หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 113

ร่างกายของสาริศาตอนนี้ราวกับถูกไฟแผดเผา จะไปได้ยินในสิ่งที่ธนพัตพูดได้อย่างไร ทำเพียงพึมพำอย่างทรมาน “ช่วย……ฉันด้วย……”

ดวงตาเขาธนพัตก็ยิ่งมืดมน ลูกกระเดือกเกร็งแน่น โน้มตัวลงกดทับสาวน้อยที่ร้อนรุ่มอยู่บนเตียง

แล้วประคบเข้าริมฝีปากที่ร้อนผ่าวของเธอ กลืนเสียงพึมพำอันเจ็บปวดของเธอและบดขยี้อย่างไม่หยุดหย่อน

สักพัก ธนพัตก็รู้สึกว่าไฟในร่างกายของสาริศา ดูเหมือนจะมาแผดเผาอยู่ในร่างกายของเขาเอง!

แต่ว่าเขายังคงไม่รีบร้อน 

นี่เป็นครั้งแรกของเขากับสาริศา

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ต้องการให้ครั้งแรกของตัวเองกับสาริศา เกิดขึ้นขณะที่สาริศาถูกวางยา

แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ เขาเองก็ไม่อยากจะอดทนอีกต่อไป

เขาต้องการเธอ ต้องการมาตั้งนานแล้ว

เขารู้ ต่อให้สาริศาจะถูกวางยา เธอก็ยังความรู้สึกและความจำ ดังนั้นเขาจึงอยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เธอ

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็ยิ่งอ่อนโยน ริมฝีปากบางของเขากระซิบกระซาบไปยังข้างติ่งหูอันไวต่อความรู้สึกของสาริศา:“สาริศา คุณจะกลัวไหม”

รู้สึกถึงแรงกดทับบนร่างกายกับความร้อนผ่าวที่ต่างกัน ทำให้สมองของสาริศานึกถึงเรื่องราวเมื่อสองปีก่อนอย่างควบคุมไม่ได้

ความเจ็บปวดจากการถูกพราก…… 

เธอเริ่มขดตัวด้วยความกลัว 

ดูเหมือนธนพัตจะสัมผัสได้ถึงความกลัวและการต่อต้านของเธอ ครั้งนี้ ธนพัตก็ไม่ได้ยอมหรือถอยอีกไป แต่กลับจับข้อมือของเธอ แล้วกดลงบนหมอนเหนือศีรษะของเธอ จากนั้นโน้มตัวเข้าไปใกล้ใบหูของเธอ ลมหายใจจากการเปล่งเสียงออกมานั้น ทั้งหมดได้คลอเคลียอยู่ในแก้วหูของเธอ

“ไม่ต้องกลัวนะ” น้ำเสียงของเขาต่ำและแหบแห้ง “ผมรู้ว่าคุณมีเงามืดในใจ แต่ครั้งนี้ให้ผมได้ช่วยคุณนะ”

คำพูดของธนพัตประหนึ่งมนต์สะกดจิตคนก็ไม่ปาน สาริศารู้สึกเพียงราวกับตัวเธอตกอยู่ในมนต์สะกดนั้นในบัดดล เดิมทีความรู้สึกที่กลัวจนร่างเกร็ง ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลงอย่างช้า ๆ 

ถึงแม้ฤทธิ์ยาจะทำให้เธอทุกข์ทรมาน แต่สติสุดท้ายของเธอก็ยังคงรับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนับจากนี้

เพราะอีกฝ่ายคือธนพัต ดังนั้น บางที อาจจะ……

สัมผัสถึงความผ่อนคลายของสาริศา แววตาของธนพัตก็ผุดประกายรอยยิ้มขึ้นจาง ๆ ในที่สุดก็ได้ปลดปล่อยความยับยั้งช่างใจของตัวเองให้อิสระ ค่อย ๆ ครอบครองเรือนร่างของสาวน้อย……

ค่ำคืนราตรีที่ยาวนาน ความตื่นเต้นทำให้มิอาจหลับไหลลง

สาริศาเองก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว รู้เพียงว่าตัวเองเกร็งและกลัวมากในตอนแรก แต่ตอนหลังก็ค่อย ๆ เริ่มให้ความร่วมมือ

พูดตรง ๆ สำหรับเรื่องแบบนี้ เธอนั้นติดอยู่กับฝันร้ายเมื่อสองปีก่อน

คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้เธอสามารถเดินออกมาได้แล้ว ออกมาสัมผัสกับความสุขของผู้หญิงธรรมดาทั่วไป

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ร่างที่ร้อนผ่าวของเธอค่อย ๆ ได้บรรเทา เธอเองก็เหนื่อยเพลียมาก ในที่สุดก็ทรุดตัวลงในใต้ผ้าห่มแล้วก็หลับสนิทไป…..

วันรุ่งขึ้น สาริศาตื่นขึ้นจากความหนาว

ช่วยไม่ได้ เมื่อคืนธนพัตได้ปรับเครื่องปรับอากาศไปเย็นสุด ไม่น่าแปลกที่จะรู้สึกหนาว

สาริศาตื่นขึ้นมาด้วยตัวสั่นเทา แล้วมองเห็นธนพัตนอนอยู่ข้างกายตัวเอง ใบหน้าหลับไหลอันหล่อเหลาภายใต้แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องกระทบผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ดูงดงามสมบูรณ์แบบราวกับงานหัตถกรรมแกะสลักก็ไม่ปาน

สาริศาจ้องตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง

จนกระทั่งธนพัตพูดด้วยดวงตาทั้งที่ยังไม่ลืม :“จ้องพอหรือยัง”

สาริศาถึงเพิ่งจะรู้สึกตัวว่า ความจริงแล้วธนพัตนั้นตื่นตั้งนานแล้ว จึงได้อยากหันหลังทันที

แต่ว่าเธอยังไม่ทันได้หันหลัง ธนพัตก็ได้คว้าไหล่ของเธอไว้ แล้วดึงเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด

สาริศาซบอยู่ในอ้อมกอดอันแข็งแกร่งของธนพัต ฉับพลันหัวใจของเธอก็เต้นรัวลนลานขึ้น

จากนั้นธนพัตก็ประทับรอยจูบลงที่หน้าผากเบา ๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ ๆ:“เมื่อคืนพอใจไหม ”

สาริศาตะลึงชะงักก่อน จากนั้นตามด้วยใบหูที่แดงก่ำ

“พอใจอะไร!” ภายใต้ความเขินอาย เธอโกรธแล้วพึมพำ “คุณมันฉวยโอกาส!”

“ใช่เหรอ” ธนพัตก็ไม่รู้สึกหงุดหงิด แค่ยิ้มเบา ๆ “ทำไมผมถึงรู้สึกว่าผมได้ช่วยคุณออกจากน้ำจากไฟนะ”

สาริศากัดฟันแล้วด่าขึ้น :“ไร้ยางอาย”

“ผมไร้ยางอาย?” ธนพัตก็ยิ่งยิ้มอย่างมีความสุข “อย่างนั้นคุณจะให้โอกาสผมไร้ยางอายแบบนี้อีกไหม”

สาริศาอายจนพูดอะไรไม่ออก

เธอพบว่าธนพัตคนนี้คือหมาป่าตัวใหญ่ ที่ภายนอกดูสุภาพเคร่งขรึม แต่จริง ๆ แล้วภายในซ่อนด้วยความชั่วร้าย!

เธอจะมีหน้ามาตอบคำถามนี้ได้อย่างไร จึงได้แต่หุบปากแน่นไม่ตอบใด ๆ

แต่ธนพัตมีหรือจะปล่อยเธอไปแบบนี้ ว่าแล้วก็เชยคางบังคับเธอให้เงยหน้าขึ้น แล้วกล่าวเบา ๆ :“ตอบผมมา สาริศา”

สาริศาตอนนี้หน้าแดงจนเลือดแทบจะสามารถหยดออกมา เธอเบนสายตาและทำเสียงฮึดฮัดทางจมูก “แล้วแต่อารมณ์ฉัน”

ธนพัตอึ้งตะลึง

ถึงแม้จะไม่ได้มั่นใจ แต่สำหรับความเขินอายของสาริศา บางทีนี่อาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว

ความสุขในใจได้เบิกบาน เขากอดสาริศาไว้แล้วกล่าวเบา ๆ :“ได้ครับ ต่อไปจะต้องทำให้คุณนายพอใจอย่างที่สุด”

ใบหน้าของสาริศาก็ยิ่งแดงก่ำขึ้น!”

แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธว่ามีความรู้สึกวาบหวามอยู่ในใจ

ในที่สุด……

ในที่สุดก็สามารถเดินออกมาจากเงามืดเมื่อสองปีก่อนแล้ว

ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่าตัวเองนั้นจะไม่สามารถแต่งงานมีลูกเหมือนผู้หญิงปกติทั่วไป แต่คิดไม่ถึงว่า สุดท้ายเธอจะได้พบกับชายคนหนึ่งที่สามารถพาเธอเดินออกมา

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าสารเลวคนใดกันที่เป็นคนวางยาเธอเมื่อคืนนี้ แต่ว่าลึก ๆ ในใจเธอสักแห่งหนึ่ง มีความรู้สึกอยากขอบคุณคนวางยา

สัมผัสถึงความอบอุ่นและการเต้นของหัวใจอันแข็งแกร่งบนร่างของธนพัต จู่ ๆ สาริศาก็เริ่มรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ และได้กอดเอวของเขาจากนั้นกล่าวเบา ๆ :“ธนพัต ฉันรู้สึกว่าฉันชอบคุณเข้าแล้ว”

สำหรับจุดนี้ ความจริงแล้วเธอรู้ตั้งนานแล้ว

แต่ว่าเดิมที เธอวางแผนที่จะเก็บอารมณ์หวั่นไหวนี้ซ่อนไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ เพราะเธอคิดว่าธนพัตนั้นไม่มีทางที่จะชอบตัวเอง

แต่หลังจากที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย เธอก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของธนพัต

ดังนั้น เธอถึงได้ตัดสินใจให้โอกาสธนพัต และก็ให้โอกาสตัวเอง

ธนพัตคิดไม่ถึงว่าสาริศาจะสามารถพูดเช่นนี้ออกมาได้ เขาจึงตกตะลึงก่อน จากนั้นก็กอดสาริศาไว้อย่างแรง ประหนึ่งว่าจะหลอมร่างสาวน้อยคนนี้เข้ามาอยู่ในร่างของตัวเอง

“ผมก็เหมือนกัน” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเบา ๆ นุ่มนวลจนไม่เหมือนกับตัวเองแล้ว “อีกทั้งผมรู้สึกตั้งนานแล้ว เร็วกว่าคุณอีก”

สาริศาตะลึงครู่หนึ่ง ยังไม่ทันได้รู้ความหมายคำพูดนี้ของธนพัต จู่ ๆ ธนพัตก็ได้โน้มศีรษะลงมาประกบริมฝีปากของเธอ จึงอุดความสงสัยของเธอไว้ทั้งหมด

หลังจากที่จูบคลอเคลียกันครู่หนึ่งแล้ว ธนพัตก็ได้คลายตัวเธอออก ใบหน้าเผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา แล้วเปล่งเสียงขึ้น:“สาริศา ไม่มีฤทธิ์ยาแล้ว ทำอีกครั้งไหม?”

สาริศายังไม่ทันได้นึกคิดว่า “ทำอีกครั้ง” ของธนพัต คืออะไรอีกครั้ง ก็ถูกธนพัตประกบริมฝีปากอีกครั้ง

ไม่ช้า ความสงสัยของเธอก็ได้รับคำตอบจากการกระทำของธนพัต

ต่อไปในวันข้างหน้าที่นับไม่ถ้วน ทุกครั้งสาริศาลุกขึ้นจากเตียงแล้วเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว จะต้องโทษตัวเองที่ทำไมตอนนั้นถึงได้ขึ้นเรือโจรสลัดพอย่างธนพัตคนนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ