ธนพัตกลับคิดไม่ถึงเลยว่าสาริศาจะรู้ที่มาของสร้อยนี้
แต่ในตอนนี้ เขาเองก็ไม่ได้สนใจขนาดนั้น เพียงแต่เอามือข้างหนึ่งมาจับข้อมือของสาริศา อีกมือก็โอบเอวของเธอ ในตอนนั้นเอง ระยะของทั้งสองคนมันก็ใกล้ชิดกันเป็นอย่างมาก
“สาริศา” เขาก้มหน้าลง พลางมองสาริศา เสียงก็มีความโกรธเล็กน้อยซ่อนอยู่ “ฉันจะบอกคุณให้นะ ว่าถ้าสร้อยเส้นนี้มันทำให้คุณตกอยู่ในอันตราย ฉันยอมทำลายมันทิ้งดีกว่า!”
ตอนแรกสาริศายังจับมือของธนพัตอย่างสติแตกอยู่เลย แต่เมื่อได้ยินคำนี้ เธอก็เหม่อนิ่งไป
ธนพัตหมายความว่าอย่างไรกันแน่?
เขา……ทำลายสร้อยเส้นนี้ เพื่อเธองั้นเหรอ?
แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร……สร้อยเส้นนี้เป็นสร้อยที่แฟนสาวคนเก่าที่เขาชอบให้เอาไว้ไม่ใช่เหรอ?มันสำคัญกับเขามากไม่ใช่เหรอ?แต่ทำไมถึงได้……
สาริศาแค่คิดว่า ในใจของตัวเองนั้น เหมือนกับมีอะไรสักอย่างอยู่ มันอยากจะผุดออกมาไม่หยุด มีบางอย่างที่ชัดเจนแล้ว แต่เธอกลับไม่กล้าเผชิญหน้า
เธอยังไม่ทันคิดอย่างละเอียด จู่ๆ ธนพัตก็เหมือนจะรู้สึกถึงอะไรได้ เลยจับคางของเธอขึ้นมา พลางขมวดคิ้วเป็นปมแล้วก้มหน้าลงมองเธอ “สาริศา ดวงตาของคุณเป็นอะไร?”
เมื่อครู่โกรธมากเกินไป เขาเลยไม่ได้สังเกต ว่าดวงตาของสาริศานั้นแดงเป็นอย่างมาก ในตอนนี้เขาเพิ่งจะสังเกตเห็น ไม่เพียงเท่านั้น แต่ดวงตาของเธอยังพร่ามัวอีกด้วย
เขาร้อนรนในทันที พลางรีบอุ้มสาริศามาวางบนเตียง ก่อนจะโบกมือไปมาต่อหน้าเธอ
สาริศาขมวดคิ้วเป็นปมทันที “คุณอย่าเห็นฉันเป็นคนตาบอดสิ ฉันมองเห็น แต่มองไม่ชัดเท่านั้นเอง”
“เห็นไม่ชัดงั้นเหรอ?” เสียงของธนพัตนั้นต่ำลงเป็นอย่างมาก “ให้ตายเถอะ ทำไมไม่ไปหาหมอสักทีล่ะ?”
พูดไป เขาก็ไม่ได้สนใจท่าทีของสาริศา ก่อนจะกดกริ่งเรียกหมอ
สาริศารู้สึกได้ว่าธนพัตในวันนี้เหมือนจะถูกกระตุ้นได้ง่ายมาก ไม่เหมือนกับเวลาทั่วไป แล้วก็หดคอเล็กน้อย “เพราะตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เริ่มเจ็บขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว”
ธนพัตนั้นขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม แถมยังลืมถามเรื่องที่เกิดขึ้นต่อ เพียงแต่เอามือใหญ่มาอังที่ด้านหน้าของสาริศา พลางพยายามจะบังคับให้เธอหลับตา “ไม่ต้องมองแล้ว รอหมอมาก่อน”
สาริศานอนอยู่บนเตียง โดยไม่ขัดขืนอะไร เพียงแค่คิดว่า ธนพัตไม่โกรธก็พอแล้ว
หมอมาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่รีบตรวจให้สาริศาแล้วก็บอกว่าอาจจะมีควันเข้าตา หยอดยาหยอดตาก็พอแล้ว แต่เพราะไฟไหม้ตาเลยขาดน้ำ หลายวันมานี้จะให้ดีก็อย่าใช้ตามากเลย
ในความเข้าใจของสาริศานั้น คือพยายามอย่าใช้สายตา ก็คืออย่าอ่านหนังสือดูทีวี แต่ชายเล่นใหญ่อย่างธนพัตนั้น กลับให้หมอเอาที่ครอบตามาให้เธอ
“นี่มันเว่อเกินไปหรือเปล่า” สาริศาอดไม่ได้ที่จะเถียงออกมาอย่างไม่เห็นด้วย “ฉันไม่ได้ป่วยอะไรมากมาย มองไม่ชัดแบบนี้ ฉันจะใช้ชีวิตปกติเลยไม่ได้เหรอ”
“คุณไม่ต้องใช้ชีวิตปกติหรอก” ธนพัตในตอนนี้ กลับพูดตรงไปตรงมาและเผด็จการยิ่งกว่าเวลาปกติ ก่อนจะเอาที่ครอบตาไปครอบที่หัวของสาริศาโดยไม่พูดอะไรเท่าไหร่ พลางพูดด้วยน้ำเสียงน่าเชื่อถือ “เดี๋ยวฉันดูแลคุณเอง”
“แต่คุณต้องทำงาน……” สาริศาก็ยังถูกให้ปิดตาโดยการบังคับอยู่ดี เมื่อความมืดดำคืบคลานเข้ามา เธอไม่รู้สึกปลอดภัยเลย และอยากจะเอาออก แต่ธนพัตนั้นก็จับมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้
“ฉันแจ้งไปแล้ว ว่าช่วงนี้ฉันจะทำงานที่นี่”
“อะไรนะ?” สาริศาเหม่อไป จนถึงกับลืมที่จะเอาที่ครอบตาออกเลยล่ะ “คุณจะทำงานในห้องพักรักษาตัวงั้นเหรอ?”
ธนพัตในความทรงจำของเธอนั้น เป็นคนบ้างาน การทำงานล่วงเวลาก็เป็นเรื่องปกติ แต่ตอนนี้ กลับไม่ไปที่บริษัทเพื่อดูแลเธองั้นเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...