป็นนักกลั่นยาระดับห้าอีกต่างหาก กำลังจิตจึงไม่อ่อนไหวง่ายๆ
เพราะแบบนี้ ลู่เสี้ยงหยางจึงสามารถเริ่มฝึกคาถาเวทย์ได้เลยโดยตรง ไม่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอนที่ที่ได้กล่าวเอาไว้ ที่ต้องฝึกอำนาจจิตก่อน เมื่ออำนาจจิตอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว ถึงจะเริ่มฝึกวิชาเวทย์ได้
ลู่เสี้ยงหยางนั่งลงที่ปลายเตียง เข้าสู่การฝึกเวทย์
ในขณะเดียวกัน สโมสรส่วนตัวระดับห้าดาวแห่งปินเหอ
สามในสี่ตระกูลใหญ่ก่อนหน้านี้ อันได้แก่ตระกูลจาง ตระกูลเหอ ตระกูลหลิน ผู้นำของแต่ละตระกูลนั่งทานอาหารด้วยกัน
ทั้งสามมีทีท่านอบน้อม บุคคลที่อยู่ตรงข้ามของทั้งสามคือโจวต้าวหย่วน
โจวต้าวหย่วนเลือกเมืองปินเหอเป็นก้าวแรกของการสร้างตัวที่แผ่นดินใหญ่ จึงต้องหาผู้สนับสนุนเป็นเรื่องธรรมดา
ตระกูลจาง ตระกูลหลิน และตระกูลเหอในปินเหอ ถือว่าเป็นตระกูลใหญ่ที่มีอำนาจในปินเหอ แต่หลังจากที่งัดข้อกับลู่เสี้ยงหยาง ถูกคนของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปเหยียบย่ำ ถูกปราบปรามอย่างถึงที่สุด ตอนนี้เขาดูไร้ความน่าเกรงขาม เหมือนแต่ก่อนเก่า
เดิมทีคนอย่างโจวต้าวหย่วนเขาไม่คิดที่จะแยแสตระกูลต่ำต้อยทั้งสามนี่ด้วยซ้ำไป แต่โจวต้าวหย่วนมีแผนการอยู่ในใจ เพราะงั้นทั้งสามจึงถูกเรียกตัวเข้าพบในคืนนี้
ในตอนนี้ โจวต้าวหย่วนกวาดสายตามองทั้งสาม พลันเอ่ยเสียงเรียบ “ทั้งสามท่าน แม้ว่าก่อนหน้านี้ผมจะอาศัยอยู่ที่ฮ่องกงมาโดยตลอด แต่เรื่องราวในแผ่นดินผมก็พอจะรู้อยู่บ้าง โดยเฉพาะชื่อเสียงของทั้งสามท่าน ผมได้ยินมาแต่ช้านานแล้ว และอยากทำความรู้จักด้วย แต่ไม่มีโอกาสที่เหมาะสม คืนนี้เป็นโอกาสดีที่เราได้พบกันและทำความรู้จักเป็นเพื่อนกัน”
ทั้งสามตื่นเต้นดีใจ เมื่อได้ยินประโยคนั้น ต่อให้เป็นช่วงที่ตระกูลรุ่งเรืองที่สุด ก็ไม่แน่ว่าจะได้รับความชื่นชมจากปรมาจารย์โจว
วิชาฮวงจุ้ยของปรมาจารย์โจวนั้นสะท้านฟ้าดิน ผู้ที่สามารถผูกมิตรกับเขานั้นต้องเป็นเศรษฐีร่ำรวยและมีอำนาจ พวกเขาต่างก็รู้ว่า แต่ก่อนในปินเหอ แม้ว่าพวกเขาจะมีหน้ามีตา แต่นอกเหนือจากปินเหอแล้ว นั่นคือคนตัวเล็กขี้ปะติ๋ว
แถมในเวลานี้ ก็จะหยุดยุคของตระกูลจาง ตระกูลหลิน และตระกูลเหอแล้ว มีสิทธิ์อะไรที่จะไต่เต้ามีความสัมพันธ์กับปรมาจารย์โจว
ขณะที่ใช้ความคิด พวกเขาทั้งสามต่างรู้ดี ว่านี่เป็นประโยคที่โจวต้าวหย่วนไว้หน้าพวกเขา การที่เขาพูดจาแบบนี้กับทั้งสาม ก็ให้เกียรติพวกเขามากพอแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ