หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 109

“ตอนที่ติดอยู่ในอัคคีภัย ฉันฟื้นขึ้นมาก็เห็นว่าพชิรานั้นไม่อยู่แล้ว ฉันพยายามหาทั้งโกดังแล้ว ก็ไม่เจอเธอ” ธนพัตพูดเสียงทุ้ม “หาเธอไม่เจอ แถมเชือกของฉันยังแกะออกอีก ตอนแรกฉันเองก็คิดว่า เธอนั้นหนีออกไปก่อนแล้ว หรือไม่ก็มีใครสักคนเข้ามาพาตัวเธอไป แล้วแกะมัดให้ฉันด้วย ดังนั้นฉันเลยจากไป แต่ว่า เมื่อตรวจสอบแล้วตำรวจก็บอกฉัน ว่ามันเป็นไปไม่ได้”

“ทำไมเป็นไปไม่ได้ล่ะ?”

“เพราะพวกเขาเจอศพของพชิราที่ถูกเผาไหม้ แล้วก็ยังถูกเชือกมัดอยู่ด้วย พวกเขาตรวจเทียบDNAแล้ว ก็มั่นใจได้ว่าเป็นเธอ ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังเจอใบมีดอยู่ที่พื้น น่าจะเอามาเพื่อตัดเชือกของฉัน แต่บนมือของฉันก็มีรอยบาดเจ็บจากใบมีดเหมือนกัน”

สาริศาเองก็งงเป็นไก่ตาแตก

แน่นอนว่าทั้งหมดนั้น มันก็เป็นพยานแล้ว ว่าธนพัตนั้นเป็นคนตัดเชือกให้ตัวเอง จากนั้นก็หนีไปคนเดียว เลยไม่ได้เป็นห่วงพชิราเลย

แต่ทว่า ในความทรงจำของธนพัต ไม่ใช่แบบนี้

ตามความจริงนั้น ความเป็นไปได้ที่มากที่สุดนั้น คือการที่ธนพัตนั้นโกหก พลางปิดบังเรื่องทั้งหมดที่ตัวเองทำลงไปอย่างเย็นชาไร้อารมณ์

“ดังนั้น นี่มันก็คือความจริงในตอนนั้นไงล่ะ”ธนพัตค่อยๆ เปิดปากพูด พลางเงยหน้ามองไปทางสาริศา “อันหนึ่งเป็นแบบที่อยู่ในความทรงจำของฉัน ส่วนอีกอันก็เป็นแบบที่ทุกคนตรวจสอบออกมาได้ สาริศา คุณเชื่ออันไหน?”

สาริศาคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ ธนพัตจะถามตัวเองแบบนี้ เลยอดไม่ได้ที่จะตกใจขึ้นมาทันที

เธอมองแววตาของธนพัตตรงหน้า มันลึกลับเหมือนหินสีนิลแวววาว เธอนั้นเหมือนจะเห็นความคาดหวังภายใต้แววตานั้นด้วย

สาริศามีความสงสารเห็นใจในแววตา ก่อนจะพูดเสียงเบาออกมา “ฉันเชื่อคุณค่ะ”

ธนพัตมีแววตาเป็นประกาย แต่เพียงไม่นาน เลยยิ้มมุมปากขึ้นมา “ไม่ว่าคุณจะพูดออกมาอย่างจริงใจหรือไม่ เมื่อได้ยินคุณพูดแบบนั้น ฉันก็ดีใจเป็นอย่างมาก”

พูดไป เขาเบือนหน้าหนี แต่ไม่คิดเลยว่าในตอนนั้นจู่ๆ สาริศาจะนั่งยองลงต่อหน้าเขา จากนั้นก็จับมือของเขา แล้วก็มองเขาที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ด้วยสายตาในระดับเดียวกัน

“ฉันพูดจริงๆ นะ” สาริศานั้นเปิดปากพูดอย่างจริงใจ “เหมือนกับตอนแรกที่คุณเลือกที่จะเชื่อฉัน ฉันเองก็เชื่อคุณ ไม่ว่าจะมีหลักฐานมากมายแค่ไหน แต่ถ้าเป็นสิ่งที่คุณพูด ฉันก็จะเชื่อคุณอยู่แล้ว”

คำพูดของสาริศานั้น พูดจริงจังขนาดนั้น ทุกๆ คำ มันเหมือนยืนยันลงไปในใจของธนพัตแล้ว

ในใจของธนพัตนั้นสั่นไหวเล็กน้อย พลางอดไม่ได้ ที่จะกำมือของสาริศาแน่นเหมือนกัน

หลายปีมานี้ แม้แต่คุณปู่ที่เห็นเขาโตมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ยังไม่เคยเชื่อเขาอย่างสนิทใจเลย

แม้เขาจะไม่เคยสนใจความคิดหรือคำพูดใดๆ ของคนอื่นเลย แต่เขาแคร์สาริศาจริงๆ

ถ้าสาริศาเหมือนกับคนอื่นๆ พลางคิดว่าเขาคือคนที่ทิ้งแฟนสาวและไม่สนใจ บางทีเขาอาจจะเจ็บปวดใจก็ได้

แต่เธอกลับบอกว่าเชื่อเขา

เมื่อมองแววตาเป็นประกายของสาริศา ใจเขาก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นเบาๆ แต่ขณะเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงขมขื่น “แต่ว่า สาริศาคุณรู้ไหมว่าบางทีแม้แต่ฉันเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย”

สาริศาอึ้งไป “หมายความว่าอย่างไร?”

“ตอนที่สืบคดีเมื่อสิบปีก่อนนั้น ฉันทำการสะกดจิตและรักษาทางจิตมากมาย เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองพูดความจริง แน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญต่างบอกว่าฉันไม่ได้โกหก แต่จิตแพทย์กลับบอกว่าฉันอาจจะมีความทรงจำที่บิดเบือน เพราะตอนนั้นโดนฉีดยานอนหลับเข้าไป แล้วก็เพราะเจอเรื่องกระทบกระเทือนมาก เลยลืมไปว่าตัวเองนั้นใช้ใบมีดตัดเชือกของตัวเอง แล้วก็ลืมไปว่าทิ้งพชิราไปอย่างไร ฉันอาจจะแต่งเรื่องในความทรงจำขึ้นมา เพราะฉันไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริงที่ตัวเองทำผิด”

สาริศาเหม่อไป ก่อนจะพูดออกมา “จะเป็นไปได้อย่างไร?”

ธนพัตที่เธอรู้จัก เป็นคนแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย จะมาทำเรื่องโกหกแล้วหลีกหนีแบบนี้ได้อย่างไร?

“นั่นสิ ฉันเองก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้เหมือนกัน” ธนพัตมีความขมขื่นอยู่ที่มุมปาก ก่อนจะยื่นมือออกมาลูบใบหน้าของสาริศา พลางพูดเสียงทุ้ม “แต่ฉันในตอนนั้น กลัวจริงๆ เพราะถึงอย่างไรฉันในตอนนั้นก็ยังเด็กอยู่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ