ปกติธนพัตนั้นใส่แค่เชิ้ตกับสูทเท่านั้น แต่จากที่มือเธอสัมผัสได้ในตอนนี้ มันลื่นมือเป็นอย่างมาก แถมยังใส่หลวมอีกด้วย เลยรู้เลยว่ามันเป็นชุดนอนผ้าไหมลื่นๆ ที่ธนพัตใส่เป็นปกติ
แต่ทำไมธนพัตไม่กลับบ้านนอน แล้วใส่ชุดนอนมาอยู่บนเตียงของตัวเองล่ะ?
สาริศายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เลยอดไม่ได้ที่จะใช้มือทั้งสองข้างลูบไปที่ตัวของธนพัต
แต่การลูบในครั้งนี้ สิ่งที่อยู่ในหัวของเธอมันกลับคิดว่ามีอะไรไม่ถูกต้องแล้ว——
อืม แม้ก่อนหน้านี้จะได้เห็นหุ่นของธนพัตด้วยตาตัวเอง แต่พอจับดูแล้วมันไม่เหมือนกับตอนนั้นเลยจริงๆ
ก่อนหน้านี้เธอได้ยินคนอื่นบอกว่าซิคแพ็กนั้น มันเหมือนกับถาดน้ำแข็ง เธอก็คิดว่ามันเว่อมาก แต่เมื่อได้มาจับในวันนี้ มันเหมือนมากจริงๆ
ด้านข้างนั้นยังมีรอยกล้าม ที่มีเส้นโค้งงออย่างเป็นเอกลักษณ์ เหมือนกับ……
สาริศานั้นลูบอย่างร้อนใจเล็กน้อย มือเลยลื่นจนไหลลงไปต่ำกว่าร่องเส้นนั้น จนจับไปโดย……
จู่ๆ เธอก็ได้ยินธนพัตกระแอมขึ้นมา จากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำกว่าเดิม “สาริศา คุณกำลังยั่วฉันเหรอ?”
สาริศาเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองนั้นลูบไปโดนอะไร เลยรีบชักมือกลับด้วยความตกใจ
แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าข้อมือนั้นจะถูกธนพัตจับเข้าอีกครั้ง ก่อนจะเอามาแนบหน้าอกของเขา
“ธ...ธนพัต” แม้สาริศาจะร้อนรนใจ แต่ก็ยังมั่นใจได้ว่าธนพัตนั้นใส่ชุดนอน แล้วนอนอยู่ข้างๆ เธอ “คุณมานอนตรงนี้ทำไม?ทำไมไม่กลับบ้าน?”
“จะมาอยู่กับคุณ” ธนพัตพูดเสียงทุ้ม
“อยู่เป็นเพื่อนฉันงั้นเหรอ?” สาริศาเหม่อไปในทันที
ในความมืดนั้น ธนพัตเห็นว่าแม้สาริศาจะใส่ที่ครอบตา แต่ก็เปิดปากออกมาเล็กน้อย เขาเห็นความตกใจของเธอภายใต้ที่ครอบตาได้เป็นอย่างดี ก่อนจะอดไม่ได้ที่จะเม้มปากเบาๆ
ที่บางแห่งในใจเหมือนจะอ่อนยวบเลยล่ะ ความโกรธที่มีในตอนแรกเพราะเป็นห่วง ในตอนนี้ ในคืนที่เงียบสงัด ก็เหมือนจะเงียบลงได้แล้ว
เขายื่นมือออกไปโอบเอวของเธออย่างอดไม่ได้ ก่อนจะดึงตัวอ่อนนุ่มของเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
เขาก้มหน้าลงเบาๆ ก่อนจะซุกเข้าไปในผมสลวยของเธอ เลยได้กลิ่นหอมอ่อนๆ มาจากสาริศา เขาหายใจเข้าอย่างโหยหา พลางพูดเสียงทุ้ม “ขอโทษ”
สาริศาใส่ที่ครอบตา ตอนแรกคิดว่าท่าทีน่าจะเชื่องช้ากว่าปกติ เมื่อได้ยินการขอโทษจากธนพัตในตอนนี้ เลยยิ่งทำอะไรไม่ถูก “ขอโทษอะไร?”
“วันนี้ ฉันวู่วามไปหน่อย” ธนพัตคิดถึงตอนที่ตะโกนใส่สาริศาตอนกลางวัน แล้วก็ปาจี้นั้นไป ด้วยความหงุดหงิด
เมื่อไหร่กัน การควบคุมอารมณ์ของเขามันแย่ขนาดนี้?
เขาคิดมาตลอดว่าหลังจากที่เกิดเรื่องเมื่อสิบปีก่อนขึ้น เขาก็ไม่ตกอกตกใจอะไรอีกแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าผู้หญิงอย่างสาริศานั้นจะมาทำให้เขาสับสนวุ่นวายได้
สาริศาคิดขึ้นได้ทันที ตอนเช้าธนพัตนั้นทำลายจี้อันนั้นไป ขนตาใต้ที่ครอบตา มันก็สั่นเบาๆ อย่างคุมไม่ได้
ธนพัต……เสียใจที่ทำลายสร้อยเส้นนั้นไปแล้วใช่ไหมล่ะ?
ในใจนั้นมีความรู้สึกอย่างบอกไม่ถูก เธอฝืนยิ้มมุมปาก “ใช่สิ สร้อยที่คุณรักขนาดนั้น เอาไปทำลายแบบนั้น มันก็วู่วามเกินไปจริงๆ นั่นแหละ”
แม้จะอยู่ในความมืดมน แต่ธนพัตเองก็ยังมองออกว่ารอยยิ้มของสาริศามันฝืนขนาดไหน
ธนพัตอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะใช้แรงในมือให้สาริศาที่อยู่ในอ้อมกอดเขานั้นเข้ามาแนบตัวเขามากกว่าเดิม
“สิ่งที่ฉันเสียดาย ไม่ใช้สร้อยที่พัง” เขาพูดเสียงต่ำข้างหูเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...