หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 108

บนป้ายนั้นยังมีรูปขาวดำอยู่ด้วย หญิงในรูปนั้น ยิ้มอย่างเบิกบานใจ เพราะเป็นช่วงเวลาที่สว่างไสวมากที่สุด สวยงามน่าประทับใจขนาดนั้น แต่กลับต้องมาหยุดอยู่ในภาพขาวดำแบบนี้

“ขอโทษด้วยนะ” สาริศายังคงตกอยู่ในภวังค์ของป้ายหน้าหลุมศพตรงหน้า ตอนที่ยังไม่มีสติกลับมานั้น ธนพัตที่อยู่ข้างๆ จู่ๆ ก็เปิดปากพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ “พาคุณมาที่นี่ โดยไม่ได้ถามความเห็นคุณก่อน คุณจะไม่โกรธใช่ไหม?”

สาริศาอึ้งไป จากนั้นก็รีบส่ายหัว

แน่นอนว่าเธอคงไม่รู้สึกไม่ดีใจ ในทางกลับกัน พูดตามตรงแล้วเธอมีความดีใจเล็กน้อย

หลังจากที่ได้ยินว่าพี่จ๊าจ๋าบอกเรื่องคดีลักพาตัวกับตัวเองในตอนนั้นไปแล้ว อันที่จริงเธอก็อยากจะถามธนพัตให้รู้เรื่อง

แต่ถึงอย่างไร นี่ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคนอื่น อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่หนักหนาแบบนี้ด้วย เธอยิ่งพูดอะไรไม่ออกจริงๆ

แต่คิดไม่ถึง ว่าธนพัตจะพูดขึ้นมาด้วยตัวเอง มันหมายความว่า เขายอมเปิดใจให้กับตัวเองใช่ไหม?

ในตอนนี้ธนพัตจูงมือเล็กๆ ของสาริศาอยู่ ความอุ่นจากมือเธอมันสัมผัสกับฝ่ามือของตัวเอง เมื่อเห็นป้ายหน้าหลุมศพตรงหน้า แววตาของเขาก็เป็นประกาย “ฉันว่า คุณน่าจะรู้ว่าเธอเป็นใครใช่ไหม?”

สาริศาลังเลสักพัก แต่ก็ยังพยักหน้า “รู้นิดหน่อย”

“ฉันเชื่อว่าคุณเองก็น่าจะได้ยินข่าวคราวเรื่องของคดีลักพาตัวมาไม่น้อยเลย” ธนพัตยังคงมีแววตานิ่งเฉย พลางรับรู้อารมณ์จากน้ำเสียงไม่ได้เลย “บอกว่าฉันทิ้งเธอไม่สนใจเธอ แล้วก็เอาตัวรอดคนเดียวอะไรแบบนั้นน่ะเหรอ?”

สาริศานั้นเครียดขึ้นมา พลางไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร

แต่ถ้าเทียบกับความตื่นเต้นของเธอ ธนพัตถือว่าสงบมาก แถมยังยิ้มให้เบาๆ “คุณไม่ต้องเครียดนะ พูดความจริงกับฉันก็พอแล้ว”

“มีคนบอกฉันอย่างนั้นจริงๆ” หลังจากที่ลังเลอยู่นาน สาริศาก็เปิดปากพูดความจริงออกมา แต่ก็ยังพูดเสริมอีก “แต่ฉันไม่เชื่อ”

แววตาล้ำลึกของธนพัตแอบเป็นประกายขึ้นมา “ทำไมไม่เชื่อล่ะ?”

“เพราะฉันคิดว่าคุณคงไม่มีทางทิ้งใครไปโดยไม่สนใจ ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ที่คนคนนั้นเป็นแฟนของคุณด้วย” สาริศาพูดเสียงเบาออกมา แต่ก็ยังมองไปทางธนพัตอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่ “ฉันพูดไม่ผิดเลยใช่ไหม?”

ธนพัตไม่ได้ตอบสาริศาตรงๆ เพียงแค่มองป้ายหน้าหลุมศพ ก่อนจะพึมพำออกมากับตัวเอง “ไม่ทิ้งใครไปโดยไม่สนใจเหรอ?อันที่จริงขนาดตัวฉันเอง……ยังไม่รู้เลย……”

สาริศาชะงักไป

ไม่รู้เหรอ?

อะไรที่เรียกว่าไม่รู้เหรอ?

ธนพัตกลับไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ต่อ เพียงแต่พูดออกมา “พชิรากับฉันนั้นรักกันมาตั้งแต่เด็ก เธอนั้นเป็นลูกสาวของตระกูลนิธิธราสกุล พวกเราสองตระกูล เข้ากันได้เป็นอย่างดีมาตลอด”

สาริศาอึ้งไป

ที่แท้พชิรา ก็เป็นลูกสาวของตระกูลนิธิธราสกุลเหรอ?

ตระกูลนิธิธราสกุลกับตระกูลเธียรนิติฐาดลของเมธาวิน แล้วก็ตระกูลกีรติเมธานนท์ของธนพัต ถูกเรียกว่าเป็นตระกูลใหญ่สามตระกูลในเมืองS และเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงมารุ่นต่อรุ่นแล้วด้วย

เป็นไปตามคาด พชิราคนนี้ เป็นคนสวยและรวยที่มีพร้อมทุกอย่างไม่ขาดเลยล่ะ

สาริศาหัวเราะเสียงขมขื่น ไม่รู้ว่าทำไมในใจถึงได้รู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก

เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ดีเลิศขนาดนี้ ตัวเองนั้นเป็นเหมือนหญ้าวัชพืชเท่านั้นเอง

เธอกดความสงสัยเอาไว้ในใจ ก่อนจะพูดออกมา “แล้วไงต่อ?”

“ตอนแรกฉันคิดว่า พอพวกเราโตแล้ว ก็จะหมั้นหมายแต่งงาน เหมือนกับชายหญิงทั่วไป” ธนพัตพูดเสียงทุ้ม “แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าคดีลักพาตัวสิบกว่าปีก่อน เธอกับฉัน ถูกพาไปด้วยกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ